determined by characteristics of it

determined by characteristics of its traction system.
Fig.3 displays the subsystem of both systems. Wheel-rail
raifway gets power supply through grid over the locomotive.
The electric energy is transformed into mechanical energy
on the locomotive to draught the train running. The traction
energy of maglev system comes from long-stator linear
motor laid on the railway line. Traction control system, by
controlling the switch station beside raiIs, supple power for
stator.
In order to avoid unsafe parking, when the traction system
failed to work, the vortex-brake system will be started up.
The vortex brake is divided 8 levels that correspond to the
0 -100% brake capacity respectively. When the train’s
speed is lower than 150 kml h, the vortex brake magnet will
move at Y towards the levitation opposite rack and touch the
side of guidance tracks, the friction brake energy is
generated with the abrasion board rubbing against the
guiding tracks, When the speed nears to the 10 kml h, the
vortex brake will be closed, and the slippery friction brake is
inducted. Finally, the train was controlled to park into the
auxiliary parking area or station.
Similarly to high -speed wheel train, High-speed maglev
train also has the problem of collision, but its technical safety
measure is distinct from wheel-rail train.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กำหนดโดยลักษณะของระบบแรงดึงของมัน.
รูปที่ 3 แสดงระบบย่อยของทั้งสองระบบ ล้อรถไฟ
raifway ได้รับแหล่งจ่ายไฟผ่านตะแกรงเหนือหัวรถจักร.
พลังงานไฟฟ้าจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานกล
ในหัวรถจักรที่จะร่างวิ่งรถไฟ ฉุด
การใช้พลังงานของระบบ maglev มาจากเชิงเส้นยาวสเตเตอร์
มอเตอร์วางอยู่บนทางรถไฟสาย ระบบควบคุมการลื่นไถลโดย
สวิทช์ควบคุมสถานีข้าง raiIs อำนาจนุ่มสำหรับ
สเตเตอร์.
เพื่อหลีกเลี่ยงการจอดรถที่ไม่ปลอดภัยเมื่อระบบฉุด
ล้มเหลวในการทำงานของระบบน้ำวนเบรคจะเริ่มต้นขึ้น.
เบรกวนแบ่งออก 8 ระดับที่ สอดคล้องกับ
0 -100% กำลังการผลิตเบรกตามลำดับ เมื่อรถไฟ
ความเร็วต่ำกว่า 150 ชั่วโมง KML แม่เหล็กเบรกกระแสน้ำวนจะ
ย้ายที่ Y ต่อชั้นลอยตรงข้ามและสัมผัส
ด้านข้างของแทร็คที่แนะนำพลังงานเบรกแรงเสียดทานที่มีการ
สร้างขึ้นกับคณะกรรมการการขัดถูถูกับ
แทร็คที่ชี้แนะเมื่อ ความเร็วเกือบจะชั่วโมง KML 10,
เบรกกระแสน้ำวนจะถูกปิดและเบรกลื่นแรงเสียดทานจะ
แต่งตั้ง ในที่สุดรถไฟถูกควบคุมที่จอดรถเป็น
บริเวณที่จอดรถเสริมหรือสถานี.
ในทำนองเดียวกันกับรถไฟความเร็วการล้อสูง maglev ความเร็วสูง
รถไฟนอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เกิดจากการชนกัน แต่ความปลอดภัยของเทคนิค
การวัดที่แตกต่างจากรถไฟล้อรถไฟ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พิจารณาจากลักษณะของระบบแรงดึงของมัน
fig.3 แสดงระบบทั้งระบบ raifway รถไฟ
ล้อจะจ่ายไฟผ่านตะแกรงกว่ารถจักร

ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าพลังงานกลบนหัวรถจักรที่เบียร์สด รถไฟวิ่ง การลาก
พลังงานระบบรถไฟพลังแม่เหล็กมาจากความยาวสเตเตอร์เชิงเส้น
มอเตอร์วางอยู่บนรางรถไฟระบบควบคุมการลื่นไถลโดย
ควบคุมสลับข้าง raiis สถานีพลังงานอ่อนนุ่มสำหรับ
สเตเตอร์
เพื่อหลีกเลี่ยงการจอดรถที่ไม่ปลอดภัย เมื่อระบบ traction
ไม่ทำงาน ระบบเบรค Vortex จะเริ่มขึ้น
vortex เบรกแบ่งเป็น 8 ระดับที่สอดคล้องกับ
0 - 100% เบรคความจุตามลำดับ เมื่อความเร็วของรถไฟเป็น KML
ต่ำกว่า 150 ชั่วโมงวอร์เบรกแม่เหล็กจะ
ย้ายที่ Y ต่อการลอยตัวตรงข้ามชั้นและสัมผัส
ด้านการแนะแนวแทร็ค , เบรกแรงเสียดทานกับการสร้างพลังงาน

แนะนำบอร์ดถูกับแทร็คเมื่อความเร็วใกล้ถึง 10 KML H ,
. เบรคจะปิด และเบรกแรงเสียดทาน ลื่น คือ
เพื่อ . ในที่สุดรถไฟก็จอดลง
ควบคุมพื้นที่จอดรถสำรอง หรือสถานี
เหมือนรถไฟความเร็วสูงรถไฟความเร็วสูงล้อ
ยังมีปัญหาการปะทะกัน แต่วัดความปลอดภัยของ
เทคนิคแตกต่างจากรถไฟรางล้อ