BackgroundStroke patients have a hi

Background

Stroke patients have a high risk for recurrence, which is positively correlated with the number of risk factors. The assessment of risk factors is essential in both stroke outcomes research and the surveillance of stroke burden. However, methods for assessment of risk factors using claims data are not well developed.

Methods

We enrolled 6469 patients with acute ischemic stroke, transient ischemic attack, or intracerebral hemorrhage from hospital-based stroke registries, which were linked with Taiwan's National Health Insurance (NHI) claims database. We developed algorithms using diagnosis codes and prescription data to identify stroke risk factors including hypertension, diabetes, hyperlipidemia, atrial fibrillation (AF), and coronary artery disease (CAD) in the claims database using registry data as reference standard. We estimated the kappa statistics to quantify the agreement of information on the risk factors between claims and registry data.

Results

The prevalence of risk factors in the registries was hypertension 77.0%, diabetes 39.1%, hyperlipidemia 55.6%, AF 10.1%, and CAD 10.9%. The highest kappa statistics were 0.552 (95% confidence interval 0.528–0.577) for hypertension, 0.861 (0.836–0.885) for diabetes, 0.572 (0.549–0.596) for hyperlipidemia, 0.687 (0.663–0.712) for AF, and 0.480 (0.455–0.504) for CAD. Algorithms based on diagnosis codes alone could achieve moderate to high agreement in identifying the selected risk factors, whereas prescription data helped improve identification of hyperlipidemia.

Conclusions

We tested various claims-based algorithms to ascertain important risk factors in stroke patients. These validated algorithms are useful for assessing stroke risk factors in future studies using Taiwan's NHI claims data.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลังผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความเสี่ยงสูงสำหรับการเกิดซ้ำ ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับจำนวนของปัจจัยเสี่ยง การประเมินปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองผลวิจัยและการเฝ้าระวังของภาระโรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตาม วิธีการสำหรับการประเมินปัจจัยเสี่ยงโดยใช้ข้อมูลการเรียกร้องจะไม่พัฒนาดีขึ้นวิธีเราลงทะเบียนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลัน ภาวะชั่วคราว หรือตกเลือด intracerebral จากโรงพยาบาลตามจังหวะ registries ซึ่งเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลเรียกร้องชาติประกันสุขภาพรัฐของไต้หวัน 6469 เราพัฒนาอัลกอริทึมที่ใช้รหัสการวินิจฉัยและข้อมูลใบสั่งยาระบุโรคหลอดเลือดสมองปัจจัยเสี่ยงเช่นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ (AF), และโรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD) ในฐานข้อมูลเรียกใช้ข้อมูลรีจิสทรีอ้างอิงมาตรฐาน เราประเมินสถิติ kappa จะปริมาณสัญญาของข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงระหว่างการเรียกร้องและข้อมูลรีจิสทรีผลลัพธ์ความชุกของปัจจัยเสี่ยงในรีจิสทรีถูก % 77.0 ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน 39.1% ไขมันในเลือดสูง 55.6%, AF, 10.1% และ CAD 10.9% สถิติ kappa สูงสุดถูก 0.552 (95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.528 – 0.577) ความดันโลหิตสูง 0.861 (0.836 – 0.885) สำหรับโรคเบาหวาน 0.572 (0.549 – 0.596) สำหรับไขมันในเลือดสูง 0.687 (0.663 – 0.712) สำหรับ AF และ 0.480 (0.455 – 0.504) สำหรับ CAD อัลกอริทึมตามรหัสวินิจฉัยเพียงอย่างเดียวสามารถบรรลุข้อตกลงระดับปานกลางถึงสูงในการระบุปัจจัยเสี่ยงเลือก ในขณะที่ข้อมูลใบสั่งยาที่ช่วยปรับปรุงรหัสของไขมันในเลือดสูงบทสรุปเราทดสอบต่าง ๆ ตามการอ้างสิทธิ์อัลกอริทึมการตรวจปัจจัยเสี่ยงสำคัญในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อัลกอริทึมที่ผ่านการตรวจสอบเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการประเมินปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองในอนาคตงานวิจัยที่ใช้ข้อมูลการเรียกร้องของไต้หวันหยิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติความเป็นมาของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีความเสี่ยงสูงในการเกิดซ้ำซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับจำนวนของปัจจัยความเสี่ยง การประเมินผลของปัจจัยเสี่ยงที่มีความสำคัญทั้งในการวิจัยผลการเฝ้าระวังโรคหลอดเลือดสมองและของภาระโรคหลอดเลือดสมอง อย่างไรก็ตามวิธีการสำหรับการประเมินปัจจัยเสี่ยงโดยใช้ข้อมูลการเรียกร้องไม่ได้รับการพัฒนาอย่างดี. วิธีการที่เราลงทะเบียนผู้ป่วย 6469 โรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันขาดเลือดโจมตี ischemic ชั่วคราวหรือตกเลือด intracerebral จากโรงพยาบาลที่ใช้ลงทะเบียนจังหวะซึ่งถูกเชื่อมโยงกับการประกันสุขภาพแห่งชาติของไต้หวัน (NHI ) อ้างฐานข้อมูล เราได้พัฒนาขั้นตอนวิธีการใช้รหัสการวินิจฉัยและใบสั่งยาให้ข้อมูลระบุปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองรวมทั้งความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, ไขมัน (Atrial Fibrillation) และโรคหลอดเลือดหัวใจ (CAD) ในฐานข้อมูลการเรียกร้องโดยใช้ข้อมูลรีจิสทรีเป็นมาตรฐานอ้างอิง เราประมาณสถิติ Kappa เพื่อปริมาณสัญญาของข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงระหว่างการเรียกร้องและข้อมูลรีจิสทรี. ผลการค้นหาความชุกของปัจจัยเสี่ยงในการลงทะเบียนเป็นความดันโลหิตสูง 77.0%, เบาหวาน 39.1% ไขมัน 55.6% AF 10.1% และ CAD 10.9 % สถิติ Kappa สูงสุดคือ 0.552 (95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.528-0.577) สำหรับความดันโลหิตสูง, 0.861 (0.836-0.885) สำหรับโรคเบาหวาน, 0.572 (0.549-0.596) สำหรับไขมัน 0.687 (0.663-0.712) สำหรับ AF และ 0.480 (0.455- 0.504) สำหรับ CAD ขั้นตอนวิธีการขึ้นอยู่กับรหัสการวินิจฉัยเพียงอย่างเดียวสามารถบรรลุข้อตกลงในระดับปานกลางถึงสูงในการระบุปัจจัยเสี่ยงที่เลือกในขณะที่ข้อมูลใบสั่งยาช่วยปรับปรุงบัตรประจำตัวของไขมันในเลือดสูง. สรุปเราได้ทดสอบขั้นตอนวิธีการเรียกร้องต่างๆเพื่อยืนยันปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ขั้นตอนวิธีการตรวจสอบเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการประเมินปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองในการศึกษาในอนาคตที่ใช้ของไต้หวัน NHI ข้อมูลการเรียกร้อง