What a view!Reading1. ‘We look up.

What a view!
Reading
1. ‘We look up. For weeks, for months, that is all we have done. Look up. And there it is – the top of Everest . Only it is different now: so nea , so ciose…It is on longer just a dream.’
2. In 1953 Edmund Hillary and Tenzing Norgay were the first people to readch the top of Mount Everest. Tenzing Norgay is describing here how he felt when they were they were 300 metres from the top of the mountain. It was 6.30 in the morning. Five hours later, after a slow, hard climb through the snow and ice, the two men reached the highest place in the world. The view was incredib. All around them the men could see the Himalayan Mountains. They had to look down to see the white tops of some of the highest mountains in the world.
3. Many people dream about going to the top of Mount Everest. Climbing Mount Everest, though, is very dangerous. Even in the warmest month, July, the average temperature at the top of the mountain is about –19ºC. Very strong winds and storms can start suddenly. And avalanches of snow and ice often fall down the mountain, burying everything in their path.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มุมมองอะไร!
อ่าน
1 "เรามองขึ้น สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับเดือนนั่นคือทั้งหมดที่เราได้ทำ แหงนมอง และมีมันเป็น - ด้านบนของเอเวอร์เรส เพียง แต่มันจะแตกต่างกันในขณะนี้ดังนั้น Nea ดังนั้น ciose ... มันเป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป '.
2 ในปี 1953 เอ็ดมันด์ฮิลลารีและ Tenzing Norgay เป็นคนแรกที่จะ readch ด้านบนของภูเขาเอเวอร์เรส Tenzing Norgay อธิบายที่นี่ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อพวกเขาพวกเขา 300 เมตรจากด้านบนของภูเขา มันเป็น 6.30 ในตอนเช้า ห้าชั่วโมงต่อมาหลังจากที่ช้าปีนยากที่ผ่านหิมะและน้ำแข็งทั้งสองคนมาถึงสถานที่สูงที่สุดในโลก มุมมองที่ได้รับการ incredib ทุกคนรอบตัวพวกเขาสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัย พวกเขาจะต้องมองลงมาจะเห็นเสื้อสีขาวของบางส่วนของภูเขาที่สูงที่สุดในโลก.
3 หลายคนฝันเกี่ยวกับการไปด้านบนของภูเขาเอเวอร์เรส ปีนภูเขาเอเวอร์เรส แต่เป็นอันตรายมาก แม้จะอยู่ในเดือนที่ร้อนที่สุดกรกฎาคมอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ด้านบนของภูเขาเป็นเรื่องเกี่ยวกับ-19ºC ลมแรงมากและพายุก็สามารถเริ่มต้น และถล่มของหิมะและน้ำแข็งมักจะตกลงมาจากภูเขาฝังทุกอย่างในเส้นทางของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สวยจังเลย

อ่าน 1 ' เราดูดีขึ้น สำหรับสัปดาห์ , เดือน , นั่นคือทั้งหมดที่เราต้องทำ เงยหน้าขึ้นมอง และนี้คือ–ยอดเอเวอเรสต์ แต่มันแตกต่างจากตอนนี้มากอยู่ ดังนั้น ปิด . . . . . . . มันเป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป "
2 ใน 2496 เอดมันด์ ฮิลลารี และ เตนจิง นอร์เกเป็นคนแรกที่จะ readch ด้านบนของภูเขาเอเวอเรสต์เทนซิง นอร์เกย์ คืออธิบายที่นี่ว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อพวกเขาพวกเขา 300 เมตรจากด้านบนของภูเขา มันคือเวลาในตอนเช้า ห้าชั่วโมงต่อมา หลังจากค่อยๆ ปีนยากผ่านหิมะและน้ำแข็ง ผู้ชายสองคนถึงสถานที่สูงสุดในโลก วิว incredib . ทั้งหมดรอบ ๆพวกเขาคนอาจเห็นภูเขาหิมาลัย .พวกเขาต้องมองลงไปเห็นเสื้อสีขาวของบางส่วนของภูเขาที่สูงที่สุดในโลก
3 หลายคนฝันเกี่ยวกับไปด้านบนของภูเขาเอเวอเรสต์ ปีนเขาเอเวอเรสต์ แต่อันตรายมาก แม้ในเดือนที่อบอุ่นที่สุดเดือนกรกฎาคมอุณหภูมิเฉลี่ยที่ด้านบนของภูเขาประมาณ 19 –º C แรงมากลมและพายุจะเริ่มทันทีหิมะถล่มของหิมะและน้ำแข็งมักจะตกภูเขาฝังทุกอย่างในเส้นทางของพวกเขา