Lao social structures are comparati

Lao social structures are comparatively simpler than in neighboring Cambodia or Thailand, which is a logical outgrowth considering the ethnic diversity of Laos. Lao Theung and Lao Sung groups were outside the traditional class structures, but together made up a large portion of the population.

Traditionally the king was at the apex of secular and religious authority, as both the head of the sangha and his saksit power in animist beliefs. The remainder of the population was headed by a class of nobility and then the general population. There were no strong caste rules as appeared in Thailand with sakdi na or Khmer based cultures. Apart from the social structure was the Theravada clergy, which were due respect regardless of class. The fact the most males became monks at some point in their lives provided a route for social mobility and exposure to formal education.

Since the King of Laos was deposed in 1975, there were early attempts to downplay the importance of the monarchy and replace or alter many religious traditions and holidays. In recent years there has been renewed interest in the monarchy but from a nationalistic perspective, in a similar model to China since the 1990s. The socialist revolution theoretically put an end to the class distinctions in Laos, but in reality simply transferred traditional structures onto a different set of elite. The Lao sangha has also recovered their traditional role and status in much of Lao society.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงสร้างสังคมลาวดีอย่างหนึ่งง่ายกว่าในเพื่อนบ้านกัมพูชาหรือประเทศไทย ซึ่งเป็นตรรกะไปพิจารณาความหลากหลายชนเผ่าของลาว ถึงลาวและลาวสูงกลุ่มอยู่นอกโครงสร้างชั้นแบบดั้งเดิม แต่กันขึ้นส่วนใหญ่ของประชากรประเพณีกษัตริย์เป็นที่ apex ของทางโลก และทางศาสนา เป็นหัวหน้าทั้ง sangha และอำนาจ saksit ในความเชื่อ animist ส่วนเหลือของประชากรถูกหัว โดยชั้นของขุนนาง และประชากรทั่วไป มีกฎไม่มีวรรณะแข็งแรงตามที่ปรากฏในประเทศไทยกับ sakdi นาหรือเขมรตามวัฒนธรรม จากโครงสร้างสังคมเป็นเถรวาทเคารพเคลอจี ซึ่งครบกำหนดว่าคลาส ความจริงผู้ชายส่วนใหญ่กลายเป็น พระในบางจุดในชีวิตของพวกเขาให้กระบวนการผลิตการเคลื่อนสังคมและรับการศึกษาอย่างเป็นทางการเนื่องจากกษัตริย์ลาวถูกแจฮยอนจากตระกูลใน 1975 มีความพยายามแรก ๆ downplay ความสำคัญของพระมหากษัตริย์ และแทนที่ หรือเปลี่ยนแปลงในประเพณีทางศาสนาและวันหยุด ในปีที่ผ่านมา ได้มีการต่ออายุสนใจ ในพระมหากษัตริย์ แต่ จากมุม มอง nationalistic ในรูปแบบคล้ายกับจีนตั้งแต่ปี 1990 การปฏิวัติสังคมนิยมครั้งแรกราคาตัดความคลาในลาว แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่โอนย้ายโครงสร้างดั้งเดิมบนชุดต่าง ๆ ของชนชั้นสูง Sangha ลาวได้กู้คืนบทบาทดั้งเดิมของพวกเขาและสถานะในสังคมลาวมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลาวโครงสร้างทางสังคมจะเปรียบเทียบง่ายกว่าในประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชาหรือประเทศไทยซึ่งเป็นผลพลอยได้ตรรกะพิจารณาความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของลาว ลาวเทิงและกลุ่ม Sung ลาวอยู่ข้างนอกโครงสร้างชั้นแบบดั้งเดิม แต่ร่วมกันสร้างขึ้นส่วนใหญ่ของประชากร. ตามเนื้อผ้าพระมหากษัตริย์เป็นที่ปลายของผู้มีอำนาจทางโลกและทางศาสนาขณะที่ทั้งสองหัวของสังฆะและอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของเขาในบ้า ความเชื่อ ที่เหลือของประชากรที่กำลังมุ่งหน้าไประดับไฮโซแล้วประชากรทั่วไป ไม่มีกฎวรรณะที่แข็งแกร่งเป็นที่ปรากฏในประเทศไทยที่มีศักดิ์นาหรือตามวัฒนธรรมเขมร นอกเหนือจากโครงสร้างทางสังคมที่เป็นพระสงฆ์เถรวาทซึ่งเป็นความเคารพจากโดยไม่คำนึงถึงระดับ ความจริงผู้ชายส่วนใหญ่กลายเป็นพระสงฆ์ที่จุดในชีวิตของพวกเขาบางส่วนให้เส้นทางสำหรับการเคลื่อนไหวทางสังคมและการสัมผัสกับการศึกษาอย่างเป็นทางการ. ตั้งแต่พระมหากษัตริย์ของลาวถูกปลดในปี 1975 มีความพยายามก่อนที่จะมองข้ามความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์และแทนที่หรือเปลี่ยนแปลง ประเพณีทางศาสนาจำนวนมากและวันหยุด ในปีที่ผ่านมาได้รับการต่ออายุความสนใจในสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่จากมุมมองชาตินิยมในรูปแบบคล้ายกับประเทศจีนตั้งแต่ปี 1990 การปฏิวัติสังคมนิยมในทางทฤษฎีหมดสิ้นไปความแตกต่างระดับในประเทศลาว แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่โอนโครงสร้างแบบดั้งเดิมบนชุดที่แตกต่างกันของชนชั้น ลาวสังฆะยังกู้คืนมาได้บทบาทดั้งเดิมของพวกเขาและสถานะมากในสังคมลาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลาวโครงสร้างทางสังคมจะเปรียบเทียบง่ายกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา หรือไทย ซึ่งเป็นตรรกะสำหรับการพิจารณาความหลากหลายทางชาติพันธุ์ของลาว ลาวเทิง ลาวสูง และกลุ่มนอกโครงสร้างชนชั้นแบบดั้งเดิม แต่ร่วมกันสร้างขึ้นส่วนใหญ่ของประชากร

ผ้าพระที่จุดสูงสุดของอำนาจทางโลกและทางศาสนาเป็นทั้งหัวของคณะสงฆ์กับอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของเขาในภูตผีความเชื่อ ส่วนที่เหลือของประชากร คือ หัวหน้าห้องของขุนนางและประชาชนทั่วไป ไม่มีกฎแรงวรรณะที่ปรากฏในไทยกับเขมร sakdi นา หรือตามวัฒนธรรม นอกจากโครงสร้างทางสังคม คือ เถรวาทพระสงฆ์ซึ่งเป็นที่เคารพเนื่องจากโดยไม่คำนึงถึงชั้นเรียนความจริงที่ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นพระที่บางจุดในชีวิตของพวกเขาให้เส้นทางสำหรับการเคลื่อนไหวทางสังคมและการศึกษาอย่างเป็นทางการ

ตั้งแต่กษัตริย์ของลาวถูกปลดในปี 1975 มีความพยายามแรกที่จะ downplay ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์และแทนที่หรือเปลี่ยนแปลงประเพณีทางศาสนามากมาย และวันหยุดใน ปี ล่าสุด ได้มีการต่ออายุความสนใจในสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่จากมุมมองของชาตินิยมในรูปแบบคล้ายคลึงกับจีนตั้งแต่ทศวรรษ 1990 การปฏิวัติสังคมนิยม ซึ่งจบระดับความแตกต่างในประเทศลาว แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่ย้ายโครงสร้างแบบดั้งเดิมบนการตั้งค่าที่แตกต่างกันของยอดพระสงฆ์ลาวยังหายบทบาทดั้งเดิมของพวกเขาและสถานะในสังคมลาว