Further evidence regarding the acad

Further evidence regarding the academic–practitioner divide comes from Saari (2007), who noted that practitioners usually look for research evidence only in response to a particular problem or need. In such cases, even if the information is there in journals, it requires considerable effort (and expertise) to find it, synthe size it, and sort out the disparate findings. Web sites are likely to be more effective repositories of evidence based knowledge for practitioners (Cohen, 2007; Rousseau, 2007).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบ่งวิชาการ – ผู้ประกอบการมาจาก Saari (2007), ที่ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้มักจะหาหลักฐานการวิจัยเฉพาะในการตอบสนองปัญหาเฉพาะ หรือต้องการ ในกรณี แม้ว่าข้อมูลที่มีอยู่ในสมุดรายวัน มันต้องใช้ความพยายามมาก (และความเชี่ยวชาญ) เพื่อค้นหา synthe ขนาดนั้น และสังคายนาที่พบแตกต่างกัน เว็บไซต์มักจะ repositories เพิ่มประสิทธิภาพตามหลักฐานความรู้สำหรับผู้ (โคเฮน 2007 Rousseau, 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแบ่งวิชาการประกอบการมาจาก Saari (2007) ที่ตั้งข้อสังเกตว่าผู้ปฏิบัติงานมักจะมองหาหลักฐานจากงานวิจัยในการตอบสนองต่อปัญหาหรือความต้องการ ในกรณีดังกล่าวแม้ว่าข้อมูลจะมีในวารสารก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก (และความเชี่ยวชาญ) จะพบว่าขนาด Synthe มันและเรียงลำดับจากผลการวิจัยที่แตกต่างกัน เว็บไซต์ที่มีแนวโน้มที่จะเก็บมีประสิทธิภาพมากขึ้นของความรู้ตามหลักฐานสำหรับผู้ปฏิบัติงาน (โคเฮน 2007; รูสโซ, 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแบ่งงาน และผู้ประกอบการที่มาจากซารี่ ( 2007 ) , ผู้ที่กล่าวว่า ผู้ปฏิบัติงานมักจะมองหาหลักฐานการวิจัยในการตอบสนองต่อปัญหาใดหรือต้องการ ในบางกรณี ถ้าข้อมูลอยู่ในวารสาร มันต้องใช้ความพยายามมาก ( และความเชี่ยวชาญเพื่อค้นหา บางครั้งขนาดนั้น และแยกแยะข้อมูลที่แตกต่างกัน .เว็บไซต์มักจะเป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของหลักฐานเชิงความรู้สำหรับผู้ปฏิบัติงาน ( Cohen , 2007 ; Rousseau , 2007 )