4.4. Factors in self-efficacy of firs

4.4. Factors in self-efficacy of first aid
To our knowledge, this is the first study to investigate the effect factors of self-efficacy in home first aid among parents with young children. We found that males had a higher rating for self-efficacy than females with regard to this. Other studies have found that factors such as mother’s educational status, age, family type, and number of children were related to parents’ knowledge of child- hood injuries and their prevention (Erkal, 2010; Thein et al., 2005), although those studies did not investigate participants’ gender. In a study by Lee and Chen (2009), male students displayed more confidence in first aid than females.
Participants who had obtained information on first aid from health personnel scored better on self-efficacy in managing acci- dental injuries compared with those who had received information from other sources. Obtaining relevant information from med- ical health personnel is thus one of the predictors of parental self-efficacy of first aid. Similar findings indicate that acquiring healthcare information from medical personnel not only increases the self-care knowledge of patients with asthma, but also boosts their confidence and ability to care for themselves (Chen et al.,
2010).Peoplefeelmoreconfident and believein theirabilities when their knowledge of health comes from medical personnel. There- fore, we suggest that the medical industry should provide first aid information on managing accidental pediatric home injuries. Doctors and nurses should provide information related to first aid when parents or caregivers bring their children for health checks or immunization at community health centers and clinics.
This study also found that people who had attended a first aid program had higher scores for self-efficacy than those who had never attended training courses. Various studies found that participants who had attended first aid training scored higher on knowledgeandconfidencethan thosewhohad not (JonesandPrinz, 2005; Lee and Chen,2009). However,other studies have shown that parents’ educational attainment is not associated with the provi- sion of first aid (Kendrick and Marsh, 1999; Conrad and Beattie,
1996). To improve parents’ level of self-efficacy, the positive rein- forcement of appropriate first aid knowledge and responses could be carried out with health consultation in primary health care (Kendrick and Marsh, 1999; Chen et al., 2010). Such programs allow parents to discuss their feelings, and the acknowledgment that par- ents already undertake many procedures to keep their children safe may increase their self-efficacy.
The results of this study show that parents’ knowledge of first aid is positively associated with their self-efficacy in that field, and are consistent with previously published Taiwanese and inter- national evidence on the relationship between knowledge of and self-efficacy in performing first aid (Lee and Chen, 2009, Hess et al., 2004; Suzuki et al., 2009; Sevigny and Loutzenhiser, 2009). In other words, higher levels of knowledge lead to greater self-efficacy, and results in enhanced confidence when encountering accident injuries. Therefore, increasing parents’ first aid knowledge boosts their confidence in facing emergencies.
Knowledge of first aid is not only a key predictive factor in parents’ self-efficacy of first aid. In this study, knowledge of first aid was also found to be partly associated with the correlation between parents who had participated in first aid programs and their self-efficacy of first aid; and partly mediate the association between parents who received first aid information from health personnel and their self-efficacy of first aid. This suggests that knowledge of first aid explains a significant proportion of self- efficacy of first aid. Through the provision of first aid programs and offering first aid information by health personnel, parents’ knowledge of first aid would hopefully be progressed to enhance their level of self-efficacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4.4. ปัจจัยในตัวเอง-efficacy เครื่องช่วยแรกความรู้ของเรา นี้เป็นการศึกษาแรกเพื่อตรวจสอบปัจจัยมีผลของตนเอง efficacy ในหน้าแรกช่วยเหลือระหว่างผู้ปกครองกับเด็ก เราพบว่า เพศชายมีการจัดอันดับสูงสำหรับ efficacy ตนเองมากกว่าเพศหญิงในเรื่องนี้ การศึกษาอื่น ๆ พบว่า ปัจจัยเช่นสถานะการศึกษาของมารดา อายุ แบบครอบครัว และจำนวนของเด็กที่เกี่ยวข้องกับความรู้ของพ่อแม่ฮูดเด็กบาดเจ็บและการป้องกัน (Erkal, 2010 Thein et al. 2005), แม้ว่าผู้ศึกษาได้ตรวจสอบเพศของผู้เข้าร่วม ในการศึกษาโดยลีและเฉิน (2009), นักศึกษาชายแสดง confidence เพิ่มเติมในช่วยแรกกว่าตัวเมียผู้เข้าร่วมที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความช่วยเหลือแรกจากคะแนนดีกว่าตนเอง-efficacy ทันตกรรมประสบอาการบาดเจ็บเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ การจัดการบุคลากรสุขภาพ ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก med - ical บุคลากรสุขภาพจึงทำนายของผู้ปกครองตนเอง-efficacy เครื่องช่วยแรกอย่างใดอย่างหนึ่ง คล้าย findings บ่งชี้ว่า ได้รับข้อมูลด้านสุขภาพจากบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียง เพิ่มความรู้ดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคหอบหืด แต่ยัง ช่วยเพิ่ม confidence และความสามารถในการดูแลตนเอง (Chen et al.,2010) Peoplefeelmoreconfident และ believein theirabilities เมื่อความรู้สุขภาพมาจากบุคลากรทางการแพทย์ ข้างหน้ามี เราขอแนะนำว่า อุตสาหกรรมการแพทย์ควรให้ข้อมูลแรกช่วยในการจัดการการบาดเจ็บจากบ้านเด็กอุบัติเหตุ แพทย์และพยาบาลควรให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความช่วยเหลือแรกเมื่อผู้ปกครองหรือผู้ดูแลนำเด็กตรวจสุขภาพหรือฉีดวัคซีนที่ศูนย์สุขภาพชุมชนและคลินิกการศึกษานี้ยังพบว่า คนที่เคยเข้าโปรแกรมช่วยแรกมีคะแนนที่สูงขึ้นสำหรับ efficacy ตนเองมากกว่าผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมอบรม ศึกษาต่าง ๆ พบว่า ผู้ที่เคยเข้าแรกช่วยฝึกคะแนนสูงกว่า knowledgeandconfidencethan thosewhohad ไม่ได้ (JonesandPrinz, 2005 ลีและเฉิน 2009) อย่างไรก็ตาม การศึกษาอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่า ความสำเร็จการศึกษากับผู้ปกครองไม่เกี่ยวข้องกับ sion อยู่เครื่องช่วยแรก (เคนดิกและมาร์ช 1999 คอนราดและ Beattie1996) . การปรับปรุงระดับของพ่อแม่ของตนเอง efficacy, forcement บังเหียนบวกความรู้ช่วยแรกที่เหมาะสมและการตอบสนองอาจดำเนินการพร้อมปรึกษาสุขภาพในการดูแลสุขภาพหลัก (เคนดิกและมาร์ช 1999 Chen et al. 2010) โปรแกรมดังกล่าวให้ผู้ปกครองเพื่อหารือเกี่ยวกับความรู้สึก และยอมรับว่า ตรา ents แล้วดำเนินหลายขั้นตอนเพื่อให้เด็กปลอดภัยอาจเพิ่มความ efficacy ตนเองผลนี้แสดงว่าความรู้ของพ่อแม่ช่วยเหลือแรกบวกเกี่ยวข้องกับตนเอง efficacy ในเนื้อหาที่ศึกษา และสอดคล้องกับหลักฐานเผยแพร่ก่อนหน้านี้ไต้หวัน และอินเตอร์แห่งชาติความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และ efficacy ตนเองในการช่วยเหลือแรก (ลีและเฉิน 2009, Hess et al. 2004 ซูซูกิ et al. 2009 Sevigny และ Loutzenhiser, 2009) ในคำอื่น ๆ ระดับที่สูงขึ้นของความรู้มากกว่าตนเอง-efficacy และผลลัพธ์ใน confidence เพิ่มขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น การเพิ่มความรู้ความช่วยเหลือแรกพ่อแม่ช่วยเพิ่ม confidence ของพวกเขาในการเผชิญเหตุฉุกเฉินความรู้ในการช่วยเหลือแรกไม่ใช่เฉพาะปัจจัยหลักทำนายพ่อแม่ตัวเอง-efficacy เครื่องช่วยแรก ในการศึกษานี้ ความรู้ในการช่วยเหลือแรกยังพบว่ามีบางส่วนเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองที่มาร่วมในโครงการช่วยเหลือแรกและตนเอง efficacy เครื่องช่วยแรก และไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองที่ได้รับข้อมูลความช่วยเหลือแรกจากบุคลากรสุขภาพของตนเอง efficacy เครื่องช่วยแรกบางส่วน นี้แสดงให้เห็นว่า ความรู้แรกช่วยอธิบายตนเอง-efficacy เครื่องช่วยแรกสัดงมาก ของแรกช่วยโปรแกรม และบริการข้อมูลช่วยแรก โดยบุคลากรสุขภาพ ความรู้ของพ่อแม่ช่วยแรกจะหวังว่าจะก้าวหน้าเพื่อเพิ่มระดับของตนเอง-efficacy

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.4 ปัจจัยในตัวเอง EF cacy Fi ของความช่วยเหลือ RST Fi
เพื่อความรู้ของเรานี้คือการศึกษาแรกในการตรวจสอบปัจจัยที่ผลกระทบของตัวเอง EF cacy Fi ในการช่วยเหลือ RST บ้าน Fi ในหมู่ผู้ปกครองที่มีเด็กเล็ก เราพบว่าเพศชายมีคะแนนที่สูงขึ้นสำหรับตัวเอง EF Fi cacy มากกว่าเพศหญิงในเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ การศึกษาอื่น ๆ ได้พบว่าปัจจัยเช่นสถานะของแม่การศึกษาอายุประเภทครอบครัวและจำนวนของเด็กที่มีความสัมพันธ์กับความรู้พ่อแม่ได้รับบาดเจ็บเครื่องดูดควัน child- และการป้องกันของพวกเขา (Erkal 2010; Thein et al, 2005.) แม้ว่าเหล่านั้น การศึกษาไม่ได้ตรวจสอบเพศของผู้เข้าร่วม ในการศึกษาโดยลีและเฉิน (2009) นักเรียนชายแสดงความมั่นใจ Con Fi อื่น ๆ ในการช่วยเหลือ RST Fi กว่าตัวเมีย.
ผู้เข้าร่วมที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลจากบุคลากรสาธารณสุขได้คะแนนที่ดีขึ้นในตนเอง EF cacy Fi ในการจัดการการบาดเจ็บทางทันตกรรม acci- เมื่อเทียบกับคนที่มี ได้รับข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ การได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก med- บุคลากรสาธารณสุข iCal จึงเป็นหนึ่งในการพยากรณ์ของผู้ปกครองตนเอง EF cacy Fi ของความช่วยเหลือ RST Fi จะ ndings Fi ที่คล้ายกันแสดงให้เห็นว่าการแสวงหาข้อมูลการดูแลสุขภาพจากบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียง แต่จะเพิ่มความรู้ในการดูแลตนเองของผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืด แต่ยังช่วยเพิ่ม Con มั่นใจ Fi และความสามารถในการดูแลตัวเอง (Chen et al.,
2010) .Peoplefeelmorecon Fi บุ๋มและ believein theirabilities เมื่อรู้ของพวกเขา ของสุขภาพมาจากบุคลากรทางการแพทย์ ก่อนรองเพื่อขอแบ่งเราขอแนะนำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ควรให้ข้อมูล RST Fi ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจัดการการบาดเจ็บในเด็กที่บ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ แพทย์และพยาบาลควรให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ RST Fi เมื่อพ่อแม่หรือผู้ดูแลผู้ป่วยนำบุตรหลานของพวกเขาสำหรับการตรวจสุขภาพหรือการสร้างภูมิคุ้มกันที่ศูนย์สุขภาพชุมชนและคลินิก.
การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าผู้ที่ได้เข้าร่วมโปรแกรม Fi ช่วยเหลือ RST มีคะแนนที่สูงขึ้นสำหรับตัวเอง EF cacy Fi กว่า ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรม การศึกษาต่างๆพบว่าผู้เข้าร่วมที่ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมการปฐมพยาบาล Fi RST คะแนนที่สูงขึ้นใน knowledgeandcon Fi dencethan thosewhohad ไม่ (JonesandPrinz 2005; ลีและเฉิน 2009) อย่างไรก็ตามการศึกษาอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าการศึกษาที่สำเร็จของผู้ปกครองจะไม่เกี่ยวข้องกับเศรษของความช่วยเหลือแรก (Kendrick และมาร์ช 1999; คอนราดและทีย์,
1996) เพื่อเพิ่มระดับของพ่อแม่ของตัวเอง EF cacy Fi ที่ forcement rein- Fi ในเชิงบวกของความรู้ช่วยเหลือ RST ที่เหมาะสมและการตอบสนองจะถูกนำออกมาพร้อมกับการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพในการดูแลสุขภาพระดับปฐมภูมิ (Kendrick และมาร์ช 1999. เฉิน et al, 2010) โปรแกรมดังกล่าวช่วยให้ผู้ปกครองที่จะหารือเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาและการรับรู้ที่บิดามารดาแล้วดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อให้เด็กของพวกเขาปลอดภัยอาจเพิ่มขึ้นด้วยตนเอง EF cacy Fi ของพวกเขา.
ผลของการศึกษาครั้งนี้แสดงว่ามีความรู้ผู้ปกครองของความช่วยเหลือ RST Fi มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพวกเขา Self-EF cacy Fi ใน ELD Fi ที่และมีความสอดคล้องกับหลักฐานแห่งชาติเผยแพร่ก่อนหน้านี้ชาวไต้หวันและระหว่างที่ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เกี่ยวกับตัวเองและ EF Fi cacy ในการปฏิบัติปฐมพยาบาล (ลีและเฉิน 2009 เดิม et al, 2004;. ซูซูกิ, et al . 2009; Sevigny และ Loutzenhiser 2009) ในคำอื่น ๆ ระดับที่สูงขึ้นของสารตะกั่วความรู้ให้กับตัวเอง EF cacy Fi มากขึ้นและผลในการเพิ่ม Con Fi มั่นใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการบาดเจ็บที่เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นการเพิ่มของผู้ปกครองมีความรู้ปฐมพยาบาลช่วยเพิ่มความมั่นใจ Con Fi ของพวกเขาในกรณีฉุกเฉินหันหน้าไปทาง.
ความรู้ของความช่วยเหลือแรกไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยที่สำคัญในการทำนายของพ่อแม่ตัวเอง EF cacy Fi ของความช่วยเหลือ RST Fi ในการศึกษานี้ความรู้ของความช่วยเหลือ RST Fi นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเชื่อมโยงกับส่วนหนึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ที่มีส่วนร่วมในโครงการความช่วยเหลือแรกและตนเอง EF cacy Fi ของพวกเขาให้ความช่วยเหลือ RST Fi นั้น และอีกส่วนหนึ่งเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ปกครองที่ได้รับแรกข้อมูลความช่วยเหลือจากบุคลากรสาธารณสุขและตนเอง EF cacy Fi ของพวกเขาให้ความช่วยเหลือ RST Fi จะ นี้แสดงให้เห็นว่ามีความรู้ของความช่วยเหลือแรกอธิบายสัดส่วน Fi ลาดเทนัยสำคัญของตนเอง cacy Fi EF ของความช่วยเหลือ RST Fi ผ่านการให้ความช่วยเหลือโปรแกรมแรกและเสนอความช่วยเหลือ Fi RST ข้อมูลโดยบุคลากรสุขภาพความรู้ผู้ปกครองของความช่วยเหลือแรกจะหวังว่าจะก้าวหน้าเพื่อเพิ่มระดับของตัวเอง EF cacy Fi

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4.4 . ปัจจัยในตนเองจึง cacy EF RST จึงช่วยเหลือความรู้ของเรา การศึกษานี้เป็น RST จึงศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อตนเองจึง cacy EF ในการช่วยเหลือทีบ้านจึงระหว่างผู้ปกครองกับเด็กหนุ่ม เราพบว่า เพศชายมีคะแนนสูงกว่า จึง cacy EF ตนเองมากกว่าเพศหญิงในเรื่องนี้ การศึกษาอื่น ๆพบว่า ปัจจัยต่างๆ เช่น แม่ของ การศึกษา สถานภาพ อายุ ประเภทครอบครัว และจำนวนของเด็กที่เกี่ยวข้องกับความรู้ของพ่อแม่เด็ก - เครื่องดูดควันและป้องกันการบาดเจ็บของพวกเขา ( erkal , 2010 ; เทียน et al . , 2005 ) แม้ว่าการศึกษาเหล่านั้นไม่ได้ศึกษาเข้าร่วม " เพศ ในการศึกษา โดย ลี และ เฉิน ( 2009 ) นักเรียนชายแสดงคอน จึง dence ช่วยเหลือ RST จึงมากกว่าตัวเมียผู้เข้าร่วมที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความช่วยเหลือจากบุคลากรด้านสุขภาพใจจึงได้ดีกว่านี้ จึง cacy EF ตนเองในการจัดการการบาดเจ็บอุบัติ - ทันตกรรมเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแพทย์ - บุคลากรสาธารณสุขเกี่ยวกับ จึงเป็นหนึ่งในตัวแปรของผู้ปกครองจึงช่วยเหลือตนเอง EF cacy RST จึง . ndings จึงคล้ายกัน บ่งชี้ว่า การรับข้อมูลจากบุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียง แต่เพิ่มความรู้ในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคหอบหืด แต่ยังเพิ่มการต่อต้านจึง dence และความสามารถในการดูแลตนเอง ( Chen et al . ,2010 ) peoplefeelmorecon จึง เดนท์ และเชื่อมั่น theirabilities เมื่อความรู้ของสุขภาพที่มาจากบุคลากรทางการแพทย์ มีก่อน เราแนะนำว่า อุตสาหกรรมการแพทย์ควรให้ข้อมูลช่วยเหลือในการจัดการการบาดเจ็บจึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน เด็กจากอุบัติเหตุ แพทย์และพยาบาลควรให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ RST เมื่อพ่อแม่หรือผู้ดูแลจึงช่วยพาลูก ๆ เพื่อสุขภาพ หรือการตรวจสอบที่ศูนย์สุขภาพชุมชน และคลินิกการศึกษานี้ยังพบว่า ผู้ที่ได้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือจึงตัดสินใจเดินทางไปสูงกว่าคะแนน cacy จึง EF ตนเองมากกว่าผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมฝึกอบรมหลักสูตร การศึกษาต่าง ๆพบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้คะแนนสูงกว่า จึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเหลือใน knowledgeandcon จึง dencethan thosewhohad ไม่ได้ ( jonesandprinz , 2005 ; ลี และ เฉิน , 2009 ) อย่างไรก็ตาม การศึกษาอื่น ๆได้แสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองการศึกษาไม่ได้เกี่ยวข้องกับ provi - ไซออนของ RST จึงช่วยเหลือ ( เค็นดริก และ มาร์ช , 1999 ; คอนราด กับ บีทตี้1996 ) เพื่อปรับปรุงระดับของพ่อแม่จึง cacy EF ตนเองบวกบังเหียน - forcement ความเหมาะสมจึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเหลือ ความรู้ และ การตอบสนองอาจจะทำการปรึกษากับสุขภาพในงานสาธารณสุขมูลฐาน ( เค็นดริก และ มาร์ช , 1999 ; Chen et al . , 2010 ) โปรแกรมดังกล่าวช่วยให้ผู้ปกครองเพื่อหารือเกี่ยวกับความรู้สึกของตนเอง และยอมรับว่าพาร์ - ใส่แล้วทำหลายขั้นตอนเพื่อให้เด็กปลอดภัยอาจเพิ่มของตนเองจึง cacy EF .ผลการศึกษาพบว่า ความรู้ของผู้ปกครองช่วยเหลือ RST จึงมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับตนเองจึง cacy EF ในละมั่ง ที่ถ่ายทอด และสอดคล้องกับการตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ระหว่างไต้หวันและหลักฐานแห่งชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และการปฏิบัติตนใน cacy จึง EF RST จึงช่วยเหลือ ( ลี และ เฉิน , 2009 , เฮสส์ et al . , 2004 ; ซูซูกิ et al . , 2009 ; และ loutzenhiser Sevigny , 2009 ) ในคำอื่น ๆมีระดับความรู้นำไปสู่ตนเองจึง cacy EF และผลลัพธ์ในการต่อต้านจึง dence เมื่อพบการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ดังนั้น พ่อแม่จึงตัดสินใจเดินทางไปช่วยเพิ่มความรู้ เพิ่มของพวกเขา คอน จึง dence เผชิญเหตุฉุกเฉินความรู้ของความช่วยเหลือ RST จึงไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยทำนายที่สำคัญพ่อแม่ ตนเองจึง cacy EF RST จึงช่วยเหลือ . ในการศึกษานี้ ความรู้ ของ RST จึงช่วยเหลือ พบเป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่าง พ่อ แม่ ที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและโปรแกรมของพวกเขา ตนเองจึงตัดสินใจเดินทาง cacy EF จึงช่วยเหลือ RST จึง และส่วนหนึ่งไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ที่ได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงช่วยเหลือแรกและ EF จึง cacy ช่วยเหลือตนเอง RST จึง . ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความรู้ช่วยเหลือ RST จึงอธิบาย signi จึงไม่ได้สัดส่วนของตนเอง จึง cacy EF RST จึงช่วยเหลือ . ผ่านการให้ความช่วยเหลือจึงตัดสินใจเดินทางโปรแกรมและเสนอข้อมูล RST จึงช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข , พ่อแม่มีความรู้ช่วยเหลือ RST จึงจะหวังว่าจะก้าวหน้าเพื่อเพิ่มระดับของ cacy จึง EF ด้วยตนเอง