Grap and Munro (2004) presented sup

Grap and Munro (2004) presented supporting evidence indicating that critically ill patients who are intubated for more than 24 hours are at higher risk for VAP, and therefore, mouth care and oral health should be an important part of nursing care. Current literature identified a problem with adequate oral care in the intubated patient that included the definition and quantification of oral care (Fourrier et al., 2000). Bergmans and colleagues (2001) provided evidence that prevention of bacterial colonization of the oropharynx is the key to preventing VAP. The Centers for Disease Control and Prevention guidelines (Tablan, Anderson, Besser, Bridges, & Hajjeh, 2004) determined that the primary route of bacterial entry into the lungs is through the oropharynx during episodes of microaspiration.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Grap และจู๋ (2004) แสดงหลักฐานสนับสนุนที่บอกว่า ป่วยเหลือผู้ intubated มากกว่า 24 ชั่วโมงมีเสี่ยงสูงสำหรับโกวัป และ ปาก และการดูแลสุขภาพช่องปากควรเป็นส่วนสำคัญของพยาบาล วรรณกรรมปัจจุบันระบุปัญหาเพียงพอการดูแลช่องปากในผู้ป่วย intubated ที่นิยามและนับของการดูแลช่องปาก (Fourrier et al., 2000) Bergmans และเพื่อนร่วมงาน (2001) ระบุหลักฐานว่าป้องกันแบคทีเรียสนาม oropharynx คีย์การป้องกันโกวัป ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคและการป้องกันแนวทาง (Tablan แอนเดอร์สัน Besser สะพาน & Hajjeh, 2004) ระบุว่า กระบวนการหลักของแบคทีเรียเข้าปอดไม่ผ่าน oropharynx ในระหว่างตอนของ microaspiration

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Grap และมันโร (2004) นำเสนอหลักฐานแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยวิกฤตที่มีการใส่ท่อช่วยหายใจนานกว่า 24 ชั่วโมงมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นสำหรับ VAP และดังนั้นการดูแลปากและสุขภาพช่องปากที่ควรจะเป็นส่วนสำคัญของการดูแลรักษาพยาบาล วรรณกรรมปัจจุบันระบุปัญหาเกี่ยวกับการดูแลช่องปากอย่างเพียงพอในการใส่ท่อช่วยหายใจผู้ป่วยที่รวมความหมายและการหาปริมาณของการดูแลช่องปาก (Fourrier et al., 2000) Bergmans และเพื่อนร่วมงาน (2001) ให้หลักฐานที่แสดงว่าการป้องกันแบคทีเรียของ oropharynx เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกัน VAP ศูนย์ควบคุมโรคและแนวทางการป้องกัน (Tablan, แอนเดอ Besser สะพานและ Hajjeh, 2004) ระบุว่าเส้นทางหลักของรายการแบคทีเรียเข้าไปในปอดจะผ่าน oropharynx ในช่วงตอนของ microaspiration

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอาแล้ว มันโร ( 2004 ) แสดงหลักฐานสนับสนุนระบุว่า ผู้ป่วยวิกฤตที่ใส่ท่อช่วยหายใจนานกว่า 24 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นสำหรับแว็ป ดังนั้น การดูแลปากและสุขภาพช่องปาก ควรเป็นส่วนที่สำคัญของการดูแลพยาบาลวรรณกรรมปัจจุบันระบุปัญหากับการดูแลอย่างเพียงพอในผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจคือนิยามและปริมาณของการดูแลช่องปาก ( fourrier et al . , 2000 ) bergmans และเพื่อนร่วมงาน ( 2001 ) ให้หลักฐานว่าป้องกันกลุ่มแบคทีเรียของคอหอยส่วนปากคือ คีย์เพื่อป้องกันแว๊บ . ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ( tablan แอนเดอร์สัน เบเซอร์ , แนวทาง ,สะพาน , & hajjeh , 2004 ) ที่ระบุว่า เส้นทางหลักของแบคทีเรียเข้าไปในปอดผ่านคอหอยส่วนปาก ระหว่างตอนของ microaspiration .