Michael "Mike" Rubens Bloomberg[2]

Michael "Mike" Rubens Bloomberg[2] (born February 14, 1942) is an American business magnate, politician, and philanthropist. Bloomberg is currently the 6th richest person in the world with an estimated net worth of US$51 billion as of September 2016.[3]

Bloomberg is the founder, CEO, and owner of Bloomberg L.P., the global financial data and media company that bears his name, and is notable for its Bloomberg Terminal, which is widely used by investment professionals around the world. Bloomberg began his career at the securities brokerage Salomon Brothers, before forming his own company in 1981 and spending the next twenty years as its Chairman and CEO. Bloomberg also served as Chairman of the Board of Trustees at his alma mater, Johns Hopkins University, from 1996 to 2002.

Bloomberg served as the 108th Mayor of New York City, holding office for three consecutive terms, beginning with his first election in 2001. A Democrat before seeking elective office, Bloomberg switched his party registration in 2001 to run for Mayor as a Republican. Bloomberg defeated opponent Mark Green in a close election held just weeks after the September 11 terrorist attacks. Bloomberg won a second term in 2005, and left the Republican Party two years later. Bloomberg campaigned to change the city's term limits law, and was elected to his third term in 2009 as an Independent candidate on the Republican ballot line.

Bloomberg was frequently mentioned as a possible candidate for the U.S. Presidential elections in 2008, and 2012, as well as for Governor of New York in 2010. Bloomberg declined to seek either office, instead opting to continue serving as the Mayor of New York City. On January 1, 2014, Bill de Blasio succeeded Bloomberg as the Mayor of New York City. After a brief stint as a full-time philanthropist, Bloomberg re-assumed the position of CEO at Bloomberg L.P. the end of 2014. On March 7, 2016, Bloomberg announced that he would not run as a third party candidate in the 2016 Presidential election despite widespread speculation that he would, and later endorsed Democratic nominee Hillary Clinton for President.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บลูมเบิร์กไมเคิล "ไมค์" รูเบนส์ [2] (เกิด 14 กุมภาพันธ์ 1942) เป็นธุรกิจอเมริกันแมกเนท นักการเมือง และใจบุญสุนทาน บลูมเบิร์กอยู่ในขณะนี้ 6 บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกสุทธิการประเมินมูลค่าของ 51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ 2559 กันยายน [3]บลูมเบิร์กเป็นผู้ก่อตั้ง ประธานบริษัท และเจ้าของ L.P. บลูมเบิร์ก ข้อมูลทางการเงินทั่วโลก และบริษัทสื่อที่หมีชื่อของเขา และโดดเด่นในเรื่องของบลูมเบิร์กเทอร์มินัล ซึ่งถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลก บลูมเบิร์กเริ่มอาชีพนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ซาโลมอนบรา ก่อนที่จะสร้างธุรกิจของตัวเองในปี 1981 และใช้จ่ายยี่สิบปีถัดไปเป็นของประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลูมเบิร์กยังทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการที่เขาโรงเรียนเก่า จอห์นส์ฮอปกินส์มหาวิทยาลัย ปี 1996 ถึง 2002บลูมเบิร์กให้บริการเป็นงานกวางนายกเทศมนตรีของนิวยอร์ก ดำรงสำหรับสามเงื่อนไขต่อเนื่อง เริ่มต้น ด้วยการเลือกตั้งครั้งแรกของเขาในปี 2001 ประชาธิปัตย์ก่อนหาเสียงเลือกตั้ง บลูมเบิร์กสลับทะเบียนพรรคของเขาในปี 2001 การเรียกใช้สำหรับนายกเทศมนตรีเป็นรีพับลิกัน บลูมเบิร์กชนะฝ่ายตรงข้ามสีเขียวเครื่องหมายในการเลือกตั้งปิดจัดเพียงสัปดาห์หลังจากการก่อการร้ายโจมตี 11 กันยายน บลูมเบิร์กชนะต่อระยะที่สองในปี 2005 และซ้ายพรรคออกไปเพียงสองปีต่อมา บลูมเบิร์กรณรงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายจำกัดระยะของเมือง และได้รับเลือกวาระสามในปี 2009 เป็นผู้สมัครอิสระที่บรรทัดบัตรสาธารณรัฐบลูมเบิร์กมีการกล่าวถึงบ่อยเป็นผู้สมัครที่เป็นไปได้ สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใน 2008 และ 2555 รวม ทั้งสำหรับผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กใน 2010 บลูมเบิร์กปฏิเสธเพื่อค้นหาสำนักงานใด แทน ที่เลือกไปตามนายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์กที่ให้บริการ บน 1 มกราคม 2557 บิลเดอ Blasio สำเร็จบลูมเบิร์กเป็นนายกเทศมนตรีของนิวยอร์กซิตี้ หลังคือโดยย่อเป็นที่ใจบุญสุนทานตลอดเวลา บลูมเบิร์กอีกถือว่าตำแหน่งของ CEO ที่บลูมเบิร์ก L.P. สิ้นปี 2557 บน 7 มีนาคม 2016 บลูมเบิร์กประกาศว่า เขาจะทำงานเป็นผู้สมัครของบุคคลในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016 แม้มีการเก็งกำไรอย่างแพร่หลายว่า เขาจะ และภายหลังได้รับการรับรองประชาธิปไตยตัวแทนสำหรับประธานาธิบดีคลินตัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไมเคิล "ไมค์" รูเบนส์บลูมเบิร์ก [2] (เกิด 14 กุมภาพันธ์ 1942) เป็นชาวอเมริกันเจ้าสัวธุรกิจนักการเมืองและผู้ใจบุญ บลูมเบิร์กขณะนี้บุคคลที่ร่ำรวยที่สุด 6 ในโลกที่มีมูลค่าสุทธิประมาณ US $ 51 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2016 [3]

บลูมเบิร์กเป็นผู้ก่อตั้งซีอีโอและเจ้าของบลูมเบิร์ก LP ข้อมูลทางการเงินและ บริษัท สื่อระดับโลกที่หมีของเขา ชื่อและที่น่าทึ่งสำหรับเทอร์มิบลูมเบิร์กซึ่งถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลก บลูมเบิร์กเริ่มอาชีพของเขาในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์บราเธอร์ก่อนที่จะขึ้นรูป บริษัท ของตัวเองในปี 1981 และการใช้จ่ายยี่สิบปีข้างหน้าเป็นประธานและซีอีโอของ บลูมเบิร์กยังทำหน้าที่เป็นประธานของคณะกรรมาธิการที่โรงเรียนเก่าของเขา Johns Hopkins University จากปี 1996 ถึงปี 2002

บลูมเบิร์กทำหน้าที่เป็นนายกเทศมนตรี 108th ของมหานครนิวยอร์กสำนักงานถือสามสมัยติดต่อกันเริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งครั้งแรกของเขาในปี 2001 ประชาธิปัตย์ก่อนที่กำลังมองหาการเลือกตั้งสำนักงาน, บลูมเบิร์กเปิดลงทะเบียนพรรคของเขาในปี 2001 เพื่อใช้สำหรับนายกเทศมนตรีเป็นสาธารณรัฐ บลูมเบิร์กแพ้ฝ่ายตรงข้ามมาร์คสีเขียวในการเลือกตั้งใกล้ที่จัดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ 11 กันยายน บลูมเบิร์กได้รับรางวัลเป็นสมัยที่สองในปี 2005 และออกจากพรรครีพับลิสองปีต่อมา บลูมเบิร์กรณรงค์การเปลี่ยนแปลงของเมืองกฎหมาย จำกัด ระยะและได้รับเลือกให้ระยะที่สามของเขาในปี 2009 ในฐานะผู้สมัครอิสระเกี่ยวกับสายการลงคะแนนเสียงพรรครีพับลิ.

บลูมเบิร์กได้รับการกล่าวถึงบ่อยครั้งในฐานะผู้สมัครที่เป็นไปได้สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2008 และปี 2012 ได้เป็นอย่างดี เป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กในปี 2010 บลูมเบิร์กปฏิเสธที่จะหาทั้งสำนักงานแทนการเลือกที่จะยังคงทำหน้าที่เป็นนายกเทศมนตรีของนครนิวยอร์ก วันที่ 1 มกราคม 2014 บิลเดอ Blasio ประสบความสำเร็จตามที่บลูมเบิร์กนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก หลังจากยุติเป็นคนใจบุญเต็มเวลา, บลูมเบิร์กอีกครั้งรับตำแหน่งซีอีโอที่บลูมเบิร์ก LP ท้ายของปี 2014 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2016 ที่บลูมเบิร์กประกาศว่าเขาจะไม่ทำงานในฐานะผู้สมัครของบุคคลที่สามในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2016 แม้จะมีการเก็งกำไรอย่างกว้างขวางว่าเขาจะได้รับการรับรองและต่อมาผู้ท้าชิงประชาธิปไตยฮิลลารีคลินตันเป็นประธานาธิบดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไมเคิล " ไมค์ " Rubens Bloomberg [ 2 ] ( เกิด 14 กุมภาพันธ์ 1942 ) เป็นเจ้าสัวธุรกิจอเมริกันนักการเมืองและผู้ใจบุญ บลูมเบิร์กอยู่ 6 คน richest ในโลกมีประมาณมูลค่าสุทธิของ $ 51 ล้านบาท ณเดือนกันยายน 2552 [ 2 ]บลูมเบิร์ก เป็นผู้ก่อตั้ง ประธาน และเจ้าของของ Bloomberg L.P สากล ข้อมูลทางการเงินและ บริษัท สื่อที่หมีชื่อของเขาและเป็นเรื่องน่าทึ่งของ Bloomberg terminal ซึ่งเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลายโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลก บลูมเบิร์กได้เริ่มอาชีพของเขาในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซาโลมอน พี่น้อง ก่อนที่จะสร้าง บริษัท ของตัวเองในปี 1981 และใช้เวลาอีกยี่สิบปีในฐานะประธานกรรมการและซีอีโอของ บลูมเบิร์กยังทำหน้าที่เป็นประธานของคณะกรรมการที่โรงเรียนเดิมของเขา , Johns Hopkins มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545ทำหน้าที่เป็นนายกเทศมนตรีบลูมเบิร์กครั้งที่ 108 ของนิวยอร์ก ดำรงตำแหน่งสามสมัยติดต่อกัน เริ่มจากการเลือกตั้งครั้งแรกของเขาในปี 2001 พรรคประชาธิปัตย์ก่อนที่จะแสวงหาการเลือกตั้งสำนักงานบลูม เปลี่ยนทะเบียนพรรคของเขาในปี 2001 ที่จะวิ่งไปหานายกเทศมนตรีเป็นรีพับลิกัน บลูมเบิร์กพ่ายแพ้ฝ่ายตรงข้ามเครื่องหมายสีเขียวในการเลือกตั้งที่ใกล้จัดขึ้นสัปดาห์หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย 11 กันยายน . บลูมเบิร์กจะเป็นสมัยที่สองในปี 2005 และออกจากพรรครีพับลิกัน สองปีต่อมา บลูมเบิร์ก รณรงค์เพื่อเปลี่ยนเป็นเมืองจำกัดกฎหมาย และได้รับเลือกให้ระยะที่สามของเขาในปี 2009 ในฐานะผู้สมัครอิสระในบรรทัดการรีพับลิกันบลูมเบิร์กถูกกล่าวถึงบ่อย เป็นผู้สมัครที่เป็นไปได้สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2008 และ 2012 รวมทั้งผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กในปี 2010 บลูมเบิร์ก ปฏิเสธที่จะแสวงหาให้สำนักงาน แทนการเลือกที่จะยังคงให้บริการเป็นนายกเทศมนตรีของนิวยอร์ก บน 1 มกราคม 2014 , บิลเดอ blasio สำเร็จ Bloomberg เป็นนายกเทศมนตรีของนิวยอร์ก หลังจากการ จำกัด สั้น ๆเป็นคนใจบุญเต็มเวลา , บลูมเบิร์กจะถือว่าตำแหน่งซีอีโอของ Bloomberg L.P จุดสิ้นสุดของ 2014 ในวันที่ 7 มีนาคม 2016 , บลูมเบิร์กประกาศว่าเขาจะไม่วิ่งเป็นบุคคลที่สามผู้สมัครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 แม้จะมีการเก็งกำไรกันอย่างแพร่หลายว่าเขาและต่อมาสนับสนุนประชาธิปไตยนอมินี ฮิลลารี คลินตัน ประธานาธิบดี