The analysis of the Joule–Thomson c

The analysis of the Joule–Thomson coefficient is central to the technological problems
associated with the liquefaction of gases. We need to be able to interpret it physically
and to measure it. As shown in the following Justification, the cunning required to
impose the constraint of constant enthalpy, so that the process is isenthalpic, was
supplied by Joule and William Thomson (later Lord Kelvin). They let a gas expand
through a porous barrier from one constant pressure to another and monitored the
difference of temperature that arose from the expansion (Fig. 2.26). The whole
apparatus was insulated so that the process was adiabatic. They observed a lower temperature
on the low pressure side, the difference in temperature being proportional to
the pressure difference they maintained. This cooling by isenthalpic expansion is now
called the Joule–Thomson effect.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์ Joule-ทอมเป็นปัญหาเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับ liquefaction ของก๊าซ เราต้องสามารถตีความตามจริงและใน การวัด แสดงในเหตุผลต่อไปนี้ ล่อที่ต้องกำหนดข้อจำกัดของความคงความร้อนแฝง เพื่อให้การ isenthalpic ถูกทจาก Joule และ William ทอม (ภายหลังพระเจ้าเคลวิน) พวกเขาปล่อยให้แก๊สที่ขยายโดย porous อุปสรรคจากความดันคงหนึ่งอีก และตรวจสอบการความแตกต่างของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากการขยายตัว (Fig. 2.26) ทั้งหมดเครื่องมีฉนวนเพื่อให้กระบวนการมีการอะเดียแบติก พวกเขาสังเกตอุณหภูมิต่ำด้านความดันต่ำ อุณหภูมิที่ถูกสัดส่วนกับความแตกต่างผลต่างความดันที่จะรักษา ระบายความร้อนนี้ โดยขยายตัว isenthalpic อยู่ในขณะนี้เรียกว่าผล Joule-ทอม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์จูลทอมสันเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเหลวของก๊าซ
เราจะต้องสามารถที่จะตีความร่างกายและวัดได้
ดังแสดงในเหตุผลดังต่อไปนี้ไหวพริบที่จำเป็นในการกำหนดข้อ จำกัด ของเอนทัลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กระบวนการนี้ isenthalpic ถูกจัดทำโดยจูลและวิลเลียมทอมสัน(ต่อมาลอร์ดเคลวิน) พวกเขาช่วยให้ก๊าซขยายผ่านอุปสรรคที่มีรูพรุนจากความดันคงที่ไปยังอีกและตรวจสอบความแตกต่างของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากการขยายตัว(รูป. 2.26) ทั้งอุปกรณ์ถูกฉนวนเพื่อให้กระบวนการเป็นอะเดียแบติก พวกเขาตั้งข้อสังเกตอุณหภูมิต่ำในด้านแรงดันต่ำแตกต่างของอุณหภูมิเป็นสัดส่วนกับความแตกต่างของความดันพวกเขายังคง การระบายความร้อนนี้จากการขยายตัว isenthalpic อยู่ในขณะนี้เรียกว่าจูลทอมสันผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์ของจูลทอมสันค่าสัมประสิทธิ์และเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี
ที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปก๊าซ เราต้องตีความร่างกาย
และการวัดได้ ดังเหตุผลต่อไปนี้ ไหวพริบต้อง
กำหนดข้อจำกัดของความร้อนที่คงที่ เพื่อให้กระบวนการ isenthalpic ,
จัดโดย จูล และวิลเลียม ทอมสัน ( ต่อมาลอร์ด เคลวิน ) พวกเขาปล่อยก๊าซขยาย
ผ่านอุปสรรคที่มีรูพรุนจากหนึ่งไปยังอีกและตรวจสอบแรงดันคงที่
ความแตกต่างของอุณหภูมิที่เกิดจากการขยายตัว ( รูปที่ 3 ) เครื่องมือทั้งหมด
เป็นฉนวนเพื่อให้กระบวนการอะเดียแบติก . พวกเขาสังเกต
อุณหภูมิด้านความดันต่ำความแตกต่างในอุณหภูมิที่ถูกสัดส่วน
ความดันความแตกต่างพวกเขารักษา เย็นนี้ โดยการขยาย isenthalpic ตอนนี้
เรียกว่าจูลทอมสันและผล