Being essentially an agrarian count

Being essentially an agrarian country, Cambodia is highly vulnerable to the impacts of climate change. The main staple food is rice – and rain-fed lowland rice production accounts for more than 80% of the total rice area – but flooding, drought, and pests and disease are increasingly common due to changes in the climate, thus affecting crop yields. In the last five years, rice production loss can occurred mainly due to the occurrence of floods (70%), drought (20%) and pests and disease (10%). This has a great impact on the health of the poor and marginalised groups, most of which are farmers. Their lack of resources reduces their ability to adapt.

In 2008, CamFAD (the Cambodia Farmers’ Association Federation for Agricultural Development) started an initiative to help adapt the sector to climate change impacts. The organisation formulated a new sustainable farming practice called ‘System of Rice Intensification’ (SRI) which helps smallholder farmers increase their yields by following the principle of ‘transplanting young seedlings singly and widely spaced’, a technique that has the advantage of requiring less seeds and minimum irrigation.

CamFAD set up training workshops to promote this practice to farmers that, through a ‘learning-by-doing’ approach, allowed them to witness for themselves the benefits of the practice. Through farmer-to-farmer training, the SRI practice led to a widespread implementation of the new system, which has optimized rice production for smallholder farmers. Today, more than 17,000 farmers in Cambodia are using elements of SRI in their farming.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กัมพูชาเป็นประเทศที่มีการเกษตรเป็นหลัก เป็นความเสี่ยงสูงที่จะผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาหารหลักหลักคือ ข้าวและฝนเลี้ยงข้าวขวดผลิตบัญชีมากกว่า 80% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด แต่น้ำท่วม ภัย แล้ง และศัตรูพืช และโรคมากเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลผลิตจึง ส่งผลกระทบต่อพืช ในช่วงห้าปี ข้าวผลิตสูญหายสามารถเกิดขึ้นเนื่องจากเกิดน้ำท่วม (70%), ภัยแล้ง (20%) และแมลงศัตรูพืช และโรค (10%) นี้มีผลต่อสุขภาพของกลุ่มต่ำ และ marginalised ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ขาดทรัพยากรที่ลดความสามารถในการปรับตัวใน 2008, CamFAD (ชาวกัมพูชาสมาคมสหพันธ์เกษตรพัฒนา) เริ่มความคิดริเริ่มเพื่อช่วยปรับภาคการผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์กรสูตรการปฏิบัติเกษตรยั่งยืนใหม่ที่เรียกว่า 'ระบบของแรงข้าว' (ศรี) ซึ่งช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิตของตนตามหลักการของการ 'ทำการย้ายต้นกล้าหนุ่มสาวโดยลำพัง และอย่างกว้างขวางอาทิ' เทคนิคที่มีประโยชน์ของที่ต้องการน้ำน้อยเมล็ดและต่ำสุดCamFAD ตั้งค่าฝึกอบรมสัมมนาเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรให้ ผ่านวิธีการ 'เรียนรู้โดยการทำ' ได้พยานตัวเองประโยชน์ของการฝึก ปฏิบัตินี้ ผ่านการฝึกอบรมเกษตรกรเพื่อเกษตรกร ฝึกศรีนำไปสู่การดำเนินการอย่างกว้างขวางของระบบใหม่ ซึ่งได้ปรับปรุงการผลิตข้าวเกษตรกร วันนี้ เกษตรกรมากกว่า 17,000 ในกัมพูชาจะใช้องค์ประกอบของศรีเกษตรของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นหลักเป็นประเทศเกษตรกรรมกัมพูชามีความเสี่ยงอย่างมากที่จะผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาหารหลักที่สำคัญคือข้าว - และฝนบัญชีการผลิตข้าวมานานกว่า 80% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด - แต่น้ำท่วมภัยแล้งและแมลงศัตรูพืชและโรคที่พบบ่อยมากขึ้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศจึงมีผลต่อผลผลิตพืช ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาการสูญเสียผลผลิตข้าวสามารถเกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการเกิดน้ำท่วม (70%), ภัยแล้ง (20%) และแมลงศัตรูพืชและโรค (10%) เดอะ นี้มีผลกระทบต่อสุขภาพของกลุ่มคนยากจนและด้อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร พวกเขาขาดทรัพยากรที่จะช่วยลดความสามารถในการปรับตัว. ในปี 2008 CamFAD (กัมพูชาเกษตรกรสหพันธ์สมาคมเพื่อการพัฒนาการเกษตร) เริ่มความคิดริเริ่มที่จะช่วยให้การปรับตัวของภาคการส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ องค์กรสูตรการปฏิบัติที่ทำการเกษตรอย่างยั่งยืนใหม่ที่เรียกว่า 'ระบบข้าวหนาแน่น (SRI) ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรรายย่อยเพิ่มผลผลิตของพวกเขาด้วยการทำตามหลักการของการ' ปลูกต้นกล้าหนุ่มเดี่ยวและเว้นระยะห่างกันอย่างแพร่หลาย 'เทคนิคที่มีประโยชน์จากการกำหนดให้เมล็ดน้อยที่ และการชลประทานขั้นต่ำ. CamFAD ตั้งค่าการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการปฏิบัตินี้ให้กับเกษตรกรที่ผ่านการเรียนรู้โดยการทำ 'วิธีการอนุญาตให้พวกเขาที่จะเป็นพยานให้ตัวเองได้รับประโยชน์ของการปฏิบัติ ผ่านการฝึกอบรมเกษตรกรเพื่อเกษตรกรปฏิบัติศรีนำไปสู่การดำเนินงานอย่างแพร่หลายของระบบใหม่ซึ่งมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวสำหรับเกษตรกรรายย่อย วันนี้กว่า 17,000 เกษตรกรในประเทศกัมพูชาจะใช้องค์ประกอบของศรีลังกาในการทำการเกษตรของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเป็นประเทศกสิกรรม กัมพูชามีความอ่อนไหวสูงต่อผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาหารอาหารหลักคือข้าว–ฝน ข้าวนาสวนการผลิตบัญชีกว่า 80% ของพื้นที่ทั้งหมด ) แต่ข้าวน้ำท่วม ภัยแล้งและศัตรูพืชและโรคที่พบบ่อยมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงมีผลกระทบต่อผลผลิตพืช ในช่วงห้าปี , การสูญเสียผลผลิตข้าวสามารถเกิดขึ้นเนื่องจากการเกิดน้ำท่วม ( 70% ) , ภัยแล้ง ( 20% ) และศัตรูพืชและโรค ( 10% ) นี้จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของคนยากจนและกลุ่มชายขอบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร พวกเขาขาดทรัพยากร ลดความสามารถในการปรับตัวใน 2008 , camfad ( กัมพูชาสมาคมสหพันธ์เกษตรกรเพื่อการพัฒนาการเกษตร ) เริ่มต้นความคิดริเริ่มที่จะช่วยปรับให้เข้ากับภาคต่อภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง องค์กรยุทธศาสตร์ระบบใหม่อย่างยั่งยืนการเกษตรการปฏิบัติที่เรียกว่า " แรงข้าว " ( ศรี ) ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตของพวกเขา โดยโครงสร้างต่อไปนี้หลักการของ " ปักดำต้นข้าวอ่อน และเว้นระยะห่างกันอย่างแพร่หลาย " เดี่ยว เทคนิคที่ได้ประโยชน์จากเมล็ดน้อยลงและน้ำให้น้อยที่สุดcamfad ตั้งค่าการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมการปฏิบัตินี้ให้กับเกษตรกรที่ผ่านการเรียนรู้โดยทำวิธีการอนุญาตให้พยานตนเองประโยชน์ของการปฏิบัติ ผ่านการฝึกอบรมเกษตรกร ชาวนา การฝึกปฏิบัติอย่างแพร่หลายของศรี ไปสู่ระบบใหม่ ซึ่งมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวสำหรับชาวนาโครงสร้าง . วันนี้ กว่า 17 , 000 ราย กัมพูชาจะใช้องค์ประกอบของ SRI ในฟาร์มของพวกเขา