The embarrassing situation was solv

The embarrassing situation was solved, but that night Frank asked himself: "Why should people be limited to spending what they are carrying in cash, instead of being able to spend what they can afford?" A year later, Frank returned to the same restaurant in New York. When the check came, Frank handed the waiter a small cardboard card, a Diner's Club Card, and signed for the meal. This event is known in the credit card industry as the “First Supper” Soon the concept of “charging” it" was picked up by merchants as an alternative form of payment to the use of cash

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถูกแก้ไขสถานการณ์อาย แต่คืนแฟรงค์ถามตัวเอง: "ทำไมคนควรจำกัดการใช้จ่ายพวกเขาจะแบกเงินสด แทนความสามารถในการใช้สิ่งที่พวกเขาสามารถจ่ายหรือไม่" ปีต่อมา แฟรงค์กลับไปร้านเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อเช็คมา Frank มอบบัตรขนาดเล็กกระดาษแข็ง บัตร Diner ที่คลับ เสิร์ฟ และเซ็นชื่ออาหาร เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตเป็น "ซุปเปอร์แรก" เร็ว ๆ นี้แนวคิดของ "ชาร์จ" "มารับพ่อค้าเป็นรูปแบบทางเลือกการชำระเงินจะใช้เงินสด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานการณ์ที่น่าอายถูกแก้ไข แต่คืนที่แฟรงก์ถามตัวเอง: "เหตุผลที่คนควรจะ จำกัด การใช้จ่ายในสิ่งที่พวกเขาจะแบกเงินสดแทนการความสามารถในการใช้จ่ายในสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่าย" หนึ่งปีต่อมาแฟรงก์กลับไปที่ร้านอาหารเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อตรวจสอบมาแฟรงก์บริกรส่งบัตรกระดาษแข็งขนาดเล็กบัตรคลับการ์ด Diner และเซ็นสัญญากับอาหาร เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตเป็น "พระกระยาหารค่ำมื้อแรก" เร็ว ๆ นี้แนวคิดของ "ชาร์จ" มัน "ถูกหยิบขึ้นมาโดยพ่อค้าเป็นรูปแบบทางเลือกของการชำระเงินเพื่อการใช้เงินสด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถานการณ์ที่น่าอายก็แก้ไขได้ แต่ในคืนนั้นแฟรงค์ถามตัวเองว่า : " ทำไมคนถูก จำกัด การใช้จ่ายที่พวกเขาแบกเงินสด แทนที่จะสามารถใช้จ่ายสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่ายได้ ? " ปีต่อมา แฟรงค์ กลับไปที่ร้านอาหารเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อการตรวจสอบมา แฟรงค์ มือบริกรบัตรกระดาษแข็งขนาดเล็ก ร้าน คลับการ์ด และลงนามสำหรับอาหารเหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตเป็น " เย็น " แรกๆของแนวคิด " ชาร์จ " มัน " ถูกเลือกขึ้นโดยร้านค้าเป็นรูปแบบทางเลือกของการชำระเงินที่จะใช้สด