Alaska is disappearing slowly but s

Alaska is disappearing slowly but surely. Since the 1950s, it is estimated that as much as 15 percent of Alaska’s area has disappeared. One reason for Alaska’s gradual disappearance is the melting of its glaciers. According to one geologist at the Us Geological Survey, about 98 percent of Alaska’s glaciers are either unmoving or diminishing. This diminishing seems mainly due to the increase in global temperatures. Since the 1960s, the average year-round temperature has increased by 5 °F. Additionally, the average winter temperature has increased by 8 °F. Presently, an estimated 24 cubic miles of ice is disappearing from Alaska glaciers every year. It may be even more in the near future, as some scientists predict that the average world temperature could go up 2.5 to 10°F by the year 2100. Another problem contributing to Alaska’s gradual disappearance is its thawing permafrost. Much of the land in Alaska was permanently frozen, or frozen for most of the year, thus maintaining its integrity. Now, the thawing permafrost is causing a number of problems on land. Roads and utility poles are collapsing. Also, the hard permafrost which originally prevented beaches from eroding during violent storms is now melting. Affected villages are forced to relocate. For villages on small low islands, one terrible storm could wipe out the entire community. The melting permafrost and increasing temperatures are also having a negative impact on the forests of Alaska. As the permafrost under the forests melts, insects that normally don’t turn up until the warmer seasons are appearing sooner. The spruce-bark beetle, for example, is increasing in number as a result of global warming. It usually takes about two year for these beetles to grow and reproduce in very cold weather. However, due to the increase in temperatures, spruce-bark beetles are damaging as many trees in one year as they previously damaged in two. At this rate, Alaska’s forests won’t survive the turn of the century. Some scientists believe that human activity is linked to a global increase in weather temperature. Whether the rising temperatures are caused by human activity or natural changes, the fact remains that Alaska is warming. Horribly, this could be a preview of what will happen to the rest of the world in the next century.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อลาสก้าจะหายไปอย่างช้า ๆ แต่แน่นอน ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 มันคือประมาณว่า ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ของอลาสก้าหายไป เหตุผลหนึ่งสำหรับของอลาสก้าค่อย ๆ หายตัวไปคือ การละลายของธารน้ำแข็ง ตามธรณีหนึ่งที่เราสำรวจธรณีวิทยา ประมาณร้อยละ 98 ของธารน้ำแข็งอลาสก้าของอยู่ unmoving หรือลดลง ลดลงนี้ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ตั้งแต่ปี 1960 อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีมีเพิ่มขึ้น 5 องศาเอฟ นอกจากนี้ อุณหภูมิหนาวเฉลี่ยได้เพิ่มขึ้น โดย 8 องศาเอฟ ปัจจุบัน การประเมิน 24 ลูกบาศก์ไมล์แข็งจะหายไปจากธารน้ำแข็งอลาสก้าทุกปี มันได้มากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ เป็นนักวิทยาศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่า อุณหภูมิของโลกที่สามารถไปขึ้น 2.5 10° F ภายในปี 2100 ปัญหาอื่นที่สนับสนุนของอลาสก้าค่อย ๆ หายตัวไปของ permafrost thawing ได้ ของที่ดินในอลาสก้าอย่างถาวรถูกแช่แข็ง หรือน้ำแข็งในที่สุดของปี ดังนั้น การรักษาความสมบูรณ์ของ ตอนนี้ thawing permafrost เป็นสาเหตุปัญหาในที่ดิน ถนนและสาธารณูปโภคเสาจะยุบ ยัง permafrost ยากที่ป้องกันชายหาดเดิม จากการกัดเซาะในระหว่างพายุ violent เป็นตอนนี้ละลาย หมู่บ้านได้รับผลกระทบถูกบังคับให้ย้าย สำหรับหมู่บ้านบนเกาะเล็กน้อย หนึ่งพายุสามารถเช็ดออกชุมชนทั้งหมด Permafrost ที่ละลายและอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นยังมีผลกระทบเชิงลบในป่าอลาสก้า เป็น permafrost ภายใต้ป่าละลาย แมลงที่ปกติไม่เปิดจนถึงซีซั่นอุ่นจะปรากฏเร็ว ด้วงเปลือก spruce เช่น จะเพิ่มจำนวนจากภาวะโลกร้อน ปกติใช้เวลาประมาณ 2 ปีสำหรับด้วงเหล่านี้จะเติบโต และเกิดในสภาพอากาศหนาวเย็นมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ spruce เปลือกด้วงจะทำลายต้นไม้มากในหนึ่งปีพวกเขาก่อนหน้านี้เสียหาย 2 ที่นี้ อลาสก้าของป่าจะอยู่รอดเปิดของศตวรรษ นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า กิจกรรมมนุษย์เชื่อมโยงกับเพิ่มขึ้นทั่วโลกในสภาพอากาศอุณหภูมิ ว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกิดจากกิจกรรมมนุษย์หรือการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ความจริงที่ยังคง ที่อลาสก้าจะร้อน อย่างน่ากลัว นี้อาจเป็นตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับส่วนเหลือของโลกในศตวรรษหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อลาสก้าจะหายไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอน ตั้งแต่ปี 1950 มันเป็นที่คาดว่ามากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 15 ของพื้นที่อลาสก้าได้หายไป เหตุผลหนึ่งที่ทำให้การหายตัวไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอลาสก้าคือการละลายของธารน้ำแข็งของมัน ตามหนึ่งในนักธรณีวิทยาที่เราสำรวจทางธรณีวิทยาประมาณร้อยละ 98 ของธารน้ำแข็งของอลาสกามีทั้งขยับได้หรือลดน้อยลง ลดลงนี้ดูเหมือนว่าส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีได้เพิ่มขึ้น 5 ° F นอกจากนี้ฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 8 ° F ปัจจุบันประมาณ 24 ลูกบาศก์ไมล์ของน้ำแข็งจะหายไปจากธารน้ำแข็งอลาสก้าทุกปี มันอาจจะมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่าอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยอาจจะไปขึ้น 2.5-10 ° F โดยในปี 2100 ปัญหาที่เอื้อต่อการหายตัวไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปของอลาสก้าก็คือ permafrost ละลายของ มากของที่ดินในอลาสก้าถูกแช่แข็งอย่างถาวรหรือแช่แข็งมากที่สุดแห่งปีดังนั้นการรักษาความสมบูรณ์ของ ตอนนี้ permafrost ละลายเป็นสาเหตุของจำนวนของปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน ถนนและเสาไฟฟ้าจะถูกยุบ นอกจากนี้ permafrost ยากซึ่ง แต่เดิมการป้องกันการกัดเซาะชายหาดจากช่วงพายุมีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ละลาย หมู่บ้านได้รับผลกระทบถูกบังคับให้ย้าย สำหรับหมู่บ้านบนเกาะต่ำขนาดเล็กหนึ่งพายุร้ายสามารถเช็ดออกทั้งชุมชน อุณหภูมิ permafrost ละลายและเพิ่มขึ้นยังมีผลกระทบต่อป่าอลาสก้า ในฐานะที่เป็น permafrost ภายใต้ป่าละลายแมลงที่ปกติไม่เปิดจนถึงฤดูกาลที่อบอุ่นจะปรากฏเร็ว ด้วงโก้เปลือกเช่นจะเพิ่มขึ้นในจำนวนเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน มันมักจะใช้เวลาประมาณสองปีสำหรับแมลงเหล่านี้จะเติบโตและทำซ้ำในสภาพอากาศหนาวเย็นมาก แต่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิแมลงโก้เปลือกจะสร้างความเสียหายเป็นต้นไม้จำนวนมากในหนึ่งปีที่พวกเขาได้รับความเสียหายก่อนหน้านี้ในสอง อัตรานี้ป่าอลาสก้าจะไม่รอดหันของศตวรรษที่ นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่ากิจกรรมของมนุษย์ที่มีการเชื่อมโยงไปสู่​​การเพิ่มอุณหภูมิของโลกในสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิที่สูงขึ้นมีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์หรือการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติความเป็นจริงยังคงอยู่ที่อลาสก้าเป็นร้อน อย่างน่ากลัวนี้อาจเป็นตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับส่วนที่เหลือของโลกในศตวรรษหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อลาสก้าจะหายไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอน ตั้งแต่ปี 1950 , คาดว่ามากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 15 ของพื้นที่ของอลาสก้า หายตัวไป หนึ่งในเหตุผลสำหรับการหายตัวไปของอลาสก้าคือค่อยๆละลายของธารน้ำแข็ง ตามหนึ่งนักธรณีวิทยาที่เราสำรวจทางธรณีวิทยา ประมาณร้อยละ 98 ของอลาสก้าธารน้ำแข็งจะไม่เคลื่อนไหวหรือลดลงงานนี้ดูเหมือนส่วนใหญ่เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก ตั้งแต่ปี 1960 , อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีเพิ่มขึ้น 5 องศา F . นอกจากนี้ ฤดูหนาวอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8 องศา F . ปัจจุบันมีประมาณ 24 ลูกบาศก์ไมล์แข็งจะหายไปจากอลาสก้าธารน้ำแข็งทุกปี มันอาจจะมากขึ้นในอนาคตตามที่นักวิทยาศาสตร์บางคนคาดการณ์ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเริ่มขึ้นประมาณ 10 องศา F โดยปี 2100 . อีกปัญหาที่เป็นสาเหตุของการหายตัวไปของอลาสก้าที่ค่อยๆละลาย permafrost . มากของที่ดินในอลาสก้าถูกระงับอย่างถาวร หรือแช่แข็งมากที่สุดของปี ดังนั้น การรักษาความสมบูรณ์ของ ตอนนี้ ละลาย permafrost ก่อให้เกิดจำนวนของปัญหาเกี่ยวกับที่ดินถนนและเสายูทิลิตี้จะยุบ นอกจากนี้ ยาก permafrost ซึ่งเดิมทีป้องกันชายหาดจาก eroding ในระหว่างพายุรุนแรงแล้วละลาย หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบถูกบังคับให้ย้ายที่ สำหรับหมู่บ้านในขนาดเล็กน้อยเกาะหนึ่งน่ากลัวพายุสามารถกวาดล้างชุมชนทั้งหมด ละลาย permafrost และเพิ่มอุณหภูมิยังมีผลกระทบต่อป่าอลาสก้าเป็น permafrost ละลายภายใต้ป่า แมลงที่ปกติไม่เปิดจนถึงฤดูกาลอุ่นขึ้นเร็ว ด้วงเปลือกต้นสนตัวอย่างเช่นจะเพิ่มจํานวนผลของภาวะโลกร้อน มันมักจะใช้เวลาประมาณสองปี ด้วงชนิดนี้เติบโตและสืบพันธุ์ในอากาศหนาวมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิต้นสนต้นไม้เปลือกด้วงจะสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมากในหนึ่งปีก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับความเสียหายใน 2 ราคานี้ คือ อลาสก้าป่าไม่รอดในหันของศตวรรษที่ นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า กิจกรรมของมนุษย์ที่เชื่อมโยงกับการเพิ่มอุณหภูมิโลกในสภาพอากาศ ไม่ว่าอุณหภูมิสูงขึ้นที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์หรือการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ความเป็นจริงยังคงอยู่ที่อลาสก้าคือความอบอุ่น อย่างน่ากลัว ,นี่อาจจะเป็นตัวอย่างของสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับส่วนที่เหลือของโลกในศตวรรษหน้า