แขวงหลวงพระบาง เดิมเป็นเมืองหลวงของลาว ในสมัยแรกเข้ามาอยู่สุวรรณภูมิ ภ การแปล - แขวงหลวงพระบาง เดิมเป็นเมืองหลวงของลาว ในสมัยแรกเข้ามาอยู่สุวรรณภูมิ ภ ไทย วิธีการพูด

แขวงหลวงพระบาง เดิมเป็นเมืองหลวงของ

แขวงหลวงพระบาง เดิมเป็นเมืองหลวงของลาว ในสมัยแรกเข้ามาอยู่สุวรรณภูมิ ภายหลังลาวแบ่งแยกออกเป็นหลายภาค หลวงพระบางเป็นเมืองหลวงของลาวภาคเหนือ ตามรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวง ปัจจุบันเมืองหลวงพระบางยังเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ ซึ่งประชาชนเรียกองค์ท่านว่า “ สมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตแห่งพระราชอาณาจักรลาว”

เมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายติดฝั่งแม่น้ำโขง มีแม่น้ำคานไหลลงบรรจบแม่น้ำโขงตอนเหนือเมือง ณ ปากน้ำตรงนั้นมีวัดโบราณของลาว คือ วัดเชียงทอง ตามคำบอกเล่าของชาวลาวว่า เดิมเป็นบ่อทองคำ และมีต้นไม้ทองใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ภายหลังโค่นลงเสีย และเอาดินถมบ่อทองสร้างวิหารครอบไว้ มีหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งใหญ่มากเรียกว่า “ ก้อนชวา” ตั้งอยู่ไร่นาข้าวเจ้า ซึ่งราษฎรสมัยก่อนต้องทำนาข้าวเจ้าไปถวายให้กษัตริย์เสวย ทางทิศใต้เมืองหลวงพระบางประมาณ 2 กิโลเมตร มีหมู่บ้านหนึ่งเรียกบ้านสังคะโลก หมู่บ้านนี้เดิมเรียกว่า “ เชียงดง” เพราะมีมีแม่น้ำดงผ่าน ทุกปีมีงานสรงน้ำพระพุทธรูป กษัตริย์ชาวลาวทุกองค์ต้องเสด็จไปร่วมพิธีที่นั่น หมู่บ้านเชียงดงหรือสังคะโลกเวลานี้มีประมาณ 120 หลังคาเรือน

นามต่างๆ เหล่านี้เกี่ยวข้องกับนามเมืองหลวงพระบางสมัยแรก เพราะประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารเมืองเรียกชื่อเมืองหลวงพระบางต่างๆ กัน คือ บางฉบับเรียกว่า “ เชียงคงเชียงทอง” บางฉบับว่า “ เชียงดงเชียงทอง” บางฉบับว่า ดินแดนลาว พวกขอมอยู่ก่อน พวกละว้าหรือข่าเข้ามาอยู่ภายหลัง บางฉบับว่าพวกขอมอยู่ที่หลัง พวกละว้าหรือลั๊วะอยู่ก่อน

ไทยลาวเข้ามาภายหลังทั้งสองพวก แล้วขับไล่พวกนี้ไปอยู่ตามป่าตามเขา บางท่านว่านามผู้ปกครองเมืองหรือนามบุคคลซึ่งกล่าวถึงสมัยแรกตั้งเมืองหลวงพระบางเป็นนามขอม บางท่านว่าเป็นนามของพวกละว้า

ผู้ที่ทราบภาษาลาว ได้อ่านพงศาวดารภาษาลาวออก สอบถามชาวเมืองประกอบแล้วจะทราบได้ว่า นามเหล่านี้เป็นนามภาษาลาวเป็นส่วนมาก ดังนาม “ อ้ายเจตไหเมียชื่อนางเกล้าใหญ่” ในหนังสือพงศาวดารฝ่ายไทยเขียนไว้ ที่ถูกควรเป็น “ อ้ายเจ็ดไห” ตามสำเนียงภาษาลาวและอักษรลาวเขียนไว้ “ นางเก๊าใหญ่” มากกว่า เพราะภาษาลาวไม่ใช้อักษร “ ล.” หรือ “ ร.” กล้ำ คำว่า “ เกล้า” ภาษาไทยแปลว่า “ หัว” หรือ “ ขมวดผม” แต่คำว่า “ เก๊า” เป็นภาษาลาว แปลได้หลายอย่าง จะยืนยันลงไปว่า นามกษัตริย์สมัยแรกเป็นขอมเพราะมีชื่อเป็นขอมทั้งนั้นยังนับไม่ได้

ตามพงศาวดารล้านช้างว่า โอรสขุนบรมองค์ที่ 1 นามขุนลอ ไปตั้งเมืองบริเวณเมืองชะวา (คือเมืองหลวงพระบาง) ชั้นแรกเรียกว่า บ้านเซ่า คำว่า “ เซ่า” ภาษาลาวแปลว่า “ หยุด” หรือ “ พัก” อาจจะหมายความว่าขุนลอ ยกไพร่พลลงมาเห็นทำเลตรงนั้นเหมาะจะสร้างเป็นเมืองหลวงจึงหยุดพัก ชั้นแรกยังไม่ได้ตั้งชื่อเมือง คงเรียกกันว่าบ้านเซ่า ไปพลางก่อน ต่อมาพลเมืองหนาแน่นเข้า เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น เชียงดง เชียงทอง

หากเชียงดงเป็นนามเดิมของหมู่บ้านสังคะโลก ซึ่งมีน้ำดงไหลผ่านและเชียงทองนั้นหมายถึงปากแม่น้ำคานตอนไหลบรรจบแม่น้ำโขง ติดตัวเมืองหลวงพระบางทางเหนือและเป็นที่ตั้งวัดเชียงทองเวลานี้ คำว่า “ เชียงดงเชียงทอง” คงหมายถึง 2 เมืองติดกัน ต่อมาเมื่อได้เชิญพระบางมาจากเวียงจันทน์ ไปประดิษฐาน ณ เมืองเชียงดงเชียงทองแล้วจึงเปลี่ยนนามเมืองเป็น “ เมืองหลวงพระบาง” มาจนทุกวันนี้

พงศาวดารลาว ได้เล่าถึงเรื่องเมืองหลวงพระบางสมัยแรกดังนี้

“ นับแต่ขุนบูลม ลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปี ขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปี ก็ล่วงมาตั้งเมืองชะวาที่เชียงดงเชียงทอง อันเจ้ารัสสี (ฤาษี) แฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงินไว้ ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแล ยามนั้น ข่ากันฮางปู่มัน พระยานาคอยู่น้ำท่าผาติ่งสบอูหั้น ขุนลอจึงมาเลวแป้ (รบชนะ) ไล่เขาเมืองภูเลาภูคา จึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แล อันนั้นแม่นข่ากันฮางแล

ยังมีคนชุมหนึ่ง แม่เขาชื่อนางกางฮีผีเสื้อ พ่อเขานั้นเป็นคนเอากัน เป็นผัวเมียจึงมีลูก เขาใส่ชื่อลูกผู้พี่นั้น ชื่อขุนเค็ด ผู้น้องชื่อขุนคาน เขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทอง บุญเขาน้อยมาตั้งบ่ได้ เขาจึงไปตั้งที่เชียงงวด อัน เฮาว่าขึงมวกบัดนี้แล บ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขา ขุนลอจุงไปเลวเอาแต่นั้นเขาก็เอารี้พลมาฮอดท้านขันหั้น ขุนลอก็ไปเลวได้ชนกัน ขุนลอก็เลวแป้ (รบชนะ) ไล่ไป ก็ได้ขุนเค็ดขุนคานที่เชียงงวด ทั้งพ่อทั้งลูกเอาไปจมน้ำเสียที่ดอนสิงหั้นแล เชื้อแถวขุนคานก็พ่ายหนีไปลี้ซ่อนอยู่หั้นแล แต่นั้นเจ้าขุนลอก็คืนมาฮอดเชียงดงเชียงทอง แล้วคนทั้งหลายจึงราชาภิเษกให้เป็นเจ้าแผ่นดินหั้นแล ”

ตามข้อความข้างบน แสดงว่าเมืองชะวานั้นมีชนชาติข่านามว่า กันฮาง ตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อน เมื่อขุนลอโอรสของขุนบรมเข้ามาก็ขับไล่พวกข่ากันฮางไปอยู่ตามป่า ตามภูเขาภูคา เป็นทาสของชาวลาวตราบทุกวันนี้ ยังมีชนพวกหนึ่งมีหัวหน้า 2 พี่น้อง ผู้พี่ขุนเค็ด ผู้น้องชื่อขุนคาน เป็นโอรสของนาง กางฮี ผีเสื้อ มีบิดาเป็นมนุษย์ ตั้งบ้านเมืองอยู่เชียงงวด (ขี้มวกหรือขึงมวก) ขุนลอยกไปรบชนะขับไล่พ่ายไป เป็นพระเจ้าแผ่นดินครองเมืองศรีสัตนาคนหุตอุตตมราชธานี โดยเอา “ งอนหมื่นหลวงเท่าสบโฮบเป็นหางนาค เอาสบคานและน้ำของก้ำ (เฉียง) เหนือเป็นหัวนาค จึงได้ชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาคเพื่อดังนั้น อันชื่อเมืองล้านช้างนี้เอานิมิต จึงเรียกว่าเมืองล้านช้างเพื่ออั้นแล”

เมืองหลวงพระบาง จึงมีหลายชื่อ ชาวลาวปัจจุบันนิยมเรียกชื่อเดียวว่า เมืองหลวงพระบาง หมอมัคกิลวารีไปประเทศลาวเมื่อ พ.ศ. 2414 ได้เขียนไว้ว่า “ เมืองหลวงพระบางนี้มีลักษณะมั่นคงกว่าหัวเมืองไทยทั้งหลายที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ และเป็นเมืองต่างจากเมืองลาวทั้งปวง พลเมืองส่วนมากไม่ได้อยู่ในเมือง ทำเลการทำนาก็อยู่ห่างไกลเมืองออกไป ข้าวที่ส่งเป็นอาหารของชาวเมืองหลวงพระบางได้จากพวกชาวเขาที่ส่งส่วยเป็นภาษีประจำ เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งโขง มีเนินเขาอยู่ตรงกลางสูงประมาณ 200 ฟุต มีสถูปเจดีย์อยู่บนยอด ลำน้ำแม่คานไหลผ่านตัวเมืองออกไปบรรจบแม่น้ำโขง”

ตำนานเมืองหลวงพระบางตอนต้น เล่าว่า เดิมเมืองหลวงพระบางนั้นเป็นเมืองผีเสื้อหรือยักษ์ มีพญายักษ์ตนหนึ่งชื่อ นันทา เมียชื่อ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
แขวงหลวงพระบางเดิมเป็นเมืองหลวงของลาวในสมัยแรกเข้ามาอยู่สุวรรณภูมิภายหลังลาวแบ่งแยกออกเป็นหลายภาคหลวงพระบางเป็นเมืองหลวงของลาวภาคเหนือตามรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงปัจจุบันเมืองหลวงพระบางยังเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ซึ่งประชาชนเรียกองค์ท่านว่า "สมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตแห่งพระราชอาณาจักรลาว"เมืองหลวงพระบางตั้งอยู่ฝั่งซ้ายติดฝั่งแม่น้ำโขงมีแม่น้ำคานไหลลงบรรจบแม่น้ำโขงตอนเหนือเมืองณปากน้ำตรงนั้นมีวัดโบราณของลาวคือวัดเชียงทองตามคำบอกเล่าของชาวลาวว่าเดิมเป็นบ่อทองคำและมีต้นไม้ทองใหญ่อยู่ต้นหนึ่งภายหลังโค่นลงเสียและเอาดินถมบ่อทองสร้างวิหารครอบไว้มีหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งใหญ่มากเรียกว่า "ก้อนชวา" ตั้งอยู่ไร่นาข้าวเจ้าซึ่งราษฎรสมัยก่อนต้องทำนาข้าวเจ้าไปถวายให้กษัตริย์เสวยทางทิศใต้เมืองหลวงพระบางประมาณ 2 กิโลเมตรมีหมู่บ้านหนึ่งเรียกบ้านสังคะโลกหมู่บ้านนี้เดิมเรียกว่า "เชียงดง" เพราะมีมีแม่น้ำดงผ่านทุกปีมีงานสรงน้ำพระพุทธรูปกษัตริย์ชาวลาวทุกองค์ต้องเสด็จไปร่วมพิธีที่นั่นหมู่บ้านเชียงดงหรือสังคะโลกเวลานี้มีประมาณ 120 หลังคาเรือนนามต่าง ๆ เหล่านี้เกี่ยวข้องกับนามเมืองหลวงพระบางสมัยแรกเพราะประวัติศาสตร์หรือพงศาวดารเมืองเรียกชื่อเมืองหลวงพระบางต่าง ๆ กันคือบางฉบับเรียกว่า "เชียงคงเชียงทอง" บางฉบับว่า "เชียงดงเชียงทอง" บางฉบับว่าดินแดนลาวพวกขอมอยู่ก่อนพวกละว้าหรือข่าเข้ามาอยู่ภายหลังบางฉบับว่าพวกขอมอยู่ที่หลังพวกละว้าหรือลั๊วะอยู่ก่อนไทยลาวเข้ามาภายหลังทั้งสองพวกแล้วขับไล่พวกนี้ไปอยู่ตามป่าตามเขาบางท่านว่านามผู้ปกครองเมืองหรือนามบุคคลซึ่งกล่าวถึงสมัยแรกตั้งเมืองหลวงพระบางเป็นนามขอมบางท่านว่าเป็นนามของพวกละว้าผู้ที่ทราบภาษาลาวได้อ่านพงศาวดารภาษาลาวออกสอบถามชาวเมืองประกอบแล้วจะทราบได้ว่านามเหล่านี้เป็นนามภาษาลาวเป็นส่วนมากดังนาม "อ้ายเจตไหเมียชื่อนางเกล้าใหญ่" ในหนังสือพงศาวดารฝ่ายไทยเขียนไว้ที่ถูกควรเป็น "อ้ายเจ็ดไห" ตามสำเนียงภาษาลาวและอักษรลาวเขียนไว้ "นางเก๊าใหญ่" มากกว่าเพราะภาษาลาวไม่ใช้อักษร "ล." หรือ "ร." กล้ำคำว่า "เกล้า" ภาษาไทยแปลว่า "หัว" หรือ "ขมวดผม" แต่คำว่า "เก๊า" เป็นภาษาลาวแปลได้หลายอย่างจะยืนยันลงไปว่านามกษัตริย์สมัยแรกเป็นขอมเพราะมีชื่อเป็นขอมทั้งนั้นยังนับไม่ได้ตามพงศาวดารล้านช้างว่าโอรสขุนบรมองค์ที่ 1 นามขุนลอไปตั้งเมืองบริเวณเมืองชะวา (คือเมืองหลวงพระบาง) ชั้นแรกเรียกว่าบ้านเซ่าคำว่า "เซ่า" ภาษาลาวแปลว่า "หยุด" หรือ "พัก" อาจจะหมายความว่าขุนลอยกไพร่พลลงมาเห็นทำเลตรงนั้นเหมาะจะสร้างเป็นเมืองหลวงจึงหยุดพักชั้นแรกยังไม่ได้ตั้งชื่อเมืองคงเรียกกันว่าบ้านเซ่าไปพลางก่อนต่อมาพลเมืองหนาแน่นเข้าเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเชียงดงเชียงทองมาจนทุกวันนี้เมืองติดกันต่อมาเมื่อได้เชิญพระบางมาจากเวียงจันทน์ไปประดิษฐานณเมืองเชียงดงเชียงทองแล้วจึงเปลี่ยนนามเมืองเป็น "เมืองหลวงพระบาง" คงหมายถึง 2 หากเชียงดงเป็นนามเดิมของหมู่บ้านสังคะโลกซึ่งมีน้ำดงไหลผ่านและเชียงทองนั้นหมายถึงปากแม่น้ำคานตอนไหลบรรจบแม่น้ำโขงติดตัวเมืองหลวงพระบางทางเหนือและเป็นที่ตั้งวัดเชียงทองเวลานี้คำว่า "เชียงดงเชียงทอง"พงศาวดารลาวได้เล่าถึงเรื่องเมืองหลวงพระบางสมัยแรกดังนี้"นับแต่ขุนบูลมลงมาตั้งเมืองหลุ่มได้ 205 ปีขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปีก็ล่วงมาตั้งเมืองชะวาที่เชียงดงเชียงทอง (ฤาษี) อันเจ้ารัสสีแฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงินไว้ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแลยามนั้นข่ากันฮางปู่มันพระยานาคอยู่น้ำท่าผาติ่งสบอูหั้นขุนลอจึงมาเลวแป้ (รบชนะ) ไล่เขาเมืองภูเลาภูคาจึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แลอันนั้นแม่นข่ากันฮางแลยังมีคนชุมหนึ่ง แม่เขาชื่อนางกางฮีผีเสื้อ พ่อเขานั้นเป็นคนเอากัน เป็นผัวเมียจึงมีลูก เขาใส่ชื่อลูกผู้พี่นั้น ชื่อขุนเค็ด ผู้น้องชื่อขุนคาน เขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทอง บุญเขาน้อยมาตั้งบ่ได้ เขาจึงไปตั้งที่เชียงงวด อัน เฮาว่าขึงมวกบัดนี้แล บ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขา ขุนลอจุงไปเลวเอาแต่นั้นเขาก็เอารี้พลมาฮอดท้านขันหั้น ขุนลอก็ไปเลวได้ชนกัน ขุนลอก็เลวแป้ (รบชนะ) ไล่ไป ก็ได้ขุนเค็ดขุนคานที่เชียงงวด ทั้งพ่อทั้งลูกเอาไปจมน้ำเสียที่ดอนสิงหั้นแล เชื้อแถวขุนคานก็พ่ายหนีไปลี้ซ่อนอยู่หั้นแล แต่นั้นเจ้าขุนลอก็คืนมาฮอดเชียงดงเชียงทอง แล้วคนทั้งหลายจึงราชาภิเษกให้เป็นเจ้าแผ่นดินหั้นแล ”ตามข้อความข้างบน แสดงว่าเมืองชะวานั้นมีชนชาติข่านามว่า กันฮาง ตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อน เมื่อขุนลอโอรสของขุนบรมเข้ามาก็ขับไล่พวกข่ากันฮางไปอยู่ตามป่า ตามภูเขาภูคา เป็นทาสของชาวลาวตราบทุกวันนี้ ยังมีชนพวกหนึ่งมีหัวหน้า 2 พี่น้อง ผู้พี่ขุนเค็ด ผู้น้องชื่อขุนคาน เป็นโอรสของนาง กางฮี ผีเสื้อ มีบิดาเป็นมนุษย์ ตั้งบ้านเมืองอยู่เชียงงวด (ขี้มวกหรือขึงมวก) ขุนลอยกไปรบชนะขับไล่พ่ายไป เป็นพระเจ้าแผ่นดินครองเมืองศรีสัตนาคนหุตอุตตมราชธานี โดยเอา “ งอนหมื่นหลวงเท่าสบโฮบเป็นหางนาค เอาสบคานและน้ำของก้ำ (เฉียง) เหนือเป็นหัวนาค จึงได้ชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาคเพื่อดังนั้น อันชื่อเมืองล้านช้างนี้เอานิมิต จึงเรียกว่าเมืองล้านช้างเพื่ออั้นแล”เมืองหลวงพระบางจึงมีหลายชื่อชาวลาวปัจจุบันนิยมเรียกชื่อเดียวว่าเมืองหลวงพระบางหมอมัคกิลวารีไปประเทศลาวเมื่อพ.ศ. 2414 ได้เขียนไว้ว่า "เมืองหลวงพระบางนี้มีลักษณะมั่นคงกว่าหัวเมืองไทยทั้งหลายที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ และเป็นเมืองต่างจากเมืองลาวทั้งปวงพลเมืองส่วนมากไม่ได้อยู่ในเมืองทำเลการทำนาก็อยู่ห่างไกลเมืองออกไปข้าวที่ส่งเป็นอาหารของชาวเมืองหลวงพระบางได้จากพวกชาวเขาที่ส่งส่วยเป็นภาษีประจำเมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งโขงมีเนินเขาอยู่ตรงกลางสูงประมาณ 200 ฟุตมีสถูปเจดีย์อยู่บนยอดลำน้ำแม่คานไหลผ่านตัวเมืองออกไปบรรจบแม่น้ำโขง"ตำนานเมืองหลวงพระบางตอนต้นเล่าว่าเดิมเมืองหลวงพระบางนั้นเป็นเมืองผีเสื้อหรือยักษ์มีพญายักษ์ตนหนึ่งชื่อนันทาเมียชื่อ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
แขวงหลวงพระบางเดิมเป็นเมืองหลวงของ ลาวในสมัยแรกเข้ามาอยู่สุวรรณภูมิภายหลังลาวแบ่งแยกออกเป็นหลายภาคหลวงพระบางเป็นเมืองหลวงของลาวภาคเหนือตามรัฐธรรมนูญได้บัญญัติให้เวียงจันทน์เป็นเมืองหลวงปัจจุบันเมืองหลวงพระบางยังเคยเป็นที่ประทับของ กษัตริย์ซึ่งประชาชนเรียกองค์ท่านว่า "สมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตแห่งพระราชอาณาจักร ลาว "

เมืองหลวงพระบางตั้งอยู่ฝั่งซ้ายติด ฝั่งแม่น้ำโขงมีแม่น้ำคานไหลลงบรรจบแม่น้ำโขงตอนเหนือเมือง ณ ปากน้ำตรงนั้นมีวัดโบราณของลาวคือ วัดเชียงทองตามคำบอกเล่าของ ชาวลาวว่าเดิมเป็นบ่อทองคำและมีต้นไม้ทองใหญ่อยู่ต้นหนึ่งภายหลังโค่นลงเสียและเอาดินถมบ่อทองสร้างวิหารครอบไว้มีหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งใหญ่มากเรียกว่า "ก้อนชวา "ตั้งอยู่ไร่นาข้าวเจ้าซึ่งราษฎรสมัย ก่อนต้องทำนาข้าวเจ้าไปถวายให้กษัตริย์เสวยทางทิศใต้เมืองหลวงพระบางประมาณ 2 กิโลเมตรมีหมู่บ้านหนึ่งเรียกบ้านสัง คะโลกหมู่บ้านนี้เดิมเรียกว่า " เชียงดง "เพราะมีมีแม่น้ำ ดงผ่านทุกปีมีงานสรงน้ำ พระพุทธรูปกษัตริย์ชาวลาวทุกองค์ต้องเสด็จไปร่วมพิธีที่นั่นหมู่บ้านเชียงดงหรือสังคะโลกเวลานี้มีประมาณ 120 หลังคาเรือน

นามต่างๆเหล่านี้เกี่ยวข้องกับนามเมืองหลวงที่คุณพระบางสมัยแรกเพราะประวัติศาสตร์ หรือพงศาวดารเมืองเรียกชื่อเมืองหลวงพระบาง ต่างๆกันคือบางฉบับเรียกว่า "เชียงคงเชียงทอง" บางฉบับว่า "เชียงดงเชียงทอง" บางฉบับว่าดินแดนลาวพวกขอ มอยู่ก่อนพวกละว้าหรือข่าเข้ามาอยู่ภายหลังบาง ฉบับว่าได้พวกขอมขณะนี้ที่หลังพวกละว้าหรือลั๊วะขณะนี้ก่อน

ไทย English ลาวเข้ามาภายหลังทั้งสองพวกแล้วขับไล่พวกนี้ไปขณะนี้ตามป่าตามเขาบางท่านว่าได้นามคุณผู้ปกครองเมืองหรือนามบุคคลซึ่งกล่าวถึงสมัยแรกตั้ง เมืองหลวงที่คุณพระบางเป็นนามขอมบางท่านว่าได้เป็นนามของพวกละว้า

คุณผู้ที่ทราบภาษาลาวได้อ่านพงศาวดารภาษาลาวออกสอบถามชาวเมืองประกอบแล้วจะทราบได้ว่าได้นามเหล่านี้เป็นนามภาษาลาวเป็นส่วนมากดังนาม "อ้ายเจต ไหเมียชื่อนางเกล้าใหญ่ "ในหนังสือพงศาวดารฝ่ายไทยเขียนไว้ที่ ถูกควรเป็น " อ้ายเจ็ดไห "ตามสำเนียงภาษาลาวและอักษรลาวเขียน ไว้ " นางเก๊าใหญ่ "มากกว่าเพราะภาษาลาวไม่ใช้อักษร" ล. "หรือ" ร. "กล้ำคำว่า" เกล้า "ภาษาไทยแปลว่า" หัว "หรือ" ขมวดผม " แต่คำว่า" เก๊า "เป็นภาษาลาวแปลได้หลายอย่างจะ ยืนยันลงไปว่านามกษัตริย์สมัยแรกเป็นขอมเพราะมีชื่อเป็น ขอมทั้งนั้นยังนับไม่ได้

ตามพงศาวดารล้านช้างว่าได้โอรสคุณขุนบรมองค์ที่ 1 นามขุนลอไปตั้งเมืองบริเวณ เมืองชะวา (คือเมืองหลวงพระบาง) ชั้นแรกเรียกว่าบ้านเซ่าคำว่า "เซ่า" ภาษาลาวแปลว่า "หยุด" หรือ "พัก" อาจจะหมายความว่าขุนลอยก ไพร่พลลงมาเห็นทำเลตรงนั้นเหมาะจะสร้างเป็นเมืองหลวงจึงหยุดพักชั้นแรกยังไม่ได้ตั้งชื่อเมืองคงเรียกกันว่าบ้านเซ่าไปพลางก่อนต่อมาพลเมือง หนาแน่นเข้าเปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเชียงคุณดงเชียงทอง

หากเชียงคุณดงเป็นนามเดิมของหมู่บ้านสังคะโลกซึ่งมีคุณน้ำคุณดงไหลทางทหารผ่านและเชียงทองนั้นหมายถึงปากแม่น้ำคานตอนไหลบรรจบแม่น้ำโขงติดตัวเมืองหลวงที่คุณพระบางทางเหนือและเป็น ที่ตั้งวัดเชียงทองเวลานี้คำ ว่า "เชียงดงเชียงทอง" คงหมายถึง 2 เมืองติดกันต่อมาเมื่อได้เชิญ พระบางมาจากเวียงจันทน์ไปประดิษฐาน ณ เมืองเชียงดงเชียงทองแล้วจึงเปลี่ยนนามเมืองเป็น "เมืองหลวงพระบาง "มาจนทุกวันนี้

พงศาวดารลาวได้เล่าถึงเรื่องเมืองหลวงที่คุณพระบางสมัยแรกดังนี้

" นับ แต่ขุนบูลมลงมาตั้ง เมืองหลุ่มได้ 205 ปีขุนลอใหญ่มาได้ 23 ปีก็ล่วงมาตั้งเมืองชะวา ที่เชียงดงเชียง ทองอันเจ้ารัสสี (ฤาษี) แฮกหมายใส่หลักคำใส่หลักเงิน ไว้ที่ก้อนก่ายฟ้าหั้นแลยามนั้นข่ากันฮางปู่มันพระยานาคอยู่น้ำท่าผาติ่งสบอูหั้นขุนลอจึงมาเลวแป้ (รบชนะ ) ไล่เขาเมืองคุณภูเลาคุณภูคาจึงเป็นข่าเก่าบัดนี้แลอันนั้นแม่นข่ากันฮางแล

ยังมีของคุณคนชุมคุณหนึ่งคุณแม่เขาชื่อคุณนางกางฮีผีเสื้อพ่อเขานั้นเป็นของคุณคนเอากันเป็นผัวเมียจึงมีที่คุณลูกเขาใส่ชื่อ ลูกผู้พี่นั้นชื่อขุนเค็ดผู้น้อง ชื่อขุนคานเขาอยากมาตั้งที่เชียงดงเชียงทองบุญเขาน้อยมาตั้งบ่ได้เขาจึงไปตั้งที่เชียงงวดอันเฮาว่าขึงมวกบัดนี้แลบ่อนหั้นเปนบ้านเมืองเขาขุนลอ จุงไปเลวเอาแต่นั้นเขาก็ เอารี้พลมาฮอดท้านขันหั้นขุนลอก็ไปเลวได้ชนกันขุนลอก็เลวแป้ (รบชนะ) ไล่ไปก็ได้ขุนเค็ดขุนคาน ที่เชียงงวดทั้งพ่อทั้งลูก เอาไปจมน้ำเสียที่ดอนสิง หั้นแลเชื้อแถวขุนคานก็พ่ายหนีไปลี้ซ่อนอยู่หั้นแล แต่นั้นเจ้าขุนลอก็คืนมาฮอดเชียงดงเชียงทองแล้วคนทั้งหลายจึงราชาภิเษกให้เป็นเจ้าแผ่นดินหั้นแล "

ตาม ข้อความข้างบนแสดงว่าเมืองชะวา นั้นมีชนชาติข่านามว่ากันฮางตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ก่อนเมื่อขุนลอโอรสของขุนบรมเข้ามาก
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: