14. Under Jencks’s proposal, the va

14. Under Jencks’s proposal, the value of the voucher to the school would vary inversely with the family income of the student, and schools participating in the system would be prohibited from charging tuition beyond the voucher. Thus school would have an incentive to enroll low-income children. The more expensive private schools would have either have to cut their budgets or cater only to those rich enough to forgo the voucher and pay the full costs themselves. This may sound attractive on paper, but one wonders about the political saleability of a plan that would allow parents to shop around for the ”best” school, but prohibit them from spending any additional funds on their children’s education

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

14. ภายใต้ข้อเสนอของ Jencks มูลค่าของใบสำคัญที่โรงเรียนจะแตกต่างกัน inversely กับรายได้ของครอบครัวของนักเรียน และโรงเรียนที่เข้าร่วมในระบบจะถูกห้ามจากการชาร์จค่าเล่าเรียนเกินใบสำคัญ ดังนั้น โรงเรียนจะมีการจูงใจให้ลงทะเบียนเด็กแนซ์ โรงเรียนเอกชนราคาแพงมากขึ้นจะมีการตัดงบประมาณของพวกเขา หรือตอบสนองเฉพาะคนรวยเหล่านั้นพอ กับคาราโอเกะใบสำคัญจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ฟังดูแล้วอาจน่าสนใจบนกระดาษ แต่หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับ saleability ทางการเมืองของแผนการที่จะช่วยให้ผู้ปกครองซื้อรอบโรงเรียน "สุด" แต่ห้ามพวกเขาจากการใช้จ่ายเงินใด ๆ เพิ่มเติมในการศึกษาของบุตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

14. ภายใต้ข้อเสนอ Jencks ของมูลค่าของบัตรกำนัลที่โรงเรียนจะแตกต่างกันผกผันกับรายได้ของครอบครัวของนักเรียนและโรงเรียนที่เข้าร่วมในระบบจะถูกห้ามจากการเรียกเก็บเงินค่าเล่าเรียนเกินบัตรกำนัล ดังนั้นโรงเรียนจะมีแรงจูงใจในการลงทะเบียนเด็กมีรายได้ต่ำ โรงเรียนเอกชนที่มีราคาแพงมากขึ้นจะมีทั้งมีการตัดงบประมาณของพวกเขาหรือให้ความสำคัญเฉพาะกับผู้ที่รวยพอที่จะสละบัตรกำนัลและจ่ายค่าใช้จ่ายเต็มรูปแบบของตัวเอง นี้อาจจะน่าสนใจบนกระดาษ แต่หนึ่งสิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับ saleability ทางการเมืองของแผนการที่จะช่วยให้พ่อแม่ผู้ปกครองในการซื้อสินค้ารอบสำหรับ "ดีที่สุด" โรงเรียน แต่ห้ามพวกเขาจากการใช้จ่ายเงินเพิ่มเติมใด ๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาของบุตรหลาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

14 . ภายใต้ข้อเสนอเจงก์ส , มูลค่าของคูปองนี้ไปโรงเรียนจะเปลี่ยนแปลงผกผันกับรายได้ของครอบครัวของนักศึกษา และโรงเรียนที่เข้าร่วมในระบบจะถูกห้ามจากการเรียกเก็บเงินค่าเล่าเรียนเกินตั๋วเงิน ดังนั้น โรงเรียนต้องมีแรงจูงใจที่จะลงทะเบียนเด็กมีรายได้ต่ำราคาแพงกว่าโรงเรียนเอกชนจะมีทั้งต้องหั่นงบประมาณของพวกเขาหรือรองรับเฉพาะผู้รวยพอที่จะละเลยบัตรและจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง นี่อาจฟังดูมีเสน่ห์บนกระดาษ แต่สิ่งมหัศจรรย์หนึ่งเกี่ยวกับ saleability ทางการเมืองของแผนการที่จะอนุญาตให้ผู้ปกครองที่จะร้านรอบสำหรับ " โรงเรียนที่ดีที่สุด "แต่ห้ามพวกเขาจากการใช้จ่ายเงินเพิ่มเติมใด ๆ ในการศึกษาของเด็ก