It has been proposed that the abili

It has been proposed that the ability of carbohydrate-based fat replacers to effectively mimic the physical properties of milk fat will be determined by the colloidal properties of the carbohydrates involved and their impact on mouth feel (Specter & Setser, 1994). It is possible that the melting of ice cream within the oral cavity may be influenced by the hydrated particles of the fat replacer such that the perception of creaminess is intensified. Of interest were the relationships noted between smoothness and the instrumental measurement for firmness (plunger) and tackiness (knife; Table 6), which suggests the firmness of the sample may influence the perception of smoothness.

The results for smoothness (Table 3) indicate that a decrease in ice cream smoothness occurs when the fat level is decreased from light (5.20%) to low fat (2.40%) or fat free (0.50%). The contribution of fat content to ice cream smoothness is also apparent in the strong correlation between smoothness and fat content (Table 4). This relationship is in agreement with previously published results where decreases in creaminess were reported when the fat level was decreased from 10 to 3% (Morris, 1992) and from 12 to 8% or from 8 to 3% (Stampanoni Koeferli et al., 1996). It would appear, therefore, that the use of modified starches in ice cream with less that 5% milk fat does not result in products with smoothness or creaminess similar to that of the regular fat ice cream.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จึงมีการเสนอว่า ความสามารถในการใช้คาร์โบไฮเดรตไขมัน replacers เพื่อเลียนแบบคุณสมบัติทางกายภาพของนมไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพจะถูกกำหนด โดยคุณสมบัติ colloidal ของคาร์โบไฮเดรตที่เกี่ยวข้อง และผลในปากรู้สึก (Specter & Setser, 1994) มันเป็นไปได้ว่า การละลายของไอศกรีมภายในช่องปากอาจมีผลมาจากอนุภาคผลิตภัณฑ์ของเทียมเลี้ยงลูกโคไขมันที่ intensified การรับรู้ของ creaminess ดอกเบี้ยมีความสัมพันธ์ที่ไว้ระหว่างราบรื่นและประเมินเครื่องมือสำหรับไอซ์ (จมูก) และ tackiness (มีด ตาราง 6), ซึ่งแนะนำไอซ์ของตัวอย่างอาจมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของราบรื่นได้ผลการที่ราบรื่น (ตาราง 3) บ่งชี้ว่า การลดลงในไอศกรีมราบรื่นเกิดขึ้นเมื่อระดับไขมันจะลดลงจากไฟ (5.20%) ไขมัน (2.40%) หรือไขมันฟรี (0.50%) สัดส่วนของไขมันจะราบรื่นไอศกรีมก็ชัดเจนในความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างราบรื่นและไขมัน (ตาราง 4) ความสัมพันธ์นี้ได้ยังคงก่อนหน้านี้ประกาศผลที่ลดลงใน creaminess ถูกรายงานเมื่อระดับไขมันลดลง จาก 10% 3 (มอร์ริส 1992) และ จาก 12 เป็น 8% หรือ 8% 3 (Stampanoni Koeferli et al., 1996) มันจะปรากฏ ดังนั้น ที่ใช้ปรับเปลี่ยนสมบัติในไอศกรีมมีน้อยที่เนย 5% ไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์ มีราบรื่นหรือที่ปกติไขมันไอศกรีม creaminess

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันได้รับการเสนอว่าความสามารถของคาร์โบไฮเดรตที่ใช้ทดแทนไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพเลียนแบบคุณสมบัติทางกายภาพของนมไขมันจะถูกกำหนดโดยคุณสมบัติคอลลอยด์ของคาร์โบไฮเดรตที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพวกเขาในปาก (ผีและ Setser, 1994) เป็นไปได้ว่าการละลายของไอศครีมที่อยู่ในช่องปากอาจจะได้รับอิทธิพลจากอนุภาคของไฮเดรทไขมันทดแทนดังกล่าวว่าการรับรู้ของ creaminess จะทวีความรุนแรงมาก ที่น่าสนใจมีความสัมพันธ์ที่ระบุไว้ระหว่างความเรียบเนียนและการวัดการใช้เครื่องมือสำหรับความแน่น (ลูกสูบ) และขาดรสนิยมที่ดี (มีด; ตารางที่ 6). ซึ่งแสดงให้เห็นความแน่นของกลุ่มตัวอย่างที่อาจมีผลต่อการรับรู้ของความเรียบเนียนผลสำหรับเรียบ(ตารางที่ 3) แสดงให้เห็นว่า การลดลงของความเรียบเนียนไอศครีมเกิดขึ้นเมื่อระดับไขมันจะลดลงจากแสง (5.20%) ที่จะมีไขมันต่ำ (2.40%) หรือไขมันฟรี (0.50%) มีส่วนร่วมของปริมาณไขมันเพื่อความเรียบเนียนไอศครีมยังเป็นที่ประจักษ์ในความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างความเรียบเนียนและปริมาณไขมัน (ตารางที่ 4) ความสัมพันธ์นี้อยู่ในข้อตกลงที่มีผลเผยแพร่ก่อนหน้านี้ที่ลดลงใน creaminess ได้รับรายงานเมื่อระดับไขมันลดลง 10-3% (มอร์ริส, 1992) และ 12-8% หรือ 8-3% (Stampanoni Koeferli et al., 1996) มันจะปรากฏจึงว่าการใช้แป้งดัดแปรในไอศครีมที่มีน้อยที่ 5% ไขมันนมไม่ได้ส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีความเรียบเนียนหรือ creaminess คล้ายกับที่ของไอศครีมไขมันปกติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก็มีการเสนอว่า ความสามารถของคาร์โบไฮเดรตที่ใช้สารทดแทนไขมันมีประสิทธิภาพเลียนแบบคุณสมบัติทางกายภาพของไขมันในนมจะถูกกำหนดโดยคุณสมบัติคอลลอยด์ของคาร์โบไฮเดรตที่เกี่ยวข้องและผลกระทบของพวกเขาในปากรู้สึก ( Specter & setser , 1994 )เป็นไปได้ว่า การหลอมละลายของไอศกรีมภายในช่องปาก อาจได้รับอิทธิพลจาก hydrated อนุภาคของไขมันเช่นการรับรู้ creaminess เป็นรุนแรงขึ้น ที่น่าสนใจคือ ความสัมพันธ์ระหว่างความเนียนและเป็นเครื่องมือวัดความแน่น ( ลูกสูบ ) และอย่างมาก ( มีด ; ตารางที่ 6 )ซึ่งบ่งบอกความแน่วแน่ของตัวอย่างอาจจะมีอิทธิพลต่อการรับรู้ความ

ผลเรียบ ( ตารางที่ 3 ) พบว่าลดลงในไอศกรีมเนียนเกิดขึ้นเมื่อระดับไขมันลดลงจากแสง ( 5.20 % ) ไขมันต่ำ ( 2.40 บาท ) หรือไขมันฟรี ( 0.50% )ส่วนปริมาณไขมันในไอศกรีมเรียบยังชัดเจนในความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างความเรียบเนียนและปริมาณไขมัน ( ตารางที่ 4 ) ความสัมพันธ์นี้สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ตีพิมพ์ผลที่ลดลงใน creaminess รายงานเมื่อระดับไขมันลดลงจาก 10 ถึง 3 % ( มอร์ริส , 1992 ) และจาก 12 ถึง 8% หรือจาก 8 ถึง 3 % ( stampanoni koeferli et al . , 1996 )ดูเหมือนจะเป็น ดังนั้น การใช้แป้งดัดแปรในไอศกรีมที่มีไขมันนมน้อยกว่า 5% ที่ไม่ส่งผลในผลิตภัณฑ์กับเรียบหรือ creaminess คล้ายกับที่ของปกติไอศกรีมไขมัน