Heart disease is the leading cause

Heart disease is the leading cause of death for both men
and women in the US [1]. The 2010 Report of the Dietary
Guidelines Advisory Committee (DGAC) on the Dietary
Guidelines for Americans acknowledged that Americans
adults consume too little seafood and should be encouraged
to increase consumption to leverage heart health
benefits [19]. The DGAC cited previously published literature
that demonstrated biological effects of EPA and
DHA. Specifically, EPA and DHA supplementation as a
treatment strategy lowered blood concentration of triacylglycerol
as a marker of CVD, lowered overall mortality
in persons with CVD, and lowered arrhythmias
and sudden death [19,20]. This prompted the 2010
DGA to recommend 8 oz of seafood per week to contribute
an average of 250 mg per day of long-chain
omega-3 fatty acids, for all Americans. Furthermore,
2010 DGA [5] cited the importance of ensuring maternal
dietary intake of long chain omega-3 fatty acids, in
particular DHA, during pregnancy and lactation. The
American Heart Association’s recommendation is to
consume at least two 3.5 oz fish meals per week to
reduce the risk of CVD, with an emphasis on fatty
fish (i.e., salmon, herring, mackerel, sardines) to increase
EPA and DHA [6]. A total of 1 gram per day
of EPA plus DHA from a combination of higher
omega-3 fatty acid- containing fish and supplements,
if needed, in individuals with established CVD [3,5,6].
Fish is not a habitually consumed food in the US, creating
a challenge in estimating usual intake [7]. In the
US, per capita salmon consumption represents the single
largest contributor to dietary intake of long-chain
omega-3 fatty acids [21]. Previous findings report intake
of total omega-3 fatty acids in the United States to be
approximately 1.6 g/day, of which 0.1-0.2 g/day stemming
from EPA and DHA and 1.4 g/day from ALA [22].
Our current data show that US adults ≥ 19 years of age
consume 0.41 g/day and 0.72 g/day of EPA and DHA
from foods and supplements, respectively. While daily
intake has increased substantially in nearly two decades,
American adults are not meeting recommendations for
fish-derived omega-3 fatty acids. Interestingly, our study
showed comparable ALA intake to the earlier study [22],
suggesting that plant-based omega-3 fatty acids may not
have the consumer awareness when it pertains to heart
health benefits.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตายทั้งสองคน
หญิงในสหรัฐอเมริกา [1] รายงาน 2010 ของอาหารสำหรับผู้
แนวทางปรึกษากรรมการ (DGAC) ในอาหารสำหรับผู้
ยอมรับแนวทางสำหรับชาวอเมริกันที่ชาวอเมริกัน
ผู้ใหญ่กินอาหารน้อยเกินไป และควรจะสนับสนุน
เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้กับสุขภาพหัวใจ
ประโยชน์ [19] DGAC อ้างก่อนหน้านี้เผยแพร่วรรณคดี
ที่แสดงผลทางชีวภาพของ EPA และ
ดีเอชเอ โดยเฉพาะ EPA และดีเอชเอแห้งเสริมเป็นการ
กลยุทธ์รักษาลดลงความเข้มข้นเลือดของ triacylglycerol
เป็นเครื่องหมายของผิว CVD การตายโดยรวมลดลง
ในคนผิว CVD และลด arrhythmias
และการใช้ sudden death [19,20] นี้ได้รับการพร้อมท์ 2010
DGA 8 ออนซ์ทะเลต่อสัปดาห์จะช่วยแนะนำ
โดยเฉลี่ย 250 มิลลิกรัมต่อวันของโซ่ยาว
กรดไขมันโอเมก้า-3 สำหรับชาวอเมริกันทั้งหมด นอกจากนี้,
DGA 2010 [5] อ้างความสำคัญของใจแม่
อาหารบริโภคของยาวโซ่กรดไขมันโอเมก้า-3 ใน
ดีเอชเอเฉพาะ ระหว่างตั้งครรภ์และด้านการให้นม ใน
คำแนะนำของสมาคมหัวใจอเมริกันจะ
กินอาหารปลา 3.5 oz น้อยสองต่อสัปดาห์เพื่อ
ลดความเสี่ยงของผิว CVD โดยเน้นไขมัน
ปลา (เช่น ปลาแซลมอน ปลา ปลา ปลา) เพิ่ม
EPA และดีเอชเอ [6] จำนวน 1 กรัมต่อวัน
EPA และดีเอชเอจากการรวมกันของสูง
โอเมก้า-3 กรดไขมันที่มีปลาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร,
ถ้าจำเป็น ในบุคคลที่มีผิว CVD ขึ้น [3,5,6] .
ปลาไม่ใช่อาหารนิตย์ใช้ในสหรัฐอเมริกา สร้าง
ความท้าทายในการประมาณปริมาณปกติ [7] ในการ
สหรัฐฯ เดียวแสดงถึงปริมาณต่อ capita แซลมอน
ผู้ใหญ่การบริโภคอาหารของโซ่ยาว
กรดไขมันโอเมก้า 3 [21] ค้นพบก่อนหน้านี้รายงานการบริโภค
ของกรดไขมันโอเมก้า-3 รวมในสหรัฐอเมริกาจะ
ประมาณ 1.6 g/วัน ที่ 0.1-0.2 g/วัน กำลัง
จาก EPA และดีเอชเอ และ 1.4 g/วัน จากอลา [22] .
ข้อมูลปัจจุบันของเราแสดงว่าเราผู้ใหญ่≥อายุ 19 ปี
ใช้ 041 g/วัน และวันละ 0.72 กรัมของ EPA และดีเอชเอ
จากอาหารและอาหารเสริม ตามลำดับ ในขณะที่ทุกวัน
บริโภคได้เพิ่มขึ้นมากในเกือบสองทศวรรษ,
ผู้ใหญ่อเมริกันจะประชุมคำแนะนำสำหรับ
มาปลากรดไขมันโอเมก้า-3 เป็นเรื่องน่าสนใจ การศึกษาของเรา
พบบริโภคอลาเทียบได้กับการศึกษาก่อนหน้านี้ [22],
แนะนำว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 จากพืชอาจไม่
มีการรับรู้ของผู้บริโภคเมื่อมันเกี่ยวข้องกับหัวใจ
สุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคหัวใจเป็นสาเหตุของการตายสำหรับทั้งชาย
และหญิงในสหรัฐอเมริกา [1] 2010 รายงานของอาหาร
แนวทางคณะกรรมการที่ปรึกษา (DGAC) ในอาหาร
แนวทางสำหรับชาวอเมริกันได้รับการยอมรับว่าชาวอเมริกัน
ผู้ใหญ่กินอาหารทะเลน้อยเกินไปและควรได้รับการส่งเสริม
ในการเพิ่มการบริโภคเพื่อยกระดับสุขภาพของหัวใจ
ประโยชน์ [19] DGAC อ้างเอกสารตีพิมพ์ก่อนหน้านี้
แสดงให้เห็นว่าผลกระทบทางชีวภาพของ EPA และ
DHA โดยเฉพาะ EPA และ DHA เสริมเป็น
กลยุทธ์การรักษาลดความเข้มข้นของเลือดของ triacylglycerol
เป็นเครื่องหมายของซีวีดีลดอัตราการเสียชีวิตโดยรวม
ในผู้ที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจและภาวะลดลง
และเสียชีวิตอย่างกะทันหัน [19,20] แจ้งเตือนเรื่องนี้ในปี 2010
ที่จะแนะนำ DGA 8 ออนซ์ของอาหารทะเลต่อสัปดาห์ที่จะนำ
ค่าเฉลี่ยของ 250 มิลลิกรัมต่อวันของสายโซ่ยาว
กรดไขมันโอเมก้า 3 สำหรับชาวอเมริกันทุกคน นอกจาก
DGA 2010 [5] อ้างถึงความสำคัญของการสร้างความมั่นใจมารดา
บริโภคสารอาหารของห่วงโซ่ยาวกรดไขมันโอเมก้า 3 ใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีเอชเอในระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมบุตร
คำแนะนำของอเมริกันสมาคมหัวใจคือการ
ใช้เวลาอย่างน้อยสอง 3.5 ออนซ์อาหารปลาต่อสัปดาห์เพื่อ
ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีความสำคัญในไขมัน
ปลา (เช่นปลาแซลมอน, ปลาทู, ปลาซาร์ดีน) เพื่อเพิ่ม
EPA และ DHA [6] รวมเป็น 1 กรัมต่อวัน
ของ EPA บวก DHA จากการรวมกันของที่สูงกว่า
โอเมก้า 3 ไขมันปลากรดที่มีและอาหารเสริม
ถ้าจำเป็นในบุคคลที่มีการจัดตั้งขึ้น CVD [3,5,6]
ปลาไม่ได้เป็นอาหารที่บริโภคเป็นประจำ ในสหรัฐอเมริกาการสร้าง
ความท้าทายในการประมาณปริมาณปกติ [7] ใน
สหรัฐอเมริกาการบริโภคต่อหัวปลาแซลมอนแสดงเดี่ยว
สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดในการบริโภคสารอาหารของสายโซ่ยาว
กรดไขมันโอเมก้า 3 [21] ผลการวิจัยที่ผ่านมารายงานปริมาณ
ของกรดไขมันรวมโอเมก้า 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็น
ประมาณ 1.6 กรัม / วันซึ่ง 0.1-0.2 กรัม / วันเกิด
จาก EPA และ DHA และ 1.4 กรัม / วันจาก ALA [22]
ข้อมูลปัจจุบันของเรา แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่สหรัฐอเมริกา≥ 19 ปี
กิน 0.41 กรัม / วันและ 0.72 กรัม / วันของ EPA และ DHA
จากอาหารและอาหารเสริมตามลำดับ ในขณะที่ในชีวิตประจำวัน
การบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมากในรอบเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา
ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจะไม่ได้คำแนะนำสำหรับการประชุม
กรดไขมันปลาที่ได้รับโอเมก้า 3 ที่น่าสนใจการศึกษาของเรา
แสดงให้เห็นว่าการบริโภค ALA เทียบได้กับการศึกษาก่อนหน้านี้ [22]
แสดงให้เห็นว่ากรดไขมันจากพืชโอเมก้า 3 อาจจะไม่ได้
มีการรับรู้ของผู้บริโภคเมื่อมันเกี่ยวข้องกับหัวใจ
ประโยชน์ต่อสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสำหรับทั้งชายและหญิงในสหรัฐอเมริกา
[ 1 ] 2010 รายงานของอาหาร
แนวทางคณะกรรมการที่ปรึกษา ( dgac ) ในแนวทางการบริโภคอาหารสำหรับชาวอเมริกัน ยอมรับว่า คนอเมริกัน

ผู้ใหญ่บริโภคอาหารทะเลน้อยเกินไป และควรได้รับการส่งเสริมเพื่อเพิ่มการบริโภคจาก

หัวใจสุขภาพประโยชน์ [ 19 ] การ dgac อ้างก่อนหน้านี้เผยแพร่วรรณกรรม
ที่แสดงผลทางชีวภาพของ EPA และ DHA
. โดยเฉพาะ EPA และ DHA เสริมเป็นกลยุทธ์รักษาความเข้มข้นของเลือดลดลง

triacylglycerol เป็นเครื่องหมายของ CVD , ลดอัตราการตายโดยรวมในผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด

เต้นผิดจังหวะ และลดลงและความตาย [ 19,20 ] นี้แจ้ง 2010
dga แนะนำ 8 ออนซ์ต่อสัปดาห์ เพื่อมีส่วนร่วม
อาหารทะเลเฉลี่ย 250 มิลลิกรัมต่อวัน เปลี่ยนตัว
3 กรดไขมัน สำหรับคนอเมริกัน นอกจากนี้
2010 dga [ 5 ] อ้างความสำคัญของการบริโภคอาหารของมารดาให้โซ่ยาว

โดยเฉพาะกรดไขมันโอเมก้า 3 , DHA ในช่วงตั้งครรภ์และการให้น้ำนม แนะนำสมาคมหัวใจอเมริกันเป็น


กินอย่างน้อยสอง 3.5 ออนซ์ปลามื้อต่อสัปดาห์ จะลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
,โดยเน้นไขมัน
ปลา ( เช่นปลาแซลมอน , ปลา , ปลาทู , ปลาซาร์ดีน ) เพิ่ม
EPA และ DHA [ 6 ] ผลรวมของ 1 กรัมต่อวันของ EPA และ DHA จาก

รวมกันสูงกว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีปลาและอาหารเสริม
ถ้าจำเป็น กับบุคคลใน 3,5,6 ก่อตั้ง CVD [ ] .
ปลาไม่ใช่นิสัยการบริโภคอาหารในสหรัฐฯ การสร้างความท้าทายในการประมาณปริมาณปกติ
[ 7 ] ใน
เราการบริโภคต่อหัวปลาแซลมอนแสดงเดี่ยว
ที่ใหญ่ที่สุดผู้การบริโภคของโอเมก้า - 3 กรดไขมันโซ่ยาว เป็น
[ 21 ] ก่อนหน้านี้พบรายงานการบริโภค
รวมกรดไขมันโอเมกา - 3 ในสหรัฐอเมริกาเป็น
ประมาณ 1.6 กรัม / วัน ซึ่ง 0.1-0.2 กรัม / วัน (
จาก EPA และ DHA และ 1.4 กรัม / วัน จากเอ๋ [ 22 ] .
ข้อมูลปัจจุบัน พบว่า ผู้ใหญ่อย่างเรา≥วัย 19 ปีกิน
041 กรัม / วันและ 0.72 กรัม / วันของ EPA และ DHA
จากอาหาร และอาหารเสริม ตามลำดับ ในขณะที่การบริโภคประจำวัน
ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในเกือบสองทศวรรษ
ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันจะไม่ตอบสนองแนวทาง
ปลาและกรดไขมัน ทั้งนี้ การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าการบริโภคเทียบเท่า
อ้าวไปก่อนหน้านี้การศึกษา [ 22 ] ,
บอกว่าจากพืชกรดไขมันโอเมก้า - 3 อาจ
มีความตระหนักของผู้บริโภคเมื่อมันเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ