Audience TargetingA fundamental tec

Audience Targeting

A fundamental technique of public relations is identifying the target audience and tailoring messages to appeal to them. Sometimes the interests of different audiences and stakeholders vary, meaning several distinct but complementary messages must be created.

Stakeholder theory identifies people who have a stake in a given institution or issue. All audiences are stakeholders (or presumptive stakeholders), but not all stakeholders are audiences. For example, if a charity commissions a public relations agency to create an advertising campaign that raises money toward finding the cure for a disease, the charity and the people with the disease are stakeholders, but the audience is anyone who might be willing to donate money.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้ชมเป้าหมายเทคนิคพื้นฐานของการประชาสัมพันธ์จะกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และปรับปรุงข้อความดึงดูดไป บางครั้งผลประโยชน์ของผู้ชมแตกต่างกันและเสียแตกต่าง กัน ความหมาย หลายอย่างแตกต่างกัน แต่ต้องสร้างเสริมข้อความทฤษฎีผู้ระบุคนที่มีเงินเดิมพันในสถาบันกำหนดหรือปัญหา ผู้ชมทั้งหมดเสีย (หรือเสีย presumptive), แต่ไม่ทุกกลุ่ม ผู้ชม ตัวอย่าง ถ้าเป็นกุศลแก่ผู้ขายที่หน่วยงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างโฆษณา ระดมเงินไปรักษาหาโรค องค์กรการกุศล และคนที่ มีโรคเสีย แต่ผู้ชมเป็นใครอาจจะยินดีที่จะบริจาคเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กำหนดเป้าหมายผู้ชมเทคนิคพื้นฐานของการประชาสัมพันธ์คือการระบุกลุ่มเป้าหมายและการตัดเย็บข้อความที่จะอุทธรณ์ไปยังพวกเขา บางครั้งความสนใจของผู้ชมที่แตกต่างกันและผู้มีส่วนได้เสียที่แตกต่างกันมีความหมายที่แตกต่างกันหลายข้อความที่สมบูรณ์ แต่จะต้องสร้างขึ้น. ทฤษฎีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระบุคนที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในสถาบันที่กำหนดหรือปัญหา ผู้ชมทั้งหมดอยู่ในผู้มีส่วนได้เสีย (หรือผู้มีส่วนได้เสียสันนิษฐาน) แต่ผู้มีส่วนได้เสียไม่ได้ทั้งหมดที่มีผู้ชม ตัวอย่างเช่นถ้าการกุศลนายหน้าหน่วยงานประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณาที่เพิ่มเงินต่อการค้นหาการรักษาสำหรับโรคกุศลและผู้ที่มีโรคที่มีผู้มีส่วนได้เสีย แต่ผู้ชมเป็นทุกคนที่อาจจะยินดีที่จะบริจาคเงิน .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้ชมเป้าหมาย

เทคนิคพื้นฐานของการประชาสัมพันธ์คือการระบุกลุ่มเป้าหมายและปรับปรุงข้อความที่จะอุทธรณ์ไปยังพวกเขา บางครั้งความสนใจของผู้ชมที่แตกต่างกันและผู้มีส่วนได้เสียที่แตกต่างกัน หมายถึง ข้อความที่แตกต่างกัน แต่เสริมหลายต้องสร้าง

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทฤษฎีระบุคนที่มีหุ้นที่ระบุในสถาบัน หรือปัญหาผู้ชมทุกคนเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียษา ) แต่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดไม่มีผู้ชม ตัวอย่างเช่น ถ้าองค์กรการกุศลคณะกรรมการหน่วยงานประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณาที่เพิ่มเงินต่อการหาวิธีรักษาโรค , การกุศลและผู้ที่มีโรคเป็นผู้มีส่วนได้เสีย แต่ผู้ชมทุกคนที่อาจจะยินดีที่จะบริจาคเงิน