Few trials have been conducted over

Few trials have been conducted over longer periods. One of
those studies examined energy balance during the overfeeding of
liquid formula diets containing MCT (61% octanoate, 32% decanoate)
or LCT (32% oleate, 51% linoleate) for 7 d (7). EE was
measured on d 1 and 6 for 10–15 min every 30 min for 6 h after
meal consumption. The thermic effect of food (TEF) was identified
as 8% of ingested energy after MCT consumption compared
with 5.8% after LCT consumption on d 1. After 6 d, TEF was 12
and 6.6% of ingested energy with MCT and LCT consumption,
respectively, indicating that the difference in EE between MCT
and LCT persists even after a week of overfeeding.
The study of longest duration (14 d) published to date (8)
sought to determine whether fatty acid chain length influenced
EE and substrate oxidation in women. Subjects consumed
a controlled, weight maintenance diet containing 40%
of energy as fat, either in the form of butter and coconut oil
(MCT; 38.9% of fatty acids contained chains with 16 carbons)
or beef tallow. Energy expenditure was measured before
and for 5.5 h after breakfast. Postprandial total EE after MCT
consumption was greater than after LCT consumption on d 7
but not d 14. The authors concluded that the effects of MCT
consumption on EE may be transient.
All animal studies (9–11) and most human studies (3–
5,7,8) have shown that MCT consumption increases EE compared
with a meal containing LCT. Investigators who found
the greatest differences also concluded that MCT could be
used in the treatment or prevention of human obesity (3–5).
However, the studies conducted to date have been short,
ranging from a single meal (3–6) to several days (7,8).
Whether effects of MCT on EE and RQ are long lasting and
result in actual measurable and sustainable changes in body
composition of humans remain to be established.
Effect of MCT on Fat Deposition. Given that feed efficiency
studies in animals and energetic studies in humans
indicate enhanced EE after MCT consumption (3–11), additional
work has examined whether increased EE translates into
decreased fat mass. In animals consuming MCT, BW were
lower, fat depots smaller (12–15) and adipocyte size smaller
(12,13) with MCT compared with LCT consumption. These
results led the authors to conclude that MCT could potentially
prevent (13) or control (15) obesity in humans. However,
MCT consumption was not observed by Hill et al. (16) to
cause greater weight loss than lard, CO or fish oil (FO). Body
adipose tissue during the first 3 mo was not different among
groups but after 6 mo, the group fed FO had less body fat than
all other groups. Although both FO and MCT feeding resulted
in small fat cells, only FO feeding was associated with inhibition
of cell proliferation.
Only one study evaluated the ability of MCT to facilitate
weight reduction in humans (17). Obese women (n  16)
consumed MCT (58% octanoate, 22% decanoate) or LCT
(soy oil) in random order for either 4 wk if they were inpatients
or 12 wk if they were outpatients, at a level of 191 kJ/d.
There were no differences in weight loss or rate of weight loss
between diet treatments. A liquid diet containing 24% of
energy as MCT failed to increase the rate of weight loss
compared with LCT. This lack of agreement with animal trials
and EE experiments may have been due to the low fat content
of the diets (1.5 g of total fat/d, of which 1.2 g was treatment
fat) or to gender differences in the effects of MCT. Differences
detected in EE with MCT and LCT consumption are considerably
greater in males than females. When data are extrapolated
from trials conducted in men (3–5,7), average EE was
460 kJ/d greater with MCT than with LCT consumption,
with a peak difference between treatments of 669 kJ/d (7). In contrast, data from White et al. (8), who studied women,
found differences in EE of 138 kJ/d between MCT and LCT
consumption. Our own work with overweight women also
revealed a difference in EE of 188 kJ/d (18). From these
preliminary data, it appears that women respond less readily to
treatment with MCT than men.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้ดำเนินการทดลองน้อยกว่านาน หนึ่งผู้ศึกษาตรวจสอบสมดุลระหว่าง overfeeding ของอาหารสูตรของเหลวที่ประกอบด้วย MCT (octanoate 61%, 32% decanoate)หรือสามารถใช้ได้ (32% oleate, 51% linoleate) สำหรับ 7 d (7) เป็น EEวัด d 1 และ 6 10 – 15 นาทีทุก ๆ 30 นาทีสำหรับ 6 h หลังการใช้อาหาร พบ thermic งาน (TEF)เป็น 8% ของพลังงานที่ติดเครื่องหลังการใช้ MCT ที่เปรียบเทียบ5.8% จากปริมาณการใช้สามารถใช้ได้ใน d 1 หลังจาก 6 d, TEF เป็น 12และ 6.6% ติดเครื่องพลังงานสิ้นเปลือง MCT และสามารถใช้ได้ตามลำดับ เพื่อบ่งชี้ที่แตกต่างกันใน EE MCTและสามารถใช้ได้ที่ยังคงอยู่แม้หลังจากสัปดาห์ของ overfeedingการศึกษาระยะยาว (14 d) ตีพิมพ์วันที่ (8)การตรวจสอบว่า ได้รับกรดไขมันโซ่ยาวการเกิดออกซิเดชันที่ผิวและ EE ในผู้หญิง วัตถุที่ใช้ควบคุม การบำรุงรักษาน้ำหนักอาหารที่ประกอบด้วย 40%พลังงานเป็นไขมัน ทั้งในรูปของเนยและน้ำมันมะพร้าว(MCT; 38.9% ของกรดไขมันที่มีอยู่ที่ประกอบด้วยคาร์บอน 16)หรือไขเนื้อ รายจ่ายพลังงานโดยวัดก่อนและ 5.5 ชม.หลังอาหารเช้า ภายหลังตอนกลางวันรวม EE หลัง MCTปริมาณการใช้ได้มากกว่าการใช้สามารถใช้ได้บน d 7แต่ไม่ d 14 ผู้เขียนข้อสรุปว่า ผลกระทบของ MCTปริมาณการใช้ใน EE อาจเป็นชั่วคราวศึกษาสัตว์ (9-11) และศึกษาของมนุษย์มากที่สุด (3 – ทั้งหมด5,7,8) ได้แสดงให้เห็นว่า การใช้ MCT เพิ่ม EE เมื่อเทียบกับอาหารที่ประกอบด้วยสามารถใช้ได้ นักวิจัยที่พบความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ข้อสรุปว่า MCT อาจใช้ในการรักษาหรือการป้องกันโรคมนุษย์ (3 – 5)อย่างไรก็ตาม ศึกษาที่ดำเนินการกับวันได้รับการสั้นตั้งแต่อาหารเดี่ยว (3-6) ไปหลายวัน (7.8)ไม่ว่า ผลกระทบของ MCT EE และ RQ ได้ยาวนาน และส่งผลให้สามารถวัดได้ และมีความยั่งยืนการเปลี่ยนแปลงจริงในร่างกายองค์ประกอบของมนุษย์ยังคงอยู่เพื่อสร้างผลของ MCT ในไขมันสะสม ให้ประสิทธิภาพที่ฟีดการศึกษาในการศึกษามีพลังในมนุษย์และสัตว์ระบุ EE เพิ่มขึ้นหลังจากการใช้ MCT (3-11), เพิ่มเติมทำงานได้ตรวจสอบว่า EE เพิ่มขึ้นเป็ลดมวลไขมัน ในสัตว์ใช้ MCT, BW ถูกคลังต่ำ ไขมันขนาดเล็ก (12 – 15) และ adipocyte ขนาดเล็ก(12,13) กับ MCT เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้สามารถใช้ได้ เหล่านี้ผู้เขียนจะสรุปว่า MCT อาจจะนำผลป้องกัน (13) หรือ (15) การควบคุมโรคอ้วนในมนุษย์ อย่างไรก็ตามการใช้ MCT ถูกตรวจสอบโดย Hill et al. (16) การทำให้สูญเสียน้ำหนักมากขึ้นกว่าน้ำมันหมู CO หรือปลาน้ำมัน (FO) ร่างกายเนื้อเยื่อไขมันในระหว่างเดือน 3 ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม แต่หลังจาก 6 เดือน กลุ่มเลี้ยง FO มีไขมันในร่างกายน้อยกว่ากลุ่มอื่น ๆ แม้ว่า FO และ MCT อาหารส่งผลให้ในเซลล์ไขมันเล็ก FO เพียงให้อาหารเป็นเกี่ยวข้องกับการยับยั้งเซลล์เจริญเติบโตศึกษาเฉพาะประเมินความสามารถของ MCT เพื่ออำนวยความสะดวกลดน้ำหนักในมนุษย์ (17) ผู้หญิงอ้วน (n 16)ใช้ MCT (octanoate 58%, 22% decanoate) หรือสามารถใช้ได้(น้ำมันถั่วเหลือง) ในลำดับสุ่มสำหรับสัปดาห์ทั้ง 4 ก็ inpatientsหรือ 12 สัปดาห์ก็ส่องกล้องเพื่อวินิจฉัย ในระดับของ 191 kJ/dมีไม่มีความแตกต่างในน้ำหนักหรืออัตราของการสูญเสียน้ำหนักรักษาอาหาร อาหารเหลวที่ประกอบด้วย 24% ของพลังงานเป็น MCT ที่ล้มเหลวในการเพิ่มอัตราการสูญเสียน้ำหนักเมื่อเทียบกับสามารถใช้ได้ ขาดนี้กับสัตว์ทดลองและอาจได้รับการทดลอง EE เนื่องจากไขมันต่ำของอาหารรวม ไขมัน/d ที่ 1.2 กรัมถูกรักษา (1.5 กรัมไขมัน) หรือความแตกต่างของเพศในผลกระทบของ MCT ความแตกต่างตรวจพบใน EE ด้วยปริมาณการใช้ MCT และสามารถใช้ได้เป็นอย่างมากมากขึ้นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เมื่อข้อมูลมี extrapolatedจากการทดลองดำเนินการในผู้ชาย (3-5,7), EE เฉลี่ยเป็น460 kJ/d มากกว่ากับ MCT กว่ากับการใช้สามารถใช้ได้มีความแตกต่างสูงรักษา 669 kJ/d (7) ในความคมชัด ข้อมูลจากขาว et al. (8), ผู้ศึกษาผู้หญิง,พบความแตกต่างในแบบของ 138 kJ/d ระหว่าง MCT และสามารถใช้ได้ปริมาณการใช้ งานของเราเองด้วยน้ำหนักเกินผู้หญิงยังเปิดเผยความแตกต่างในแบบของ 188 kJ/d (18) จากเหล่านี้ข้อมูลเบื้องต้น ปรากฏว่า ผู้หญิงตอบสนองน้อยพร้อมการรักษา ด้วย MCT มากกว่าผู้ชาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดลองกี่ได้รับการดำเนินการในช่วงระยะเวลานาน หนึ่งใน
การศึกษาผู้ตรวจสอบสมดุลของพลังงานในระหว่างการฟีดมากเกินของ
อาหารสูตรของเหลวที่มี MCT (61% octanoate 32% decanoate)
หรือ LCT (32% oleate, 51% linoleate) สำหรับ 7 วัน (7) EE ถูก
วัด D 1 และ 6 ประมาณ 10-15 นาทีทุก 30 นาทีเป็นเวลา 6 ชั่วโมงหลังจาก
การบริโภคอาหาร ผล Thermic อาหาร (TEF) ที่ถูกระบุว่า
เป็น 8% ของพลังงานติดเครื่องหลังการบริโภค MCT เมื่อเทียบ
กับ 5.8% หลังการบริโภคใน LCT D 1. หลังจาก 6 D, TEF 12
และ 6.6% ของพลังงานที่มีติดเครื่อง MCT และการบริโภค LCT,
ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าแตกต่างในระหว่าง EE MCT
และ LCT ยังคงอยู่แม้หลังจากสัปดาห์ของการการ้ให้อาหารมากไปได้.
การศึกษาระยะเวลาที่ยาวที่สุด (14 ง) ตีพิมพ์วันที่ (8)
พยายามที่จะตรวจสอบว่ามีความยาวโซ่กรดไขมันอิทธิพล
EE และพื้นผิวการเกิดออกซิเดชันในผู้หญิง วิชาบริโภค
ที่ควบคุมอาหารการบำรุงรักษาน้ำหนักที่มี 40%
ของพลังงานที่เป็นไขมันทั้งในรูปแบบของเนยและน้ำมันมะพร้าว
(MCT; 38.9% ของกรดไขมันที่มีโซ่กับ 16 ก๊อบปี้?)
หรือไขสัตว์เนื้อ การใช้พลังงานวัดก่อน
และ 5.5 ชั่วโมงหลังอาหารเช้า ภายหลังตอนกลางวัน EE รวมหลัง MCT
การบริโภคสูงกว่าหลังการบริโภคใน LCT D 7
แต่ไม่วันที่ 14 ผู้เขียนสรุปว่าผลของการ MCT
บริโภค EE อาจจะชั่วคราว.
การศึกษาทั้งหมดสัตว์ (9-11) และการศึกษาของมนุษย์มากที่สุด (3-
5,7,8) ได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคเพิ่มขึ้น MCT EE เมื่อเทียบ
กับอาหารที่มี LCT นักวิจัยที่พบ
ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า MCT อาจจะ
ใช้ในการรักษาหรือการป้องกันโรคอ้วนของมนุษย์ (3-5).
อย่างไรก็ตามการศึกษาดำเนินการถึงวันที่ได้รับระยะสั้น
ตั้งแต่อาหารมื้อเดียว (3-6) ไปหลาย วันที่ (7,8).
ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบของ MCT บน EE และ RQ ยาวนานและ
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่วัดได้จริงและยั่งยืนในร่างกาย
องค์ประกอบของมนุษย์ยังคงที่จะจัดตั้งขึ้น.
ผลของ MCT สะสมของไขมัน ระบุว่าประสิทธิภาพการใช้อาหาร
การศึกษาในสัตว์และการศึกษามีพลังในมนุษย์
ระบุเพิ่ม EE หลังการบริโภค MCT (3-11), เพิ่มเติม
การทำงานไม่ว่าจะมีการตรวจสอบเพิ่มขึ้น EE แปลเป็น
มวลไขมันลดลง ในสัตว์ MCT นาน BW อยู่
ต่ำกว่าไขมันคลังขนาดเล็ก (12-15) และขนาด adipocyte ขนาดเล็ก
(12,13) กับ MCT เมื่อเทียบกับการบริโภค LCT เหล่านี้
ผลนำผู้เขียนที่จะสรุปว่า MCT อาจจะ
ป้องกันไม่ให้ (13) หรือการควบคุม (15) โรคอ้วนในมนุษย์ อย่างไรก็ตาม
การบริโภค MCT ก็ไม่ได้สังเกตโดยฮิลล์, et al (16) ที่จะ
ก่อให้เกิดการสูญเสียน้ำหนักมากกว่าน้ำมันหมู, CO หรือน้ำมันปลา (FO) ร่างกาย
เนื้อเยื่อไขมันในช่วง 3 เดือนแรกก็ไม่ได้แตกต่างกันระหว่าง
กลุ่ม แต่หลังจาก 6 เดือนกลุ่มที่เลี้ยง FO มีไขมันในร่างกายน้อยกว่า
กลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมด แม้ว่าทั้งสอง FO และ MCT ให้อาหารส่งผลให้
ในเซลล์ไขมันขนาดเล็กเพียงให้อาหาร FO เกี่ยวข้องกับการยับยั้ง
การเพิ่มจำนวนเซลล์.
เพียงคนเดียวที่ศึกษาเพื่อประเมินความสามารถของ MCT เพื่ออำนวยความสะดวก
การลดน้ำหนักในมนุษย์ (17) ผู้หญิงอ้วน (n? 16)
การบริโภค MCT (58% octanoate 22% decanoate) หรือ LCT
(น้ำมันถั่วเหลือง) ในการสุ่มทั้ง 4 สัปดาห์หากพวกเขาเป็นผู้ป่วยใน
หรือ 12 สัปดาห์หากพวกเขาเป็นผู้ป่วยนอกที่ระดับ 191 กิโลจูล A / d.
มีความแตกต่างในการลดน้ำหนักหรืออัตราการสูญเสียไม่มีน้ำหนักอยู่
ระหว่างการรักษาอาหาร อาหารเหลวที่มี 24% ของ
พลังงาน MCT ล้มเหลวในการเพิ่มอัตราการสูญเสียน้ำหนัก
เมื่อเทียบกับ LCT ขาดการทำข้อตกลงกับการทดลองสัตว์ตัวนี้
และการทดลอง EE อาจจะเป็นเพราะปริมาณไขมันต่ำ
ในอาหาร (1.5 กรัมของไขมันทั้งหมด / D ซึ่งเป็น 1.2 กรัมรักษา
ไขมัน) หรือความแตกต่างทางเพศในการศึกษาผลกระทบของ MCT ความแตกต่างของ
การตรวจพบใน EE กับ MCT และการบริโภค LCT มีมากมี
มากขึ้นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เมื่อข้อมูลประเมิน
จากการทดลองดำเนินการในผู้ชาย (3-5,7) EE เฉลี่ย
? 460 กิโลจูล / D มากขึ้นด้วย MCT กว่าที่มีการบริโภค LCT,
มีความแตกต่างระหว่างการรักษาสูงสุดของ 669 กิโลจูล / D (7) ในทางตรงกันข้ามข้อมูลจาก White, et al (8) ผู้ที่ศึกษาผู้หญิง
พบความแตกต่างใน EE 138 กิโลจูล / D ระหว่าง MCT และ LCT
บริโภค การทำงานของเราเองกับผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินยัง
เผยให้เห็นความแตกต่างใน EE ของ? 188 กิโลจูล / D (18) จากนี้
ข้อมูลเบื้องต้นปรากฏว่าผู้หญิงตอบสนองน้อยพร้อมที่จะให้
การรักษาด้วย MCT กว่าผู้ชาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทดลองไม่กี่ได้รับการดำเนินการในช่วงเวลานาน หนึ่งของการศึกษาผู้ตรวจสมดุลพลังงานระหว่าง overfeeding ของสูตรอาหารเหลวที่มีที ( 61% octanoate 32 % เอท )หรือแอลซีที ( 32 % โอลีเอท , 51% ลิโนลีเ ) 7 D ( 7 ) เอ คือวัดใน D 1 และ 6 10 – 15 นาทีทุก 30 นาที 6 H หลังการบริโภคอาหาร ผล thermic อาหาร ( เทฟ ) ระบุเป็น 8% ของการบริโภคพลังงาน หลังจากทีเมื่อกลืนกินกับ 5.8% หลังจากการบริโภคแอลซีทีใน D 1 หลังจาก 6 D , เทฟ 12และ 6.6 % ของการบริโภคพลังงานกับบริษัท แอล ซี ที และการบริโภค ,ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างระหว่าง บริษัท อีและ แอลซีทียังคงอยู่แม้หลังจากสัปดาห์ของ overfeeding .การศึกษาระยะเวลาที่ยาวที่สุด ( 14 วัน ) วันที่ ( 8 ) เผยแพร่พยายามที่จะตรวจสอบว่า กรดไขมันโซ่ยาว อิทธิพลอี สารในร่างกายผู้หญิง ใช้วิชาควบคุมน้ำหนักรักษาอาหารที่มี 40%พลังงานเป็นไขมัน ทั้งในรูปแบบของเนย และ น้ำมันมะพร้าวโมเลกุล ; 38.9 % ของกรดไขมันที่มีคาร์บอนโซ่ 16 )หรือเนื้อไข การใช้พลังงานในวัดก่อนและ 5.5 ชั่วโมงหลังจากอาหารเช้า หลังอาหาร หลังจากรวมบริษัทอีการบริโภคมากกว่าหลังจากการบริโภคแอลซีทีใน D 7แต่ไม่ใช่ D 14 ผู้เขียนสรุปได้ว่าผลของบริษัทการบริโภค เอ อาจจะชั่วคราวการศึกษาสัตว์ทั้งหมด ( 9 – 11 ) และ ( 3 ) การศึกษาของมนุษย์มากที่สุด5,7,8 ) ได้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคเพิ่มขึ้นทีอี เทียบกับอาหารที่มีแอลซีที . นักวิจัยที่พบความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็สรุปได้ว่า บริษัทอาจจะใช้ในการรักษาหรือการป้องกันโรคอ้วนมนุษย์ ( 3 – 5 )อย่างไรก็ตาม การศึกษาวันที่มีสั้นตั้งแต่อาหารมื้อเดียว ( 3 – 6 ) ไปหลายวัน ( 7 , 8 )ไม่ว่าผลของบริษัทบนและจะติดทนนานและ RQ อีผลการวัดจริงและยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงในร่างกายองค์ประกอบของมนุษย์ยังคงเป็นตั้งขึ้นผลของบริษัทในการสะสมไขมัน ระบุว่าประสิทธิภาพของอาหารการศึกษาในสัตว์และความกระตือรือร้นในการศึกษาของมนุษย์แสดงการเพิ่มอี หลังจากที ( 3 – 11 ) เพิ่มเติมงานได้ตรวจสอบว่าแปลเป็นเพิ่มขึ้นอีลดมวลไขมัน . ในสัตว์บริโภคที , BW )ลดลง , คลังเล็กอ้วน ( 12 – 15 ) และขนาดเล็กอะดิโปซัยท์( 12 , 13 ‘ ) กับบริษัท เมื่อเทียบกับการบริโภคแอลซีที . เหล่านี้ผลทำให้ผู้เขียนลงความเห็นว่า บริษัทอาจจะป้องกัน ( 13 ) หรือ ( 15 ) ควบคุมโรคอ้วนในมนุษย์ อย่างไรก็ตามบริษัทไม่พบ โดยการเป็นเนินเขา et al . ( 16 )สาเหตุการสูญเสียน้ำหนักมากกว่าไขมันหรือน้ำมันปลา ( Co . ) ร่างกายเนื้อเยื่อไขมันในช่วงแรก 3 โมไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม แต่หลังจาก 6 โม กลุ่มอาหารมีไขมันในร่างกายน้อยกว่า .กลุ่มอื่น ๆ ถึงแม้ว่าทั้งสองและป้อนให้บริษัท โฟในเซลล์ไขมันเล็กๆ เท่านั้น สำหรับอาหารที่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งเซลล์ proliferation .เพียงหนึ่งการศึกษาการประเมินความสามารถของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกการลดน้ำหนักในคน ( 17 ) ผู้หญิงอ้วน ( 16 )ใช้ที ( 58 octanoate 22% เอท ) หรือแอลซีที( น้ำมันถั่วเหลือง ) ในการสุ่มทั้ง 4 สัปดาห์ ถ้าพวกเขาเป็นผู้ป่วยในหรือ 12 สัปดาห์ ถ้าเป็นผู้ป่วยนอกที่ระดับ 191 kJ / Dไม่มีความแตกต่างในการลดน้ำหนักหรืออัตราของการสูญเสียน้ำหนักระหว่างอาหารตำรับ อาหารเหลวที่ประกอบด้วย 24 เปอร์เซ็นต์พลังงานบริษัทล้มเหลวในการเพิ่มอัตราของการสูญเสียน้ำหนักเมื่อเทียบกับแอลซีที . นี้ไม่มีข้อตกลงกับสัตว์ทดลองและ EE การทดลองอาจได้รับเนื่องจากปริมาณไขมันต่ำของอาหาร ( 1.5 กรัมของไขมัน 1.2 กรัม / วัน ซึ่งเป็น การรักษาไขมัน ) หรือความแตกต่างในผลของที . ความแตกต่างพบใน อี กับบริษัท และการบริโภคแอลซีทีเป็นอย่างมากมากขึ้นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง เมื่อข้อมูลถูกคาดการณ์ไว้จากการทดลองวิจัยในคน ( 3 – 5 ) , อี เฉลี่ย460 kJ / D มากขึ้นกับบริษัทแอลซีทีมากกว่าการบริโภค ,ความแตกต่างระหว่างการรักษาด้วยยอด 669 kJ / D ( 7 ) ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลจากสีขาว et al . ( 8 ) ผู้ศึกษาผู้หญิงพบความแตกต่างในอี 138 กิโลจูล / D ระหว่าง บริษัท แอล ซี ที และการบริโภค เราเองก็ทำงานกับผู้หญิงอ้วนพบความแตกต่างในเอของ 188 กิโลจูล / D ( 18 ) จากเหล่านี้ข้อมูลเบื้องต้น ปรากฏว่า ผู้หญิงที่พร้อมจะตอบสนองน้อยการรักษากับทีมากกว่าผู้ชาย