Variations in PracticeVariations in

Variations in Practice
Variations in practice, sometimes
referred to as fragmented care, can be
found at the hospital systems level.
The physical design of the organization
and the inaccessibility to updated
technology, such as diagnostic
equipment and user-friendly medical
records, can be sources of fragmented
care. Variations can occur as a result
of ineffective organizational leadership,
the shortage of experienced
interprofessional teams, and poor
communications among health care
providers. Issues related to medical
coverage and services (e.g., access to
insurance and medical services;
high deductibles and co-pays) and
the research-practice gap (e.g., lack
of organizational culture for research
implementation; nurse preparedness
and willingness to participate
in research) also contribute to
fragmented care. Patients are affected
by variations in all these dimensions.
In addition, variations in
practice play a significant role in
health care cost. Nurse leaders at the
bedside can minimize costs by implementing
evidence-based practices
and eradicating fragmented
care (IOM, 2001).
Clinical leaders at the bedside
recognize sources of fragmented
care and use structured approaches
to eliminate them. These leaders
implement evidence-based policies,
protocols, and pathways, and share
evidence-based and best practices
with nurse colleagues. They advo

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบในการปฏิบัติ
รูปแบบในทางปฏิบัติบางครั้ง
เรียกว่าการดูแลเป็นอย่างกระจัดกระจายสามารถ
พบได้ที่ระดับระบบโรงพยาบาล.
การออกแบบทางกายภาพขององค์กร
และเข้าไม่ถึงเพื่อการปรับปรุง
เทคโนโลยีเช่นการวินิจฉัย
อุปกรณ์และใช้งานง่ายทางการแพทย์
ระเบียนสามารถเป็นแหล่งที่มา การแยกส่วนของ
การดูแล รูปแบบที่สามารถเกิดขึ้นเป็นผล
ของการเป็นผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพขององค์กร
การขาดแคลนประสบการณ์
ทีม interprofessional และยากจน
การสื่อสารการดูแลสุขภาพในหมู่
ผู้ให้บริการ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์
คุ้มครองและบริการ (เช่นการเข้าถึง
การประกันและการบริการทางการแพทย์;
deductibles สูงและร่วมจ่าย) และ
ช่องว่างการวิจัยปฏิบัติ (เช่นการขาด
ของวัฒนธรรมองค์กรเพื่อการวิจัย
การดำเนินงาน; เตรียมความพร้อมพยาบาล
และความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วม
ในการวิจัย) ยังนำไปสู่
​​การดูแลการแยกส่วน ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ
จากการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติเหล่านี้.
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงใน
ทางปฏิบัติมีบทบาทสำคัญใน
ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ ผู้นำทางการพยาบาลที่
ข้างเตียงสามารถลดค่าใช้จ่ายโดยการดำเนิน
การปฏิบัติตามหลักฐาน
และกำจัดการแยกส่วน
การดูแลถิ่นฐาน (IOM, 2001).
ผู้นำทางคลินิกที่ข้างเตียง
รับรู้แหล่งที่มาของการแยกส่วน
การดูแลและใช้วิธีการที่มีโครงสร้าง
เพื่อกำจัดพวกเขา ผู้นำเหล่านี้
ดำเนินการตามนโยบายตามหลักฐาน
โปรโตคอลและทางเดินและแบ่งปัน
ตามหลักฐานและการปฏิบัติที่ดีที่สุด
กับเพื่อนร่วมงานพยาบาล พวกเขา advo

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติบางครั้งเรียกว่าดูแลกระจัดกระจาย , สามารถที่พบในระบบโรงพยาบาลการออกแบบทางกายภาพขององค์กรและความฉลาดเพื่อการปรับปรุงเทคโนโลยี เช่น การวินิจฉัยอุปกรณ์และใช้งานทางการแพทย์ระเบียนสามารถเป็นแหล่งของการแยกส่วนการดูแล การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นเป็นผลภาวะผู้นำองค์การ ไม่ได้ผลการขาดประสบการณ์ทีม interprofessional และยากจนการสื่อสารระหว่างการดูแลสุขภาพผู้ให้บริการ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ความคุ้มครองและบริการ ( เช่นการเข้าถึงประกันภัยและบริการทางการแพทย์สูงและ deductibles ร่วมจ่าย ) และการวิจัยการปฏิบัติ เช่น ช่องว่าง ( ขาดวัฒนธรรมขององค์การเพื่อการวิจัยการปฏิบัติงาน การพยาบาลและเต็มใจที่จะเข้าร่วมในการวิจัย ) ยังสนับสนุนการแตกกระจาย ผู้ป่วยจะได้รับผลกระทบโดยการเปลี่ยนแปลงในมิตินี้นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ หัวหน้าพยาบาลที่ข้างเตียงสามารถลดต้นทุนโดยการใช้การปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์และ ปรับแหลกการดูแล ( พันธะ , 2001 )ผู้นําทางคลินิกที่ข้างเตียงจำแหล่งที่มาของการแยกส่วนวิธีดูแลและใช้โครงสร้างจะขจัดพวกเขา ผู้นำเหล่านี้ดำเนินการตามนโยบายโปรโตคอล และสัมภาระ และแบ่งปันตามหลักฐาน และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดงานพยาบาล พวกเขา advo