The Framingham Heart Study showed t

The Framingham Heart Study showed that even if an
individual had normal blood pressure readings at the age
of 65 there was a 90% lifetime risk of developing systolic
hypertension by the age of 80–85 years (Franklin, 2012).
Therefore, with an ageing population and life expectancy
increasing, hypertension in older people will be even more
common and health professionals need to be aware of this
condition, its diagnosis and management. Hypertension is
very common among care home residents, who are commonly
treated with anti-hypertensive medication (Welsh,
et al, 2013).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาหัวใจของ Framingham พบว่าแม้การบุคคลมีการอ่านค่าความดันโลหิตปกติที่อายุ65 มีความเสี่ยง 90% อายุการใช้งานของ systolicความดันโลหิตสูงอายุ 80 – 85 ปี (แฟรงคลิน 2012)ดังนั้น มีประชากรสูงอายุและอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุจะมีมากขึ้นผู้เชี่ยวชาญทั่วไปและสุขภาพจำเป็นต้องตระหนักถึงเรื่องนี้เงื่อนไข การวินิจฉัย และการจัดการ เป็นความดันโลหิตสูงกันมากในหมู่ชาวบ้านดูแล คือใครกันรักษา ด้วยยาต้านความดันโลหิตสูง (เวลส์et al, 2013)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาหัวใจรามิงแฮมแสดงให้เห็นว่าแม้ว่า
แต่ละคนมีการอ่านความดันโลหิตปกติที่อายุ
65 มีความเสี่ยงอายุการใช้งาน 90% ของการพัฒนา systolic
ความดันโลหิตสูงโดยอายุ 80-85 ปี (แฟรงคลิน, 2012).
จึงมีริ้วรอย ประชากรและอายุขัย
ที่เพิ่มขึ้นความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุจะยิ่ง
พบบ่อยและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจะต้องตระหนักถึงเรื่องนี้
สภาพการวินิจฉัยและการจัดการ ความดันโลหิตสูง
ที่พบบ่อยมากในหมู่ประชาชนดูแลบ้านที่มักจะ
รับการรักษาด้วยยาต้านความดันโลหิตสูง (เวลส์,
et al, 2013)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เฟรมิงศึกษาพบว่า แม้แต่หัวใจบุคคลที่มีการอ่านความดันโลหิตปกติที่อายุ65 มี 90 % อายุการใช้งานความเสี่ยงของการพัฒนา ,ความดันโลหิตสูง โดยอายุ 80 - 85 ปี ( แฟรงคลิน , 2012 )ดังนั้น ด้วยประชากรอายุ อายุขัย และเพิ่ม , ความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุจะมากขึ้นทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจะต้องตระหนักถึงนี้เงื่อนไขของการวินิจฉัยและการจัดการ ความดันโลหิตสูงคือดูแลประชาชนทั่วไปมากในหมู่บ้านที่เป็นปกติการรักษาด้วยยาต้านความดันโลหิตสูง ( เวลส์et al , 2013 )