Liu Fei was in a bad mood because o

Liu Fei was in a bad mood because of what Lin Feng had said. If she had the chance then she would definitely defeat that bastard and make him regret everything. That would be her revenge for constantly getting ridiculed by him. She had started following him as he left.



…………





Nine Frost Mountain was the name of the place where the elite disciples lived.



In the Nine Frost Mountain, there was a gigantic cave which was popular with the elite disciples because of a certain cliff.



At the top of the precipice, engraved in the stone were a list of names. Those names were the names of the strongest elite disciples. There were eighty names in total which were carved into the stone.



What intrigued people the most is that it looked like a chess board. Each of the eighty names was like a chess piece which could be moved across the board. Some names would be eliminated, while other insignificant pieces would cross the board and transform into powerful pieces.



All of the elite disciples within the sect hoped that their name could be engraved on that board someday. It would mean that they had finally reached the top and would be respected by all.



At that moment, Tu Fu’s name which was at the top of the list was removed. They all understood what was happening. He was one of the first people to become a core disciple and he had even defending his right to be a core disciple.



Then, a new name replaced Tu Fu’s name on the list of the elite disciples.



“Wen Ren Yan.”



His name had appeared there suddenly like a comet which had crashed through to the top position. He had only needed a year and he was already at the top of the elite disciple rankings. Everybody knew of his strength. He had the power to join the core disciples but he decided to stay as an elite disciple. Everybody knew the reason why he had done such a thing. He did not want to join the core disciples because he was too arrogant and refused to be lowly ranked amongst the core disciples. He would rather rule over the elite disciples than be kicked around by the core disciples.



Wen Ren Yan was sixteen years old. There were many young disciples in the Yun Hai Sect who were exceptionally talented. He had never been an ordinary disciple because he had directly joined as an elite disciple. Once he joined the elite disciples he had been fighting intensively and his name had constantly been rising up in the rankings. A year had passed and his name was already carved into the top stone on the board.



Many people trusted Wen Ren Yan and believed in his power. He had achieved a great deal of accomplishments in the year he spent fighting his way to the top. He could even be compared to people like Ling Hu He Shan or Fu Tu.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลิวเฟยเป็นอารมณ์เสีย เพราะสิ่งที่หลินเฟิงได้กล่าวว่า ถ้าเธอมีโอกาส แล้วเธอจะเอาชนะลูกครึ่งที่แน่นอน และทำให้เขาเสียใจทุกอย่าง ที่จะแก้แค้นของเธอสำหรับอย่างต่อเนื่องได้รับการเยาะเย้ยเขา เธอได้เริ่มต้นตามเขาเป็นเขาซ้าย ………… ภูเขาน้ำแข็งที่เก้าคือ ชื่อของสถานที่ที่สาวกยอดอยู่ เป็นถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่นิยมกับเหล่าสาวกยอดเนื่องจากหน้าผาบาง มากในภูเขาน้ำแข็งเก้า ด้านบนของหน้าผา ฝังในหินมีรายชื่อ ชื่อเหล่านี้เป็นชื่อของสาวกยอดที่แข็งแกร่ง รวมแปดสิบชื่อซึ่งถูกสลักลงในหินได้ สิ่งที่ผู้คนรู้สึกทึ่งมากที่สุดคือ ว่า มันดูเหมือนกระดานหมากรุก แต่ละชื่อแปดเป็นเหมือนหมากซึ่งอาจย้ายทั่วกระดาน บางชื่อจะหายไป ในขณะที่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ไม่สำคัญจะข้ามคณะ และกลายเป็นหมากที่มีอำนาจด้วย ทั้งหมดของสาวกยอดภายในนิกายที่หวังว่า ชื่อของพวกเขาสามารถแกะสลักบนกระดานว่าสักวันหนึ่ง มันจะหมายถึง ว่า พวกเขาได้ในที่สุดก็มาถึงด้านบน และจะปฏิบัติตามทั้งหมด ขณะที่การ ชื่อ Tu Fu ซึ่งด้านบนของรายการถูกเอาออก พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเป็นคนแรกเป็น ลูกศิษย์หลักอย่างใดอย่างหนึ่ง และเขาได้ป้องกันด้านขวาเป็นสานุศิษย์ของหลัก ชื่อใหม่แทนชื่อ Tu Fu ทางสาวกยอดแล้ว "ย่านเหรินเหวิน" ชื่อของเขาได้ปรากฏมีก็เหมือนดาวหางที่มีพุ่งชนผ่านไปยังตำแหน่งบนสุด เขามีใช้เฉพาะในปี และเขาได้แล้วที่ด้านบนของการจัดอันดับยอดศิษย์ ทุกคนรู้ว่าความแข็งแรงของเขา เขามีอำนาจที่จะเข้าร่วมสาวกหลัก แต่เขาตัดสินใจเป็นศิษย์ยอด ทุกคนรู้เหตุผลว่าทำไมเขาทำสิ่งนั้น เขาไม่ต้องการเข้าร่วมสาวกหลัก เพราะเขาหยิ่งเกินไป และปฏิเสธที่จะ lowly จัดอันดับในหมู่สาวกหลัก เขาจะค่อนข้างครองสาวกยอดกว่าจะเตะรอบ โดยสาวกหลัก ย่านเหรินเหวินคือ อายุ 16 ปี มีหลายหนุ่มสาวกในนิกาย Hai Yun คนมีความสามารถเป็นพิเศษ เขาไม่เคยเป็นสาวกธรรมดาเนื่องจากเขาโดยตรงร่วมเป็นศิษย์ยอด เมื่อเขาเข้าร่วม สาวกยอดที่เขามีการต่อสู้อย่างและชื่อของเขาได้อย่างต่อเนื่องได้เพิ่มขึ้นในการจัดอันดับ ปีที่ผ่าน และชื่อของเขาแล้วแกะสลักจากหินชั้นบนกระดาน คนย่านเหรินเหวินที่เชื่อถือได้ และเชื่อในอำนาจของเขา เขาประสบความสำเร็จอย่างมากของความสำเร็จในปีที่เขาใช้เวลาต่อสู้ทางของเขาไปด้านบน เขายังเทียบได้กับคนเช่นลิงหูเขาชานหรือฟู Tu.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลิวเฟยอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดี เพราะสิ่งที่หลินฟงบอก ถ้าเธอมีโอกาส เธอก็จะต้องเอาชนะมันและทำให้เขาเสียใจทุกอย่าง จะแก้แค้นเธอตลอดเวลาจะเยาะเย้ยเขา เธอเริ่มตามเขาไป.เก้า ฟรอสท์ ภูเขาเป็นชื่อของสถานที่ ที่สาวกยอดอยู่ในเก้า ฟรอสท์ ภูเขา มีถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่นิยมกับสาวกยอดเพราะหน้าผาหนึ่งที่ด้านบนของหน้าผา , จารึกในหิน คือ รายชื่อ ชื่อนั้นเป็นชื่อของสาวกที่แข็งแกร่งที่สุดยอด . มี 80 รวมชื่อที่สลักไว้บนแผ่นหินสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ผู้ที่เป็นเหมือนหมากรุกกระดาน แต่ละชื่อแปดเป็นเหมือนหมากรุก ซึ่งสามารถย้ายข้ามบอร์ด ชื่อบางชื่อจะถูกกำจัดออกไป ในขณะที่ชิ้นสำคัญอื่น ๆที่จะข้ามบอร์ด และแปลงเป็นชิ้นที่มีประสิทธิภาพทั้งหมดของสาวกยอดภายในพรรคหวังว่าชื่อของพวกเขาจะถูกฝังบนบอร์ดสักวัน มันอาจจะหมายความว่า เขาไปถึงด้านบนและจะได้รับความเคารพจากทุกคนในขณะนั้น , TU Fu ชื่อซึ่งอยู่ที่ด้านบนของรายการที่ถูกลบออก พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเป็นหนึ่งในคนแรกที่จะกลายเป็นหลักของลูกศิษย์และเขาก็ปกป้องสิทธิของเขาที่จะเป็นหลักของสาวกแล้ว ชื่อใหม่เปลี่ยนชื่อเป็น Tu Fu ในรายชื่อของเหล่าชนชั้นสูง" เวนเรนยัน”ชื่อของเขาที่ปรากฏนั้นก็เหมือนดาวหางที่ตกถึงตำแหน่งสูงสุด เขาต้องการเพียงหนึ่งปีและเขาได้อยู่ที่ด้านบนของการจัดอันดับของลูกศิษย์หัวกะทิ ทุกคนรู้ว่าความแข็งแกร่งของเขา เขามีอำนาจที่จะเข้าร่วมหลักสาวกแต่เขาตัดสินใจที่จะอยู่เป็นสาวกของชนชั้นสูง ทุกคนรู้ว่าเหตุผลที่เขาทำแบบนี้ เขาไม่ได้ต้องการที่จะเข้าร่วมหลักสาวกเพราะเขาหยิ่งเกินไป และปฏิเสธที่จะเป็นทาสอยู่ในหมู่หลักของสาวก เขาจะปกครองสาวกยอดกว่าจะเตะรอบตามหลักพุทธศาสนาเวนเรนยันอายุสิบหกปี มีหลายหนุ่มสาวกในลัทธิยุนไห่ที่เก่งโคตร เขาไม่เคยเป็นสาวกธรรมดาเพราะเขาโดยตรงเข้าร่วมเป็นลูกศิษย์ของชนชั้นสูง เมื่อเขาร่วมงานกับยอดสาวกเขาทะเลาะกันอย่างหนาแน่นและชื่อของเขาได้อย่างต่อเนื่องได้รับการเพิ่มขึ้นในการจัดอันดับของ ปี ที่ผ่านมา และชื่อของเขาก็ถูกสลักหินบนกระดานหลายคนเชื่อเวนเรนยัน และเชื่อในพลังของเขา เขาได้รับการจัดการที่ดีของความสำเร็จ ใน ปี เขาใช้เวลาในการต่อสู้ทางของเขาไปด้านบน เขาไม่สามารถแม้แต่จะเปรียบเทียบกับคนชอบลิงหูเขาฉานหรือฟู Tu