“The idea behind emotional intellig

“The idea behind emotional intelligence in the workplace is that it is a skill through
which employees treat emotions as valuable data in navigating a situation,”
according to the authors.
“Let’s say a sales manager has come up with an amazing idea that will increase corporate revenues by up to 200%,
but knows his boss tends to be irritable and short-tempered in the morning.
Having emotional intelligence means that the manager will first recognize and consider this emotional fact about his boss. Despite the stunning nature of his idea
— and his own excitement
— he will regulate his own emotions, curb his enthusiasm and wait until the afternoon to approach his boss.”
Barsade says research suggests that positive people tend to do better in the workplace, and it isn’t just because people like them more than naysayers. “Positive people cognitively process more efficiently and more appropriately. If you’re in a negative mood, a fair amount of processing is going to that mood. When you’re in a positive mood, you’re more open to taking in information and handling it effectively.”
While you can’t necessarily change your coworkers, people can take steps to avoid catching a negative mood, according to Barsade. They can tell themselves before attending a staff meeting that they are not going to be bothered by the person who shoots down everyone’s ideas, or that they are not going to let that person become the focus of their attention at the meeting (reducing the possibility for contagion). Or they can change their office routine. Barsade gave the example of a manager who was dragged down at the start of every day when passing by the desk of an employee who either grunted or gave no acknowledgement. The manager took control and simply started following a different route through the office.
Barsade’s research has taken her into a variety of workplaces, most recently long-term care facilities. Her research found that in facilities where the employees report having a positive workplace culture — she calls it a “culture of love” — the residents end up faring better than residents in facilities with a less compassionate and caring work culture. The residents reported experiencing less pain, made fewer trips to the emergency room, and were more likely to report being satisfied and in a positive mood.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ความคิดที่อยู่เบื้องหลังความฉลาดทางอารมณ์ในทำงานเป็นที่เป็นทักษะทาง พนักงานที่เก็บอารมณ์เป็นข้อมูลที่มีค่าในการนำทางสถานการณ์ ตามผู้เขียน "สมมติว่า ผู้จัดการฝ่ายขายได้เกิดขึ้นกับความคิดที่ตื่นตาตื่นใจที่จะเพิ่มรายได้ของบริษัทได้ถึง 200% แต่รู้ว่า นายมีแนวโน้มที่จะแปรปรวน และ short-tempered ในตอนเช้า มีความฉลาดทางอารมณ์หมายความว่าผู้จัดการจะต้อง รู้จัก และพิจารณาอารมณ์ความจริงเกี่ยวกับนาย แม้ มีธรรมชาติที่สวยงามของความคิดของเขา — และความตื่นเต้นของเขาเอง ซึ่งเขาจะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ลดความกระตือรือร้นของเขา และรอจนถึงตอนบ่ายจะเข้าหาเจ้านายของเขา "Barsade กล่าวว่า งานวิจัยแนะนำว่า คนบวกมีแนวโน้มไม่ดีขึ้นในทำงาน และไม่เพียงเนื่องจากคนเหล่านั้นมากกว่า naysayers "คนบวก cognitively ประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมยิ่งขึ้น ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์ติดลบ สมควรประมวลผลเป็นไปอารมณ์นั้น เมื่อคุณอารมณ์บวก คุณเปิดในข้อมูล และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"ในขณะที่คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อนร่วมงานของคุณ คนที่สามารถดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงการจับอารมณ์ลบ ตาม Barsade พวกเขาสามารถบอกตัวเองก่อนเข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่ที่พวกเขาไม่ควร bothered โดยบุคคลที่หน่อลงความคิดเห็นของทุกคน หรือ ที่ที่พวกเขากำลังจะให้คนที่เป็น จุดเน้นของความสนใจในการประชุม (ลดโอกาสการแพร่กระจาย) หรือพวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงชุดคำสั่งของสำนักงาน ตัวอย่างของผู้จัดการที่ลากลงที่จุดเริ่มต้นของทุกวัน ให้ Barsade เมื่อผ่านมาโต๊ะของพนักงานที่ grunted หรือให้ยอมรับไม่ ผู้จัดการที่ควบคุม และเพียงแค่เริ่มต้นตามเส้นทางต่าง ๆ ผ่านสำนักงานงานวิจัยของ Barsade ได้รับเธอเข้าทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวกดูแลระยะยาวล่าสุด วิจัยของเธอพบว่าในที่รายงานพนักงานที่มีวัฒนธรรมการทำงานบวก — เธอเรียกว่า "วัฒนธรรมของความรัก" — ที่อาศัยอยู่ท้าย faring กว่าผู้อยู่อาศัยในสิ่งอำนวยความสะดวกมีน้อยอย่างทันท่วงที และมุ่งทำงานวัฒนธรรม คนที่รายงานว่า ประสบกับความเจ็บปวดน้อยกว่า ทำทริน้อยห้องฉุกเฉิน และมีแนวโน้มที่จะรายงานความพึงพอใจและอารมณ์บวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ความคิดที่อยู่เบื้องหลังความฉลาดทางอารมณ์ในที่ทำงานก็คือว่ามันเป็นทักษะผ่านการให้พนักงานรักษาอารมณ์เป็นข้อมูลที่มีคุณค่าในการเดินเรือสถานการณ์"
ตามที่ผู้เขียน.
"สมมติว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายขายที่มีมากับความคิดที่น่าตื่นตาตื่นใจที่จะเพิ่มขึ้น รายได้ขององค์กรโดยได้ถึง 200%
แต่รู้ว่าเจ้านายของเขามีแนวโน้มที่จะระคายเคืองและสะบัดสะบิ้งในตอนเช้า.
มีความฉลาดทางอารมณ์หมายความว่าผู้จัดการคนแรกที่จะรับรู้และพิจารณาความเป็นจริงนี้อารมณ์เกี่ยวกับเจ้านายของเขา แม้จะมีธรรมชาติที่สวยงามของความคิดของเขา
- และความตื่นเต้นของเขาเอง
-. เขาจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองลดความกระตือรือร้นของเขาและรอจนกระทั่งช่วงบ่ายที่จะเข้าใกล้เจ้านายของเขา
"Barsade กล่าวว่าการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนที่เป็นบวกมีแนวโน้มที่จะทำดีในสถานที่ทำงานและ มันไม่ได้เป็นเพียงเพราะคนชอบพวกเขามากกว่า naysayers "คนที่รับรู้ในเชิงบวกในการประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์เชิงลบจำนวนเงินที่ยุติธรรมของการประมวลผลเป็นไปอารมณ์ที่ เมื่อคุณอยู่ในอารมณ์บวกคุณจะเปิดกว้างมากขึ้นในการใช้ข้อมูลและการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
"ขณะที่คุณสามารถไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อนร่วมงานของคุณคนสามารถดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงการจับอารมณ์เชิงลบตามBarsade พวกเขาสามารถบอกตัวเองก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปรับการใส่ใจจากคนที่ยิงลงความคิดของทุกคนหรือว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปให้คนที่กลายเป็นจุดสนใจของความสนใจของพวกเขาในการประชุม (การลดความเป็นไปได้สำหรับ การติดเชื้อ) หรือพวกเขาสามารถเปลี่ยนสำนักงานประจำของพวกเขา Barsade ให้ตัวอย่างของผู้จัดการที่ถูกลากลงมาที่จุดเริ่มต้นของทุกวันเมื่อผ่านจากโต๊ะทำงานของพนักงานที่ทั้ง grunted หรือให้การรับรู้ไม่มีที่ที่ ผู้จัดการเข้าควบคุมและเริ่มต้นดังต่อไปนี้ก็เป็นเส้นทางที่แตกต่างกันผ่านสำนักงาน.
วิจัย Barsade ได้นำเธอเข้าไปในความหลากหลายของสถานที่ทำงานส่วนใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้สิ่งอำนวยความสะดวกการดูแลระยะยาว งานวิจัยของเธอพบว่าในสิ่งอำนวยความสะดวกที่พนักงานรายงานมีวัฒนธรรมการทำงานในเชิงบวก - เธอเรียกมันว่า "วัฒนธรรมแห่งความรัก" - ชาวบ้านจบลง faring ดีกว่าที่อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีวัฒนธรรมการทำงานน้อยลงความเห็นอกเห็นใจและห่วงใย ที่อาศัยอยู่ในรายงานประสบความเจ็บปวดน้อยลงทำให้การเดินทางน้อยลงไปที่ห้องฉุกเฉินและมีแนวโน้มที่จะมีการรายงานความพึงพอใจและอยู่ในอารมณ์บวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ความคิดที่อยู่เบื้องหลังความฉลาดทางอารมณ์ในที่ทำงานนั้นเป็นทักษะที่พนักงานรักษาอารมณ์ผ่าน
เป็นข้อมูลที่มีคุณค่าในการนําสถานการณ์ "
ตามผู้เขียน
" เอาเป็นว่าผู้จัดการขายที่มีมากับความคิดที่น่าตื่นตาตื่นใจของรายได้จะเพิ่มขึ้นถึง 200%
แต่รู้ว่าเจ้านายของเขามีแนวโน้มที่จะหงุดหงิดและโมโหร้าย ในตอนเช้า
มีความฉลาดทางอารมณ์หมายถึงผู้จัดการก่อนจะรับรู้และพิจารณาความจริงทางอารมณ์กับเจ้านายของเขา แม้จะมีธรรมชาติที่สวยงามของเขาคิด
-
- ความตื่นเต้นของเขาเอง เขาจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ระงับความกระตือรือร้นของเขาและรอจนกระทั่งบ่าย เข้าหาเจ้านายของเขา "
barsade กล่าวว่า การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนบวกมักจะทำได้ดีในสถานที่ทำงานและมันก็ไม่ใช่แค่เพราะคนชอบพวกเขามากขึ้นกว่า naysayers . " คนคิดบวกกระบวนการการประมวลผลมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมากขึ้นอย่างเหมาะสม ถ้าคุณอยู่ในอารมณ์ที่เป็นลบ เป็นจำนวนเงินที่ยุติธรรมของการประมวลผลไปที่อารมณ์ เมื่อคุณกำลังอยู่ในอารมณ์บวก คุณเปิดให้จดข้อมูลและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ "
ในขณะที่คุณสามารถไม่ต้องเปลี่ยนเพื่อนร่วมงานของคุณผู้คนสามารถใช้ขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงการจับอารมณ์ด้านลบ ตาม barsade . พวกเขาสามารถบอกตัวเองก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมพนักงานที่พวกเขาจะไม่ ถูกรบกวน โดยคนที่ยิงลงความคิดของทุกคน หรือ ว่า พวกเขาจะไม่ปล่อยให้คนๆ นั้นกลายเป็นจุดสนใจของพวกเขาในการประชุม ( ลดความเป็นไปได้ในการแพร่กระจาย )หรือพวกเขาสามารถเปลี่ยนงานประจำสำนักงานของพวกเขา barsade ให้ตัวอย่างของผู้จัดการที่ถูกลากลงมาที่จุดเริ่มต้นของทุก ๆวัน เมื่อเดินผ่านโต๊ะของพนักงานที่ให้ถอนหายใจ หรือให้ การรับรอง ผู้จัดการควบคุมและก็เริ่มตามเส้นทางต่างๆ ผ่านสำนักงาน .
barsade การวิจัยได้เอาเธอเข้าไปในความหลากหลายของสถานประกอบการล่าสุดสิ่งอำนวยความสะดวกการดูแลระยะยาว เธอพบว่าในเครื่องที่พนักงานรายงานมีบวกสถานที่ทำงานวัฒนธรรม - เธอเรียกมันว่า " วัฒนธรรมแห่งความรัก " - ชาวบ้านท้าย faring ดีกว่าประชาชนในเครื่องมีน้อย น้ำใจและการดูแลงานวัฒนธรรม ชาวบ้านรายงานว่าประสบความเจ็บปวดน้อยลง , ทำให้การเดินทางน้อยลงไปห้องฉุกเฉินและมีแนวโน้มที่จะรายงานถูก พอใจในอารมณ์บวก