4. ConclusionsArgentine molasses an

4. Conclusions
Argentine molasses and grapes were used to isolate 29 ethanol producing yeasts,finding three isolates with higher ability to produce ethanol. One of these isolates showed a homogeneous growth
(A2) meanwhile the other two presented aflocculent growth (A10
and A11) when they were grown in commercial media. It was also
observed that the three isolates presented a percentage of similarity of 100% with the strain S. cerevisiae. The three strains were
highly sensitive to changes in temperature,finding an optimal
temperature for the production of ethanol at 30


C, and although
they could tolerate up to 300 g/L without decreasing the production
of ethanol, the best results were achieved using 250 g/L of initial
sugar. Higher sugars concentrations (350 g/L) represented a
decrease in ethanol concentration, particularly using the nonflocculent strain A2, thus concluding thatflocculation can act as a
protective mechanism in yeast stress conditions such as with high
concentration of sugars, and consequently theflocculent characteristics of strains A10 and A11 protected a high osmotic pressure
generated by high sugar concentration. These strains were also able
to grow in molasses medium although the behavior of the nonflocculent A2 strain was faster, probably because of its dispersed
form facilitates the transfer of nutrients and products. The process
can be successfully scaled up from laboratory scale to 10L bioreactor, thus demonstrating the feasibility of theS. cerevisiaeA2 strain
to be used as a novel strain to produce ethanol

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. บทสรุปกากน้ำตาลที่อาร์เจนตินาและองุ่นที่ใช้ในการแยกเอทานอล 29 ผลิต yeasts ค้นหาสามแยก มีความสามารถสูงในการผลิตเอทานอล หนึ่งแยกเหล่านี้แสดงให้เห็นการเจริญเติบโตเหมือน(A2) ในขณะเดียวกันอื่น ๆ ทั้งสองแสดงเติบโต aflocculent (A10และ A11) เมื่อพวกเขาได้เติบโตในสื่อเชิงพาณิชย์ ก็ยังสังเกตว่า แยกสามแสดงเปอร์เซ็นต์ของความคล้ายกันของ 100% ที่ต้องใช้ S. cerevisiae สายพันธุ์ที่สามได้สำคัญมากกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ การค้นหาดีที่สุดอุณหภูมิสำหรับการผลิตเอทานอลที่ 30
C และแม้ว่าพวกเขาสามารถทนถึง 300 g/L โดยไม่ต้องลดการผลิตของเอทานอล สุดความสำเร็จใช้ 250 g/L ของเริ่มต้นน้ำตาล น้ำตาลสูงความเข้มข้น (350 g/L) แสดงเป็นลดความเข้มข้นของเอทานอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้พันธุ์ nonflocculent A2 สรุป thatflocculation จึง สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลไกป้องกันในยีสต์เครียดเช่นมีสูงความเข้มข้นของน้ำตาล และจากนั้น theflocculent ลักษณะของสายพันธุ์ A10 และ A11 ป้องกันความดันออสโมติกสูงสร้างขึ้นตามความเข้มข้นของน้ำตาลสูง สายพันธุ์เหล่านี้ก็ยังสามารถการเติบโตในกากน้ำตาลปานกลางแม้ว่าลักษณะของสายพันธุ์ A2 nonflocculent เร็วขึ้น คง เพราะมันกระจัดกระจายแบบฟอร์มการโอนย้ายของสารอาหารและผลิตภัณฑ์ที่อำนวยความสะดวก กระบวนการสามารถสำเร็จปรับขึ้นจากระดับห้องปฏิบัติการให้ 10L bioreactor จึง เห็นความเป็นไปได้ของสิ่งนี้ ต้องใช้ cerevisiaeA2ใช้เป็นนวนิยายต้องใช้ในการผลิตเอทานอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.
สรุปกากน้ำตาลอาร์เจนตินาและองุ่นถูกนำมาใช้เพื่อแยกการผลิตเอทานอล29 ยีสต์หาสามสายพันธุ์ที่มีความสามารถสูงในการผลิตเอทานอล หนึ่งในสายพันธุ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการเจริญเติบโตเป็นเนื้อเดียวกัน
(A2) ในขณะที่อีกสองคนนำเสนอการเจริญเติบโต aflocculent (A10
และ A11) เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นในสื่อเชิงพาณิชย์ มันก็ยังตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสามสายพันธุ์ที่นำเสนอร้อยละของความคล้ายคลึงกันของ 100% สายพันธุ์เอส cerevisiae ทั้งสามสายพันธุ์ที่มีความไวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในการหาที่ดีที่สุดอุณหภูมิในการผลิตเอทานอลวันที่30? C และถึงแม้ว่าพวกเขาจะทนได้ถึง300 กรัม / ลิตรโดยไม่ต้องลดการผลิตเอทานอลที่ได้ผลดีที่สุดก็ประสบความสำเร็จโดยใช้ 250 กรัม / ลิตรเริ่มต้นของน้ำตาล ความเข้มข้นของน้ำตาลสูง (350 กรัม / ลิตร) เป็นตัวแทนของการลดลงของความเข้มข้นของเอทานอลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สายพันธุ์nonflocculent A2 จึงสรุป thatflocculation สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกการป้องกันในสภาวะความเครียดยีสต์เช่นกับสูงความเข้มข้นของน้ำตาลและจึงtheflocculent ลักษณะของสายพันธุ์ A10 และ A11 ป้องกันแรงดันสูงที่สร้างขึ้นโดยความเข้มข้นของน้ำตาลสูง สายพันธุ์เหล่านี้ก็มีความสามารถที่จะเติบโตในระดับปานกลางกากน้ำตาลแม้ว่าพฤติกรรมของสายพันธุ์ nonflocculent A2 ได้เร็วอาจจะเป็นเพราะการกระจายตัวของรูปแบบที่อำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนของสารอาหารและผลิตภัณฑ์ กระบวนการสามารถปรับเพิ่มขึ้นจากประสบความสำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการเพื่อ 10L เครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพจึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของเหล่า สายพันธุ์ cerevisiaeA2 ที่จะใช้เป็นสายพันธุ์ใหม่ในการผลิตเอทานอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . สรุป
กากน้ำตาลอาร์เจนตินาและองุ่นถูกใช้เพื่อแยก 29 ผลิตเอทานอลยีสต์ 3 สายพันธุ์ที่มีความสามารถสูงในการผลิตเอทานอล หนึ่งในสายพันธุ์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตเนื้อเดียวกัน
( A2 ) และสองอื่น ๆนำเสนอการเจริญเติบโต aflocculent ( A10 A11
แล้ว ) เมื่อปลูกในสื่อเชิงพาณิชย์ มันยัง
สังเกตว่าสามแยกแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของความเหมือน 100% กับเชื้อ S . cerevisiae . 3 สายพันธุ์
สูงไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ การหาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการผลิตเอทานอล
ที่ 30

C

และถึงแม้ว่าพวกเขาสามารถทนต่อถึง 300 กรัมต่อลิตรโดยไม่ต้องลดการผลิต
เอทานอล ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทำได้โดยการเริ่มต้น 250 กรัม / ลิตร
น้ำตาล น้ำตาลความเข้มข้นสูง ( 350 กรัม / ลิตร ) แทน
ลดลงในเอทานอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ A2 เมื่อย nonflocculent จึงสรุป thatflocculation สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกในยีสต์
ป้องกันความเครียด เช่น มีความเข้มข้นสูง จึง theflocculent
ของน้ำตาล และลักษณะของสายพันธุ์และ A10 A11 ป้องกัน
แรงดันออสโมติกสูงเนื้อ concentration sugar high . สายพันธุ์เหล่านี้ยังสามารถที่จะเติบโตในกากน้ำตาลปานกลาง
ถึงแม้ว่าพฤติกรรมของ nonflocculent A2 ความเครียดได้เร็ว คงเป็นเพราะมันกระจาย
รูปแบบสะดวกโอนสารอาหารและผลิตภัณฑ์ กระบวนการ
สามารถเรียบร้อยแล้วขยายขนาดจากระดับห้องปฏิบัติการเพื่อไลน์เครื่องจึงแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการดูแล . cerevisiaea2 เมื่อย
เพื่อใช้เป็นสายพันธุ์ใหม่ เพื่อผลิตเอทานอล