A study was conducted to determine

A study was conducted to determine the effect of different alkali treatments on changes in chemical composition and on degradability of bagasse and rice straw. This study divided into 2 experiments, the first with bagasse and the second with rice straw. Each experiment comprised 9 treatments which included: untreated control; 3% NaOH; 6% NaOH; 3% urea; 6% urea; 3% NaOH/3% urea; 3% NaOH/6% urea; 6% NaOH/3% urea; 6% NaOH/6% urea. In both experiments, crude protein contents were increased from 2.0 to 12.5 units for bagasse and 3.1 to 13.7 units for rice straw by urea treatments. Ash contents of the treated bagasse and rice straw were increased over the untreated control (1.5-9.7 units for bagasse; 4.2-8.8 units for rice straw). The effects on ether extract, crude fiber, neutral detergent fiber and acid detergent fiber of the treated bagasse and rice straw were variable. Nylon bag degradability of dry matter and crude fiber were increased by treatments applying NaOH and NaOH plus urea but not urea alone. In contrast, the degradability of neutral detergent fiber and acid detergent fiber were reduced compared with the untreated control. From these degradability studies, it can be concluded that the most efficient treatments of bagasse were those treatments with 6% NaOH, followed by treatments with 6% NaOH plus 3% or 6% urea and 3% NaOH plus 3% or 6% urea, respectively. However, when comparison was made on the cost of chemical used to treat the agricultural by-products, particularly in case of rice straw, 3-6% urea would be appropriate

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาดำเนินการเพื่อตรวจสอบผลของการรักษาด่างแตกต่างกัน ในการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบทางเคมี และ degradability ฟางชานอ้อยและข้าว การศึกษานี้แบ่งออกเป็นการทดลองที่ 2 ครั้งแรกกับชานอ้อย และที่สองกับฟางข้าว แต่ละการทดลองประกอบด้วยการรักษา 9 ซึ่งรวม: ไม่ถูกรักษาควบคุม 3% NaOH 6% NaOH ยูเรีย 3% ยูเรีย 6% NaOH/3% 3% ยูเรีย NaOH/6% 3% ยูเรีย ยูเรีย 6% NaOH/3% ยูเรีย 6% NaOH/6% ในการทดลองทั้งสอง โปรตีนเนื้อหาถูกเพิ่มจาก 2.0 เป็น 12.5 หน่วยสำหรับอ้อยและ 3.1 13.7 หน่วยสำหรับฟางข้าว โดยรักษายูเรีย เพิ่มเนื้อหาเถ้าของฟางข้าวและชานอ้อยรักษาควบคุมบำบัด (1.5 9.7 หน่วยสำหรับอ้อย 4.2-8.8 หน่วยสำหรับฟางข้าว) ผลกระทบต่อสารสกัดอีเทอร์ กาก ใยผงซักฟอกที่เป็นกลาง และกรดผงซักฟอกใยฟางข้าวและชานอ้อยรักษาถูกแปร Degradability ถุงไนลอนแห้งและกากถูกเพิ่ม โดยใช้ NaOH และ NaOH พลัสยูเรีย แต่ไม่ยูเรียเพียงอย่างเดียวการรักษา ตรงกันข้าม degradability ไฟเบอร์ผงซักฟอกที่เป็นกลางและกรดผงซักฟอกเส้นใยลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับตัวควบคุมได้รับการรักษา จากการศึกษานี้ degradability มันสามารถสรุปได้ว่า การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดของชานอ้อยได้ที่บำบัด ด้วย 6% NaOH ตามด้วยยูเรีย 6% NaOH บวก 3% หรือ 6% และ 3% NaOH บวก 3% หรือ 6% ยูเรีย ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการเปรียบเทียบต้นทุนของสารเคมีที่ใช้ในการรักษาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของฟางข้าว 3-6% ยูเรียจะเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาได้ดำเนินการศึกษาผลของการรักษาด่างที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบทางเคมีและการสลายตัวของชานอ้อยและฟางข้าว การศึกษาครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 การทดลองครั้งแรกกับชานอ้อยและครั้งที่สองด้วยฟางข้าว การทดสอบแต่ละประกอบด้วย 9 การรักษาซึ่งรวมถึงการควบคุมการรับการรักษา; 3% NaOH; 6% NaOH; 3% ยูเรีย; 6% ยูเรีย; 3% NaOH / 3% ยูเรีย; 3% NaOH / 6% ยูเรีย; 6% NaOH / 3% ยูเรีย; 6% NaOH / 6% ยูเรีย ในการทดลองทั้งสองเนื้อหาโปรตีนเพิ่มขึ้น 2.0-12.5 หน่วยชานอ้อยและ 3.1-13.7 หน่วยฟางข้าวโดยการรักษายูเรีย เนื้อหาเถ้าชานอ้อยได้รับการรักษาและฟางข้าวเพิ่มขึ้นมากกว่าการควบคุมการรับการรักษา (1.5-9.7 หน่วยชานอ้อย; 4.2-8.8 หน่วยฟางข้าว) ผลกระทบต่อสารสกัดจากอีเทอร์เยื่อใยเส้นใยผงซักฟอกที่เป็นกลางและเส้นใยผงซักฟอกกรดได้รับการรักษาและชานอ้อยฟางข้าวเป็นตัวแปร การย่อยสลายถุงไนล่อนของวัตถุแห้งและเส้นใยน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากการรักษาใช้และ NaOH NaOH บวกยูเรียยูเรีย แต่ไม่ได้อยู่คนเดียว ในทางตรงกันข้ามการสลายตัวของเส้นใยผงซักฟอกที่เป็นกลางและเส้นใยผงซักฟอกกรดที่ถูกลดลงเมื่อเทียบกับการควบคุมการรับการรักษา จากการศึกษาการสลายตัวเหล่านี้ก็สามารถสรุปได้ว่าการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของชานอ้อยมีการรักษาผู้ที่มี 6% NaOH ตามด้วยการรักษาด้วย 6% NaOH บวก 3% หรือ% ยูเรีย 6 และ 3% NaOH บวก 3% หรือ% ยูเรีย 6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายทำของสารเคมีที่ใช้ในการรักษาทางการเกษตรโดยผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของฟางข้าว 3-6% ยูเรียจะมีความเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการรักษาด่างต่างๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีและการสลายตัวของชานอ้อย / ฟางข้าว การศึกษาครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 การทดลองครั้งแรกกับชานอ้อยและครั้งที่สองกับฟางข้าว แต่ละการทดลองมี 9 การรักษาซึ่งรวม : ควบคุมดิบ ; 3% โซเดียมไฮดรอกไซด์ ; 6% โซเดียมไฮดรอกไซด์ ; ยูเรีย 3% ยูเรีย ; 6% โซเดียมไฮดรอกไซด์ ร้อยละ 3 / 3% ยูเรีย ; 6% โซเดียมไฮดรอกไซด์ / 3% ยูเรีย ; 6% โซเดียมไฮดรอกไซด์ / 3% ยูเรีย ; 6% โซเดียมไฮดรอกไซด์ / 6% ยูเรีย ในทั้งสองการทดลองระดับโปรตีนเพิ่มขึ้นจาก 2.0 ถึง 12.5 หน่วยชานอ้อยและ 3.1 13.7 หน่วยฟางข้าวโดยยูเรียบําบัด รับเถ้าชานอ้อยและซังข้าวมากขึ้นกว่าการควบคุมรักษา ( 1.5-9.7 หน่วยชานอ้อย ; 4.2-8.8 หน่วยฟางข้าว ) ผลกระทบต่อสารสกัดอีเทอร์เยื่อใย neutral detergent fiber และกรดผงซักฟอกเส้นใยในการรักษาชานอ้อยและซังข้าว คือตัวแปร ถุงไนลอนการสลายตัวของวัตถุแห้ง และเยื่อใยเพิ่มขึ้นโดยการใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์ NaOH แต่ไม่บวกยูเรียและยูเรียเพียงอย่างเดียว ในทางตรงกันข้าม , การสลายตัวของผนังเซลล์และเป็นกลาง acid detergent fiber ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้คุณภาพ การศึกษาการสลายตัวเหล่านี้สามารถสรุปได้ว่า การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการรักษาด้วยชานอ้อยที่ 6% โซเดียมไฮดรอกไซด์ , ตามด้วยการรักษาด้วย NaOH 6% บวก 3% หรือยูเรีย 6 % และ 3 % NaOH บวก 3% หรือยูเรีย , 6 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เมื่อการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนสารเคมีที่ใช้ในการรักษาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของฟางข้าว ยูเรีย 3-6 % จะเหมาะสม