เทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสารข

เทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสารของสิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่เล็กและมีจำนวนประชากรน้อย จึงจำเป็นจะต้องหายุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก และไม่สามารถแข่งกับประเทศอื่นๆในรูปแบบดั้งเดิมได้ จึงต้องนำทรัพยากรที่มีมาแปรรูปให้เป็นตัวสินค้าและลงทุนในทรัพยากรมนุษย์และนวัตกรรม
สิงคโปร์มีประชากรประมาณห้าล้านคน และไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องการเกษตรหรืออุตสาหกรรมได้จุดแข็งของสิงคโปร์อยู่ที่สินค้าที่เกี่ยวกับการให้บริการ โดยเฉพาะด้านการทำธุรกรรมและการลงทุน ดังนั้น เทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) จึงมีความสำคัญมากในการอำนวยความสะดวกในกิจกรรมเหล่านี้
ในสายตาของสิงคโปร์ กิจกรรมที่เกี่ยวกับ Digital media ที่ช่วยเอื้อประโยชน์ต่อจุดแข็งของสิงคโปร์ จะต้องได้รับการสนับสนุนและการลงทุนจากรัฐบาล เพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศให้สามารถมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้าน ICT ในภูมิภาค และสิงคโปร์เองก็มีเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นศูนย์รวมด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารอีกด้วย (ICT hub)
ด้วยความที่สิงคโปร์นั้นมีชื่อเสียงในหลายๆกิจกรรมที่มีตัวประเทศเองเป็นศูนย์รวมเครือข่ายของภูมิภาคอยู่แล้ว อย่างเช่น ด้านเศรษฐกิจและคมนาคม (Service center and headquarters) ทำให้การพัฒนาด้าน ICT เป็นประโยชน์ต่อตัวประเทศในหลายๆด้าน อุตสาหกรรมด้าน ICT ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระยะยาวของสิงคโปร์
สิงคโปร์รับรู้ดีว่าในยุคโลกาภิวัฒน์ (Globalization) การติดต่อสื่อสาร การอำนวยความสะดวกทั้งในเรื่องการคมนาคมและเศรษฐกิจนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วยตัวสิงคโปร์เองมีศักยภาพพอที่จะพัฒนาความเป็นศูนย์รวมเครือข่ายจากเดิมที่เป็นอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีประชากรที่เรียกได้ว่าเป็นแรงงานที่มีทักษะสูง ทำให้สิงคโปร์สามารถรุดหน้าในการพัฒนาบุคลากรและนวัตกรรมด้าน ICT ได้
อาจสรุปได้โดยง่ายว่าจุดประสงค์หลักของสิงคโปร์คือการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ โดยมี ICT เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั่นเอง
ปัจจุบัน สิงคโปร์มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพด้าน ICT และมีหลายหน่วยงานทั้งราชการและภาคเอกชนที่เข้ามาดูแลงานด้าน ICT ของสิงคโปร์ดังต่อไปนี้
1.Ministry of Information, Communications, and Arts (MICA) - หน่วยงานราชการ
MICA มีวิสัยทัศน์คือ “Creative People, Gracious Community, Connected Singapore” โดยมีลักษณะที่เน้นด้านวัฒนธรรมเป็นหลัก เป้าหมายของ MICA คือการพัฒนาสิงคโปร์ให้เป็นเมืองระดับโลกด้านข้อมูล การสื่อสารและวัฒนธรรม สร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และสร้างสังคมที่มีคุณภาพในประเทศที่มีความหลากหลาย ภายใต้ MICA มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ ICT อีกหนึ่งหน่วยงานคือ Industry Division (IND) ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลให้ ICT มีศักยภาพเข้มแข็งและแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ ควบคุมดูแลให้บรรยากาศในการซื้อขายเป็นไปด้วยดี ส่งเสริมให้ธุรกิจ ICT มีความก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและผลผลิตทาง ICT ใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในงานด้าน ICT
2.Infocomm Development Authority of Singapore (iDA) – หน่วยงานราชการ
iDA เป็นอีกหน่วยงานนึงที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ICT ของประเทศสิงคโปร์โดยมีหน้าที่ดูแลการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน ICT โดยตรง โดยยึดเป้าหมายที่จะเป็น Intelligent Nation ภายในปี 2015 (iN2015) เพื่อพัฒนาให้สิงคโปร์เป็นเมืองระดับโลกโดยมีจุดแข็งคือเทคโนโลยีและการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม iDA ยังมีอีกเป้าหมายหนึ่งคือ ด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ (ecosystem) การพัฒนาด้านเทคโนโลยีจึงจะต้องไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมด้าน eco-friendly จึงถือเป็นอีกนโยบายหนึ่งซึ่งมุ่งเน้นความยั่งยืน iDA ยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมความเป็น economic hub และ การลงทุนด้านความรู้และทักษะของบุคลากร หัวใจสำคัญของ iDA ก็คือ นวัตกรรมนั่นเอง
iDA ได้วางเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมคือ สร้างงานด้านข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร จากเดิมที่มีจำนวน 55,000 เพิ่มเป็น 170,000 งานให้ได้ภายในปี 2015 โดยมียุทธศาสตร์หลักๆด้วยกันสามประการคือ 1.)พัฒนาศักยภาพในการแข่งขันด้านข้อมูลและการสื่อสารในภาคเศรษฐกิจสำคัญๆ 2.) พัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้าน ICT ให้ทัดเทียมระดับโลก 3.) พัฒนา ดึงดูด และรักษาบุคลากรนั้นไว้
3.Singapore Infocomm Technology federation (SiTF) – หน่วยงานเอกชน
SiTF เป็นองค์กรเอกชนที่ประกอบด้วยบริษัทในประเทศและบรรษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจด้าน ICT เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีที่เป็นที่จับตามอง เช่น Digital media, Cloud Computing, Green IT, Wireless, และ Security and governance หน้าที่ของ SiTF คือการเป็นกระบอกเสียให้กับบริษัทเอกชนเหล่านี้ และสร้างโอกาสให้กับสมาชิกในการเข้าสู่ตลาด โดยมีการจัดกิจกรรมและเวทีต่างเพื่อปรึกษาหารือและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก
4.Information Technology Standards Committee (iTSC) – หน่วยงานกึ่งราชการกึ่งเอกชน
iTSC เป็นผู้ดูแลเรื่องมาตรฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและให้บริการด้าน ICT ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก iDA และ SPRING (หน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนและการค้าของสิงคโปร์) โดยประกอบไปด้วยบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยสมาชิกของ iTSC จะเข้ามาทำงานด้วยความสมัครใจ กิจกรรมหลักๆที่ทำเพื่อสร้างมาตรฐานด้าน ICT คือการเข้ามาพูดคุยและเจรจากันระหว่างสมาชิกโดยมีหน่วยงาน iDA และ SPRING เป็นผู้สนับสนุน
ในด้านการศึกษา สิงคโปร์ได้มีการจัดInternational Conference on Teaching and Learning with Technology (iCTLT) อยู่แป็นประจำ โดยจะเน้นเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาประกอบในการให้การศึกษากับประชากรรุ่นใหม่ สถาบันการศึกษาด้าน ICT ชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง The Singapore University of Technology and Design (SUTD) และมหาวิทยาลัยอื่นๆเองก็รุดหน้าทำ MOU กับมหาวิทยาลัยด้าน ICT ระดับโลกเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ที่จะเข้ามาทำงานในด้านนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งยังมีการจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจ ICT ให้กับผู้สนใจอีกด้วย

สรุป สิงคโปร์มีเป้าหมายที่จะนำตัวเองขึ้นสู่เวทีระดับโลกด้าน ICT โดยมีจุดมุ่งหมายแฝงคือการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์มองว่าการที่จะขึ้นมาเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้าน ICT ระดับต้นๆได้นั้น สิ่งสำคัญคือการพัฒนาเศรษฐกิจและความรู้ด้านเทคโนโลยีของภูมิภาค โดยสิงคโปร์จะให้ความช่วยเหลือกับประเทศในอาเซียน ที่ด้อยพัฒนา โดยยึดตนเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และเมื่อเศรษฐกิจของอาเซียน ดีขึ้น สิงคโปร์ก็จะเข้มแข็งมากขึ้นในเวท

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสารของสิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นประเทศที่เล็กและมีจำนวนประชากรน้อยจึงจำเป็นจะต้องหายุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเพื่อการแข่งขันในตลาดโลกและไม่สามารถแข่งกับประเทศอื่นๆในรูปแบบดั้งเดิมได้จึงต้องนำทรัพยากรที่มีมาแปรรูปให้เป็นตัวสินค้าและลงทุนในทรัพยากรมนุษย์และนวัตกรรม สิงคโปร์มีประชากรประมาณห้าล้านคนและไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องการเกษตรหรืออุตสาหกรรมได้จุดแข็งของสิงคโปร์อยู่ที่สินค้าที่เกี่ยวกับการให้บริการโดยเฉพาะด้านการทำธุรกรรมและการลงทุนดังนั้นจึงมีความสำคัญมากในการอำนวยความสะดวกในกิจกรรมเหล่านี้เทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ในสายตาของสิงคโปร์กิจกรรมที่เกี่ยวกับดิจิตอลสื่อที่ช่วยเอื้อประโยชน์ต่อจุดแข็งของสิงคโปร์จะต้องได้รับการสนับสนุนและการลงทุนจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศให้สามารถมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้าน ICT ในภูมิภาคและสิงคโปร์เองก็มีเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นศูนย์รวมด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารอีกด้วย (ICT ฮับ) ด้วยความที่สิงคโปร์นั้นมีชื่อเสียงในหลายๆกิจกรรมที่มีตัวประเทศเองเป็นศูนย์รวมเครือข่ายของภูมิภาคอยู่แล้วอย่างเช่นด้านเศรษฐกิจและคมนาคม (ศูนย์บริการและสำนักงานใหญ่) ทำให้การพัฒนาด้าน ICT เป็นประโยชน์ต่อตัวประเทศในหลายๆด้านอุตสาหกรรมด้าน ICT ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระยะยาวของสิงคโปร์ สิงคโปร์รับรู้ดีว่าในยุคโลกาภิวัฒน์ (Globalization) การติดต่อสื่อสาร การอำนวยความสะดวกทั้งในเรื่องการคมนาคมและเศรษฐกิจนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ประกอบด้วยตัวสิงคโปร์เองมีศักยภาพพอที่จะพัฒนาความเป็นศูนย์รวมเครือข่ายจากเดิมที่เป็นอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีประชากรที่เรียกได้ว่าเป็นแรงงานที่มีทักษะสูง ทำให้สิงคโปร์สามารถรุดหน้าในการพัฒนาบุคลากรและนวัตกรรมด้าน ICT ได้ อาจสรุปได้โดยง่ายว่าจุดประสงค์หลักของสิงคโปร์คือการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ โดยมี ICT เป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั่นเอง ปัจจุบัน สิงคโปร์มีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพด้าน ICT และมีหลายหน่วยงานทั้งราชการและภาคเอกชนที่เข้ามาดูแลงานด้าน ICT ของสิงคโปร์ดังต่อไปนี้ 1.Ministry of Information, Communications, and Arts (MICA) - หน่วยงานราชการ MICA มีวิสัยทัศน์คือ “Creative People, Gracious Community, Connected Singapore” โดยมีลักษณะที่เน้นด้านวัฒนธรรมเป็นหลัก เป้าหมายของ MICA คือการพัฒนาสิงคโปร์ให้เป็นเมืองระดับโลกด้านข้อมูล การสื่อสารและวัฒนธรรม สร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และสร้างสังคมที่มีคุณภาพในประเทศที่มีความหลากหลาย ภายใต้ MICA มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ ICT อีกหนึ่งหน่วยงานคือ Industry Division (IND) ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลให้ ICT มีศักยภาพเข้มแข็งและแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ ควบคุมดูแลให้บรรยากาศในการซื้อขายเป็นไปด้วยดี ส่งเสริมให้ธุรกิจ ICT มีความก้าวหน้า ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและผลผลิตทาง ICT ใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพของบุคลากรในงานด้าน ICT2.Infocomm Development Authority of Singapore (iDA) – หน่วยงานราชการ
iDA เป็นอีกหน่วยงานนึงที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ICT ของประเทศสิงคโปร์โดยมีหน้าที่ดูแลการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน ICT โดยตรง โดยยึดเป้าหมายที่จะเป็น Intelligent Nation ภายในปี 2015 (iN2015) เพื่อพัฒนาให้สิงคโปร์เป็นเมืองระดับโลกโดยมีจุดแข็งคือเทคโนโลยีและการสื่อสาร อย่างไรก็ตาม iDA ยังมีอีกเป้าหมายหนึ่งคือ ด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ (ecosystem) การพัฒนาด้านเทคโนโลยีจึงจะต้องไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมด้าน eco-friendly จึงถือเป็นอีกนโยบายหนึ่งซึ่งมุ่งเน้นความยั่งยืน iDA ยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมความเป็น economic hub และ การลงทุนด้านความรู้และทักษะของบุคลากร หัวใจสำคัญของ iDA ก็คือ นวัตกรรมนั่นเอง
iDA ได้วางเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมคือ สร้างงานด้านข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร จากเดิมที่มีจำนวน 55,000 เพิ่มเป็น 170,000 งานให้ได้ภายในปี 2015 โดยมียุทธศาสตร์หลักๆด้วยกันสามประการคือ 1.)พัฒนาศักยภาพในการแข่งขันด้านข้อมูลและการสื่อสารในภาคเศรษฐกิจสำคัญๆ 2.) พัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้าน ICT ให้ทัดเทียมระดับโลก 3.) พัฒนา ดึงดูด และรักษาบุคลากรนั้นไว้
3.Singapore Infocomm Technology federation (SiTF) – หน่วยงานเอกชน
SiTF เป็นองค์กรเอกชนที่ประกอบด้วยบริษัทในประเทศและบรรษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจด้าน ICT เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีที่เป็นที่จับตามอง เช่น Digital media, Cloud Computing, Green IT, Wireless, และ Security and governance หน้าที่ของ SiTF คือการเป็นกระบอกเสียให้กับบริษัทเอกชนเหล่านี้ และสร้างโอกาสให้กับสมาชิกในการเข้าสู่ตลาด โดยมีการจัดกิจกรรมและเวทีต่างเพื่อปรึกษาหารือและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก
4.Information Technology Standards Committee (iTSC) – หน่วยงานกึ่งราชการกึ่งเอกชน
iTSC เป็นผู้ดูแลเรื่องมาตรฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและให้บริการด้าน ICT ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก iDA และ SPRING (หน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนและการค้าของสิงคโปร์) โดยประกอบไปด้วยบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยสมาชิกของ iTSC จะเข้ามาทำงานด้วยความสมัครใจ กิจกรรมหลักๆที่ทำเพื่อสร้างมาตรฐานด้าน ICT คือการเข้ามาพูดคุยและเจรจากันระหว่างสมาชิกโดยมีหน่วยงาน iDA และ SPRING เป็นผู้สนับสนุน
ในด้านการศึกษา สิงคโปร์ได้มีการจัดInternational Conference on Teaching and Learning with Technology (iCTLT) อยู่แป็นประจำ โดยจะเน้นเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาประกอบในการให้การศึกษากับประชากรรุ่นใหม่ สถาบันการศึกษาด้าน ICT ชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง The Singapore University of Technology and Design (SUTD) และมหาวิทยาลัยอื่นๆเองก็รุดหน้าทำ MOU กับมหาวิทยาลัยด้าน ICT ระดับโลกเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ที่จะเข้ามาทำงานในด้านนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งยังมีการจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการทำธุรกิจ ICT ให้กับผู้สนใจอีกด้วย

สรุป สิงคโปร์มีเป้าหมายที่จะนำตัวเองขึ้นสู่เวทีระดับโลกด้าน ICT โดยมีจุดมุ่งหมายแฝงคือการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์มองว่าการที่จะขึ้นมาเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้าน ICT ระดับต้นๆได้นั้น สิ่งสำคัญคือการพัฒนาเศรษฐกิจและความรู้ด้านเทคโนโลยีของภูมิภาค โดยสิงคโปร์จะให้ความช่วยเหลือกับประเทศในอาเซียน ที่ด้อยพัฒนา โดยยึดตนเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และเมื่อเศรษฐกิจของอาเซียน ดีขึ้น สิงคโปร์ก็จะเข้มแข็งมากขึ้นในเวท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสารของสิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่เล็กและมีจำนวนประชากรน้อยจึงจำเป็นจะต้องหายุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเพื่อการแข่งขันในตลาดโลกและไม่สามารถแข่งกับประเทศอื่นๆในรูปแบบดั้งเดิมได้สิงคโปร์มีประชากรประมาณห้าล้านคนและไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องการเกษตรหรืออุตสาหกรรมได้จุดแข็งของสิงคโปร์อยู่ที่สินค้าที่เกี่ยวกับการให้บริการโดยเฉพาะด้านการทำธุรกรรมและการลงทุนเทคโนโลยีด้านสารสนเทศและการสื่อสาร ( ICT ) จึงมีความสำคัญมากในการอำนวยความสะดวกในกิจกรรมเหล่านี้
ในสายตาของสิงคโปร์กิจกรรมที่เกี่ยวกับสื่อดิจิตอลที่ช่วยเอื้อประโยชน์ต่อจุดแข็งของสิงคโปร์จะต้องได้รับการสนับสนุนและการลงทุนจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาบุคลากรของประเทศให้สามารถมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านไอซีทีและสิงคโปร์เองก็มีเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นศูนย์รวมด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารอีกด้วย ( ICT Hub )
ด้วยความที่สิงคโปร์นั้นมีชื่อเสียงในหลายๆกิจกรรมที่มีตัวประเทศเองเป็นศูนย์รวมเครือข่ายของภูมิภาคอยู่แล้วอย่างเช่นด้านเศรษฐกิจและคมนาคม ( ศูนย์บริการสำนักงานใหญ่ ) ทำให้การพัฒนาด้านไอซีทีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จึงเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระยะยาวของสิงคโปร์
อุตสาหกรรมด้านไอซีทีสิงคโปร์รับรู้ดีว่าในยุคโลกาภิวัฒน์ ( โลกาภิวัตน์ ) การติดต่อสื่อสารการอำนวยความสะดวกทั้งในเรื่องการคมนาคมและเศรษฐกิจนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและมีประชากรที่เรียกได้ว่าเป็นแรงงานที่มีทักษะสูงได้
ทำให้สิงคโปร์สามารถรุดหน้าในการพัฒนาบุคลากรและนวัตกรรมด้านไอซีที