“minus,” and “plus.” Thus, for exam

“minus,” and “plus.” Thus, for example, an episode of relatively minor financial distress could
be classified as “credit disruption–minus,” “credit disruption–regular,” or “credit disruption–
plus.” In our empirical work, we convert these categories into a numerical scale. Cases where
there is no financial distress are assigned a zero. Positive levels of distress start at 1 for a credit
disruption–minus and go through 15 for an extreme crisis–plus.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ลบด้วย และ"รวมกัน" ดังนั้น เช่น ตอนที่ทุกข์ทางการเงินค่อนข้างน้อยอาจสามารถจัดประเภทเป็น "เครดิตทรัพย – เครื่อง" "เครดิตทรัพย – ปกติ" หรือ "เครดิตทรัพย –บวก" ในการทำงานของเราประจักษ์ เราแปลงประเภทเหล่านี้เป็นมาตราส่วนตัวเลข กรณีมีความทุกข์ทางการเงินไม่มีกำหนดศูนย์การ ปรับระดับของความทุกข์เริ่มต้นที่ 1 สำหรับเครดิตทรัพย – เครื่องและไปผ่าน 15 ในสุดวิกฤต – พลัส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ลบ" และ "บวก."
ดังนั้นสำหรับตัวอย่างเช่นกรณีของความทุกข์ทางการเงินค่อนข้างน้อยอาจจะจัดเป็น"การหยุดชะงักลบเครดิต", "การหยุดชะงักปกติเครดิต" หรือ "disruption-
เครดิตบวก." ในการทดลองของเรา ทำงานเราแปลงประเภทเหล่านี้ลงไปในระดับตัวเลข
กรณีที่ไม่มีความทุกข์ทางการเงินที่ได้รับมอบหมายเป็นศูนย์ ระดับบวกของความทุกข์เริ่มต้นที่ 1
สำหรับบัตรเครดิตหยุดชะงักลบและผ่าน15 สำหรับวิกฤตบวกมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ลบ " และ " บวก " ดังนั้น ตัวอย่างเช่น ตอนที่ทุกข์ทางการเงินค่อนข้างน้อย อาจจะจัดเป็น " การ
เครดิต–ลบ " , " เครดิตหยุดชะงัก–ปกติ " หรือ " การหยุดชะงักเครดิต–
พลัส " ในงานเชิงประจักษ์ของเราเราแปลงประเภทเหล่านี้เป็นแบบตัวเลข กรณีที่
ไม่มีความทุกข์ทางการเงินได้รับมอบหมายให้ศูนย์บวกระดับเริ่มต้นความทุกข์ที่ 1 สำหรับสินเชื่อ
หยุดชะงัก–ลบผ่าน 15 บวก–วิกฤตที่รุนแรง