Last month the Cambodian government

Last month the Cambodian government announced their plans to build a dam on one of the Mekong River's most important tributaries, the 3-S River Basin, in 2014. This was declared just five days before the government of Laos held their ceremony to launch the construction of the controversial Xayaburi dam, the first dam to be built on the lower Mekong River.
Conservation International along with other conservation groups working in the region are extremely concerned by this move and have requested a delay on this decision to allow time for research to better understand the trade-offs between power generation and the dam's impacts, and the opportunity to offer sustainable alternatives for Cambodia's economy.
In Cambodia today only about 5% of infrastructure projects go through the Ministry of Environment's Environmental Impact Assessment process, and when they are completed, they often do not include detailed studies of the full range of environmental impacts.
Such considerations are crucial for the Greater Mekong region's development pathway and will ensure that these countries are protecting yet utilizing their natural assets for the benefit of their people, their economy and the environment.
The 3-S River Basin (Sekong, Sesan and SrePok Rivers), borders Laos, Cambodia and Vietnam, and supports 20% of the Mekong River water flows, ensuring food and water security for millions of people living in the basin. It also contains some of the region's most unique and rare biodiversity including yellow cheeked gibbons and Asian arowana (dragon fish), among many other endangered and charismatic species.
Principally our concern is for the people who rely on the water flows of the lower Mekong River for their food, health, income and other essential livelihood securities. This includes the people who live in the 3-S River Basin, the 1.1 million people that depend on the Tonle Sap and another 60 million people living on the Mekong Delta.
208 new species found in 2010

208 new species found in 2010 02:22
Our economic concern is that dams on the Lower Mekong will likely reduce the productivity of the region's agriculture and aquaculture industries, particularly in Cambodia and Laos, and plunge them back into even more severe poverty then they currently suffer.
A recent assessment of the 42 dams proposed for the river basin found that they are likely to produce substantial changes to the natural fluctuation in the seasonal flow. This would have severe impacts on the natural delivery of nutrients and other critical aspects that are required for agricultural and fisheries productivity.
In Cambodia fish provide 85% of the population's protein needs and an essential source of fat. Right now the Cambodian per capita in-take of fats is the lowest in Southeast Asia and the most essential of these, the omega-3 fats which come from fish, are the least available. If there was a reduction in fish populations, nutrition and health will decline on a national scale and further deepen Cambodia's current situation of severe poverty.
The biodiversity underpinning the ecosystem productivity and life that has thrived for thousands of years is in danger. Of all the various impacts on the horizon as a result of this development, the most serious is the potential for major changes to the migration patterns of fish. A recent environmental impact assessment of the Lower Sesan 2 dam concluded that the impacts on fish populations will be very severe.
As approximately 66% of the Mekong fish species are migratory their passage will be blocked by the dam in its current design which will seriously reduce the reproduction rate and overall fish populations downstream will be reduced.
If this traditional migration is hindered it could lead to a serious decline in fish reproduction which will unbalance the delicate food chain on which this ecosystem depends. This has already happened in other dam developments globally, due to lack of adequate planning and understanding of the dams effects.
Before the construction of the Pak Moon dam in Ubon Ratchathani province, Thailand, the waterway contained over 250 species of fish. This plummeted over 80% when the dam began operation, and a decade later, through extensive government investment to restock the river, the species number is still less than half the original amount. More than 20,000 people have been affected by this loss of fish. This dam was anticipated to have a production capacity of 136 megawatts, but it can barely generate 20 megawatts during high-demand months.
Conservation International support the development of electricity generation for domestic consumption and export as these are critical components of development for Laos, Cambodia and Vietnam. We believe that the Greater Mekong region has the potential to become a world leader by pursuing an innovative, low carbon, green development pathway that will foster economic growth and create opportunities for its people, while conserving

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาได้ประกาศแผนการของพวกเขาที่จะสร้างเขื่อนบนหนึ่งในแควสำคัญที่สุดของแม่น้ำโขง , 3-s ลุ่มน้ำใน 2014 . นี่คือประกาศแค่ 5 วัน ก่อนรัฐบาลลาวจัดพิธีของพวกเขาเพื่อเปิดการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีเขื่อนแย้ง , แรกที่ถูกสร้างขึ้นบนล่างแม่น้ําโขงกลุ่มอนุรักษ์อนุรักษ์ระหว่างประเทศพร้อมกับอื่น ๆทำงานในพื้นที่มีความกังวลอย่างมาก โดยย้ายนี้และขอความล่าช้าในการตัดสินใจนี้เพื่อให้เวลาสำหรับการวิจัยเพื่อให้เข้าใจการทดแทนกันระหว่างไฟฟ้าและผลกระทบของเขื่อน และโอกาสที่จะเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับเศรษฐกิจของกัมพูชาในกัมพูชาในวันนี้ ประมาณ 5 % ของโครงการโครงสร้างพื้นฐานผ่านกระทรวงสิ่งแวดล้อมของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การประเมินกระบวนการ และเมื่อพวกเขาจะเสร็จสมบูรณ์ พวกเขามักจะไม่รวมรายละเอียดการศึกษาเต็มรูปแบบของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการพิจารณาดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเส้นทางการพัฒนาของภูมิภาคแม่น้ำโขง และจะให้แน่ใจว่า ประเทศเหล่านี้จะปกป้องยังใช้ทรัพย์สินของธรรมชาติเพื่อประโยชน์ของประชาชนของตน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมการ 3-s ลุ่มน้ำ ( sekong และแม่น้ำเซซาน , srepok ) ชายแดนลาว กัมพูชา และเวียดนาม และสนับสนุน 20% ของแม่น้ำโขง น้ำไหล สร้างความมั่นคงด้านอาหารและน้ำสำหรับคนหลายล้านคน ที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนของพื้นที่ที่ไม่ซ้ำกันมากที่สุดและหายาก ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงชะนียุ้ยสีเหลืองและปลาตะพัดปลามังกร ) ในหมู่อื่น ๆอีกมากมายชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีเสน่ห์ความกังวลหลักของเราคือสำหรับผู้ที่อาศัยในน้ำไหลของแม่น้ำโขง แม่น้ำ อาหาร , สุขภาพ , รายได้และหลักทรัพย์ความเป็นอยู่ที่จำเป็นอื่น ๆ รวมถึงคนที่อยู่ใน 3-s ลุ่มน้ำ , 1.1 ล้านคน ซึ่งขึ้นอยู่กับซับ Tonle และอีก 60 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงเดลต้า208 ชนิดใหม่ที่พบใน 2010208 ชนิดใหม่ที่พบใน 02:22 2010กังวลทางเศรษฐกิจของเรา คือ เขื่อนในแม่น้ำโขงลดอาจจะลดการผลิตของอุตสาหกรรมการเกษตรของภูมิภาคและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกัมพูชาและลาว และกระโดดกลับเข้าไปในที่รุนแรงมากขึ้นแม้ความยากจนแล้วพวกเขากำลังประสบจากการประเมินล่าสุดของ 42 เขื่อนเสนอลุ่มน้ำ พบว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะผลิตการเปลี่ยนแปลงอย่างมากกับความผันผวนของธรรมชาติในการไหลตามฤดูกาล นี้จะมีผลกระทบรุนแรงในการจัดส่งสินค้าและด้านอื่น ๆตามธรรมชาติของสารอาหารที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับการเกษตรและการประมง ผลผลิตปลาในกัมพูชาให้ 85% ของประชากรและความต้องการเป็นแหล่งสำคัญของโปรตีนไขมัน ตอนนี้เขมรต่อหัวในใช้ไขมันเป็นที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่สำคัญที่สุดของเหล่านี้ , โอเมก้า 3 ไขมันที่มาจากปลา มีอยู่น้อย หากมีการลดลงของประชากรปลา โภชนาการและสุขภาพจะลดลงในระดับประเทศ และเพิ่มเติมลึกของกัมพูชาในปัจจุบันสถานการณ์ความยากจนที่รุนแรงความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศการผลิตการชีวิตที่ได้เติบโตเป็นพัน ๆ ปี กำลังอยู่ในอันตราย ทั้งหมดต่าง ๆผลกระทบบนขอบฟ้า ผลของการพัฒนานี้ ร้ายแรงที่สุดคือศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับการอพยพของปลา เป็นการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมล่าสุดของเซซานา 2 เขื่อน พบว่า ผลกระทบต่อประชากรปลาจะรุนแรงมากเป็นประมาณ 66% ของปลาแม่น้ำโขงชนิดนี้จะอพยพผ่านของพวกเขาจะถูกปิดกั้นด้วยเขื่อนในการออกแบบปัจจุบันซึ่งจะลดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยมีอัตราการสืบพันธุ์ของปลาจะลดลงถ้าการโยกย้ายครั้งนี้แบบดั้งเดิมจะถูกขัดขวาง มันอาจนำไปสู่การลดลงอย่างรุนแรงในการสืบพันธุ์ของปลา ซึ่งจะทำให้เสียสมดุลห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนนี้ขึ้นอยู่กับ นี้ได้เกิดขึ้นแล้วในการพัฒนาเขื่อนอื่น ๆทั่วโลก เนื่องจากขาดการวางแผนที่เพียงพอและความเข้าใจของเขื่อนได้ผลก่อนการก่อสร้างเขื่อนปากมูล จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย ทางน้ำที่มีอยู่กว่า 250 ชนิดของปลา นี้ลดลงกว่า 80% เมื่อเขื่อนเริ่มปฏิบัติการ และในทศวรรษต่อมา ผ่านการลงทุนของรัฐบาลอย่างละเอียดเพื่อใส่แม่น้ำ จำนวนชนิด ยังไม่ถึงครึ่งของเดิมจำนวน มากกว่า 20 , 000 คนได้รับผลกระทบจากการสูญเสียของปลา เขื่อนนี้คาดว่าจะมีการผลิต 136 เมกะวัตต์ แต่มันแทบไม่สร้าง 20 เมกะวัตต์ในช่วงเดือนมีความต้องการสูงสนับสนุนระหว่างประเทศการอนุรักษ์การพัฒนาการผลิตไฟฟ้าเพื่อการบริโภคในประเทศและการส่งออก เช่น ชิ้นส่วนเหล่านี้มีการพัฒนาในประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม เราเชื่อว่าภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีศักยภาพที่จะกลายเป็นผู้นำโลกโดยการใฝ่หาเป็นคาร์บอนต่ำนวัตกรรมสีเขียวพัฒนาเส้นทางที่จะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้ประชาชน ขณะที่ อนุรักษ์