11:47Still, we need some help with

11:47
Still, we need some help with our intuitions. How can not perceiving reality as it is be useful? Well, fortunately, we have a very helpful metaphor: the desktop interface on your computer. Consider that blue icon for a TED Talk that you're writing. Now, the icon is blue and rectangular and in the lower right corner of the desktop. Does that mean that the text file itself in the computer is blue, rectangular, and in the lower right-hand corner of the computer? Of course not. Anyone who thought that misinterprets the purpose of the interface. It's not there to show you the reality of the computer. In fact, it's there to hide that reality. You don't want to know about the diodes and resistors and all the megabytes of software. If you had to deal with that, you could never write your text file or edit your photo. So the idea is that evolution has given us an interface that hides reality and guides adaptive behavior. Space and time, as you perceive them right now, are your desktop. Physical objects are simply icons in that desktop.
13:03
There's an obvious objection. Hoffman, if you think that train coming down the track at 200 MPH is just an icon of your desktop, why don't you step in front of it? And after you're gone, and your theory with you, we'll know that there's more to that train than just an icon. Well, I wouldn't step in front of that train for the same reason that I wouldn't carelessly drag that icon to the trash can: not because I take the icon literally -- the file is not literally blue or rectangular -- but I do take it seriously. I could lose weeks of work. Similarly, evolution has shaped us with perceptual symbols that are designed to keep us alive. We'd better take them seriously. If you see a snake, don't pick it up. If you see a cliff, don't jump off. They're designed to keep us safe, and we should take them seriously. That does not mean that we should take them literally. That's a logical error.
14:02
Another objection: There's nothing really new here. Physicists have told us for a long time that the metal of that train looks solid but really it's mostly empty space with microscopic particles zipping around. There's nothing new here. Well, not exactly. It's like saying, I know that that blue icon on the desktop is not the reality of the computer, but if I pull out my trusty magnifying glass and look really closely, I see little pixels, and that's the reality of the computer. Well, not really -- you're still on the desktop, and that's the point. Those microscopic particles are still in space and time: they're still in the user interface. So I'm saying something far more radical than those physicists.
14:45
Finally, you might object, look, we all see the train, therefore none of us constructs the train. But remember this example. In this example, we all see a cube, but the screen is flat, so the cube that you see is the cube that you construct. We all see a cube because we all, each one of us, constructs the cube that we see. The same is true of the train. We all see a train because we each see the train that we construct, and the same is true of all physical objects.
15:23
We're inclined to think that perception is like a window on reality as it is. The theory of evolution is telling us that this is an incorrect interpretation of our perceptions. Instead, reality is more like a 3D desktop that's designed to hide the complexity of the real world and guide adaptive behavior. Space as you perceive it is your desktop. Physical objects are just the icons in that desktop.
15:52
We used to think that the Earth is flat because it looks that way. Then we thought that the Earth is the unmoving center of reality because it looks that way. We were wrong. We had misinterpreted our perceptions. Now we believe that spacetime and objects are the nature of reality as it is. The theory of evolution is telling us that once again, we're wrong. We're misinterpreting the content of our perceptual experiences. There's something that exists when you don't look, but it's not spacetime and physical objects. It's as hard for us to let go of spacetime and objects as it is for the jewel beetle to let go of its bottle. Why? Because we're blind to our own blindnesses. But we have an advantage over the jewel beetle: our science and technology. By peering through the lens of a telescope we discovered that the Earth is not the unmoving center of reality, and by peering through the lens of the theory of evolution we discovered that spacetime and objects are not the nature of reality. When I have a perceptual experience that I describe as a red tomato, I am interacting with reality, but that reality is not a red tomato and is nothing like a red tomato. Similarly, when I have an experience that I describe as a lion or a steak, I'm interacting with reality, but that reality is not a lion or a steak. And here's the kicker: When I have a perceptual experience that I describe as a brain, or neurons, I am interacting with reality, but that reality is not a brain or neurons and is nothing like a brain or neurons. And that reality, whatever it is, is the real source of cause and effect in the world -- not brains, not neurons. Brains and neurons have no causal powers. They cause none of our perceptual experiences, and none of our behavior. Brains and neurons are a species-specific set of symbols, a hack.
18:01
What does this mean for the mystery of consciousness? Well, it opens up new possibilities. For instance, perhaps reality is some vast machine that causes our conscious experiences. I doubt this, but it's worth exploring. Perhaps reality is some vast, interacting network of conscious agents, simple and complex, that cause each other's conscious experiences. Actually, this isn't as crazy an idea as it seems, and I'm currently exploring it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

11:47ยัง เราต้องช่วยบางกับ intuitions คิดของเรา Perceiving จริงไม่ก็จะมีประโยชน์หรือไม่ ดี โชคดี เรามีอุปมัยดี: อินเทอร์เฟซเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์ของคุณ พิจารณาที่ไอคอนสีน้ำเงินสำหรับพูดคุยของ TED ที่คุณเขียน ตอนนี้ ไอคอนเป็นสีน้ำเงิน และรูปสี่เหลี่ยม และมุมขวาล่างของเดสก์ท็อป ไม่ที่หมายความ ว่า แฟ้มข้อความตัวเองในคอมพิวเตอร์บลู สี่ เหลี่ยม และมุมขวาล่างของคอมพิวเตอร์ แน่นอนไม่ ใครที่คิดที่ misinterprets วัตถุประสงค์ของอินเตอร์เฟซ ไม่มีการแสดงจริงของคอมพิวเตอร์ ในความเป็นจริง ได้มีการซ่อนความจริงที่ คุณไม่ต้องการทราบเกี่ยวกับไดโอดได้ resistors และเมกะไบต์ทั้งหมดของซอฟแวร์ ถ้าคุณมีการจัดการกับที่ คุณสามารถไม่เขียนแฟ้มข้อความของคุณ หรือแก้ไขภาพถ่ายของคุณ ดังนั้น ความคิดเป็นว่า วิวัฒนาการได้ให้เราอินเทอร์เฟซที่ซ่อนความเป็นจริง และแนะนำลักษณะการทำงานที่เหมาะสม เวลา ขณะที่คุณสังเกตขณะนี้ เดสก์ท็อปของคุณ วัตถุทางกายภาพเป็นเพียงไอคอนในเดสก์ท็อปนั้น13:03มีข้อคัดค้านชัดเจน แมน ถ้าคุณคิดว่า รถไฟมาลงที่ความเร็ว 200 ติดตามเพียงไอคอนเดสก์ท็อปของคุณ ทำไมไม่ก้าวหน้ามันหรือไม่ และหลังจากที่คุณหายไป และทฤษฎีของคุณ เราจะรู้ว่า มีมากกว่าการที่รถไฟเพียงไอคอน ดี ฉันจะไม่ก้าวหน้ารถไฟที่สำหรับเหตุผลเดียวกันว่า ฉันจะไม่ลวก ๆ ลากไอคอนนั้นขยะสามารถ: ไม่ได้ เพราะผมใช้คอนอักษร- แฟ้มไม่ใช่อักษรสีน้ำเงิน หรือสี่ เหลี่ยม - แต่ฉันใช้มันอย่างจริงจัง ฉันไม่สามารถสูญเสียสัปดาห์ทำงาน ในทำนองเดียวกัน วิวัฒนาการมีรูปเรา ด้วยสัญลักษณ์ perceptual ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ เราจะนำพวกเขาอย่างจริงจัง ถ้าคุณเห็นงู ไม่รับมัน ถ้าคุณเห็นหน้าผา ไม่กระโดดออก พวกเขาออกแบบมาเพื่อให้เราปลอดภัย และเราควรใช้พวกเขาอย่างจริงจัง ที่ไม่ได้หมายความ ว่า เราควรใช้พวกเขาอย่างแท้จริง ที่มีข้อผิดพลาดทางตรรกะได้14:02คัดค้านอื่น: ไม่มีอะไรใหม่จริง ๆ ที่นี่ Physicists บอกกับเรามานานว่า โลหะที่รถไฟมีลักษณะแข็ง แต่จริง ๆ นั้นส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่าง ด้วยอนุภาคด้วยกล้องจุลทรรศน์ zipping สถาน ไม่มีอะไรใหม่ที่นี่ ดี ไม่ตรง เหมือนพูดว่า ฉันรู้ว่าบลูไอคอนบนเดสก์ท็อปไม่ใช่ความเป็นจริงของคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าดึงแว่นของฉันเชื่อถือ และจริง ๆ แลดู เห็นพิกเซลน้อย และที่อยู่จริงของคอมพิวเตอร์ ดี ไม่ได้จริง ๆ - คุณยังคงอยู่บนเดสก์ท็อป และที่เป็นจุด อนุภาคเหล่านั้นด้วยกล้องจุลทรรศน์จะยังอยู่ในเวลา: พวกเขากำลังยังคงอยู่ในส่วนติดต่อผู้ใช้ ดังนั้น ผมว่า บางสิ่งบางอย่างที่รุนแรงมากขึ้นกว่า physicists เหล่านั้น14:45สุดท้าย คุณอาจวัตถุ ดู เราดูรถไฟ ดังนั้นจึง ไม่มีเราสร้างรถไฟ แต่จำไว้อย่างนี้ ในตัวอย่างนี้ เราดู cube แต่หน้าจอเป็นแบน cube ที่คุณเห็นเป็น cube ที่คุณสร้าง เราดู cube เนื่องจากทั้งหมด แต่ละวันของเรา เราสร้าง cube ที่เราเห็น เหมือนเป็นความจริงของรถไฟ เราดูรถไฟ เพราะเราละเห็นรถไฟที่เราสร้าง และเหมือนเป็นความจริงของวัตถุทางกายภาพทั้งหมด15:23เราไม่อยากคิดว่า รับรู้เป็นเหมือนหน้าต่างบนความเป็นจริงมันเป็น ทฤษฎีวิวัฒนาการจะบอกเราว่า เป็นความถูกต้องของภาพลักษณ์ของเรา แทน ความเป็นจริงได้เหมือน desktop 3D ที่ได้ออกแบบให้ซ่อนความซับซ้อนของจริงโลกและคู่มือการปรับพฤติกรรม พื้นที่คุณสังเกตเป็นเดสก์ท็อปของคุณ วัตถุทางกายภาพมีเพียงไอคอนในเดสก์ท็อปนั้น15:52เราใช้คิดว่า โลกนี้แบน เพราะมันเหมือนที่ แล้ว เราคิดว่า โลกเป็นศูนย์ unmoving ของจริง เพราะมันเหมือนที่ เรามีความผิด เรามี misinterpreted แนวของเรา เราเชื่อว่า spacetime และวัตถุมีลักษณะของความเป็นจริงก็ ทฤษฎีวิวัฒนาการจะบอกเราว่า อีก เราไม่ถูกต้อง เรากำลัง misinterpreting เนื้อหาของประสบการณ์ perceptual สิ่งที่มีอยู่เมื่อคุณดูไม่ แต่ไม่ spacetime และวัตถุทางกายภาพ เป็นยากที่เราจะปล่อยของ spacetime และวัตถุซึ่งเป็นสำหรับด้วงมณีปล่อยของขวดได้ ทำไม เพราะเราคนตาบอดกับ blindnesses ของเราเอง แต่เราได้เปรียบกว่าด้วงอัญมณี: วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเรา โดยทุกทีผ่านเลนส์ของกล้อง เราพบว่า โลกไม่ใช่ศูนย์ unmoving ของความเป็นจริง และ ด้วยทุกทีผ่านเลนส์ของทฤษฎีวิวัฒนาการ เราพบ spacetime และวัตถุไม่ธรรมชาติของความเป็นจริง เมื่อมีประสบการณ์ perceptual ที่ฉันอธิบายเป็นมะเขือเทศสีแดง โต้ตอบกับความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงไม่ได้มะเขือเทศสีแดง และไม่ชอบมะเขือเทศสีแดง ในทำนองเดียวกัน เมื่อฉันมีประสบการณ์ที่ผมอธิบายเป็นสิงห์หรือสเต็ก ฉันโต้ตอบกับความเป็นจริง แต่ที่จริงไม่ใช่สิงห์หรือสเต็ก และนี่คือไพ่ที่: เมื่อฉันมีประสบการณ์ perceptual ที่ฉันอธิบายเป็นสมอง หรือ neurons โต้ตอบกับความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงที่ไม่มีสมองหรือ neurons และอะไรที่เหมือนกับสมองหรือ neurons และว่า ความเป็นจริง สิ่งเป็น เป็นแหล่งที่มาของเหตุและผลในโลกจริง - ไม่ สมอง ไม่ neurons สมองและ neurons มีอำนาจเชิงสาเหตุไม่ พวกเขาทำให้ไม่มีประสบการณ์ perceptual และไม่มีลักษณะการทำงานของเรา สมองและ neurons ได้ species-specific ชุดสัญลักษณ์ สับเป็น18:01นี้หมายถึงอะไรสำหรับความลึกลับของสติ ดี จะเปิดขึ้นใหม่ ตัวอย่าง ทีจริงได้บางเครื่องมากมายที่ทำให้ประสบการณ์ของเรามีสติ ฉันสงสัยนี้ แต่ก็เที่ยว ทีจริงเป็นบางใหญ่ โต้ตอบเครือข่ายของสติ ซับซ้อน และใช้งานง่ายที่ทำให้เกิดประสบการณ์ที่สติของผู้อื่น จริง นี้ไม่ได้เป็นบ้าคิดเหมือน และฉันกำลังขณะนี้สำรวจได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

11:47
ยังเราต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับสัญชาติญาณของเราบางส่วน วิธีไม่สามารถเข้าใจความเป็นจริงมันเป็นจะมีประโยชน์หรือไม่ ดีโชคดีที่เรามีคำอุปมาที่เป็นประโยชน์มาก: อินเตอร์เฟซสก์ท็อปบนคอมพิวเตอร์ของคุณ พิจารณาว่าไอคอนสีฟ้าสำหรับพูดคุย TED ที่คุณเขียน ตอนนี้ไอคอนเป็นสีฟ้าและรูปสี่เหลี่ยมและที่มุมขวาล่างของสก์ท็อป หมายความว่าแฟ้มข้อความตัวเองในคอมพิวเตอร์ที่เป็นสีฟ้า, รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและในมุมล่างขวามือของคอมพิวเตอร์? ไม่แน่นอน ใครก็ตามที่คิดว่าแปลความหมายผิดวัตถุประสงค์ของอินเตอร์เฟซ ยังไม่ได้มีการแสดงให้เห็นความเป็นจริงของคอมพิวเตอร์ ในความเป็นจริงมันมีที่จะซ่อนความเป็นจริงว่า คุณไม่ต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับไดโอดและตัวต้านทานและเมกะไบต์ทั้งหมดของซอฟต์แวร์ หากคุณมีการจัดการกับการที่คุณไม่สามารถเขียนไฟล์ข้อความของคุณหรือแก้ไขภาพของคุณ ดังนั้นความคิดที่ว่าวิวัฒนาการได้ให้เราอินเตอร์เฟซที่ซ่อนความเป็นจริงและคำแนะนำพฤติกรรมการปรับตัว พื้นที่และเวลาที่คุณรับรู้พวกเขาตอนนี้มีสก์ท็อปของคุณ วัตถุทางกายภาพเป็นเพียงไอคอนในเดสก์ทอปที่.
13:03
มีการคัดค้านที่เห็นได้ชัดคือ ฮอฟแมน, ถ้าคุณคิดว่ารถไฟมาลงแทร็คที่ 200 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นเพียงไอคอนสก์ท็อปของคุณทำไมคุณไม่ขั้นตอนในด้านหน้าของมันได้หรือไม่ และหลังจากที่คุณกำลังหายไปและทฤษฎีของคุณกับคุณเราจะรู้ว่ามีมากขึ้นรถไฟที่มากกว่าเพียงแค่ไอคอน ดีฉันจะไม่ขั้นตอนในด้านหน้าของรถไฟด้วยเหตุผลเดียวกันว่าฉันจะไม่ลวกลากไอคอนไปยังถังขยะที่สามารถ: ไม่ได้เพราะผมใช้เวลาไอคอนตัวอักษร - ไฟล์ไม่ตัวอักษรสีฟ้าหรือสี่เหลี่ยม - แต่ ฉันจะใช้มันอย่างจริงจัง ฉันอาจสูญเสียสัปดาห์ของการทำงาน ในทำนองเดียวกันการวิวัฒนาการมีรูปเราที่มีสัญลักษณ์การรับรู้ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่ เราควรที่จะใช้พวกเขาอย่างจริงจัง ถ้าคุณเห็นงูไม่รับมันได้ ถ้าคุณเห็นหน้าผาไม่กระโดดลงมาจาก พวกเขากำลังออกแบบมาเพื่อให้เราปลอดภัยและเราควรจะใช้พวกเขาอย่างจริงจัง นั่นไม่ได้หมายความว่าเราควรจะใช้พวกเขาอย่างแท้จริง นั่นเป็นข้อผิดพลาดทางตรรกะ.
14:02
คัดค้านอีก: มีจริงๆไม่มีอะไรใหม่ที่นี่ นักฟิสิกส์ได้บอกกับเราเป็นเวลานานว่าโลหะของขบวนรถไฟที่มีลักษณะแข็ง แต่จริงๆมันเป็นพื้นที่ว่างส่วนใหญ่กับอนุภาคซิปรอบ ไม่มีอะไรใหม่ที่นี่ ก็ไม่ว่า มันเหมือนกับว่าฉันรู้ว่าที่ไอคอนสีฟ้าบนเดสก์ทอปไม่ได้เป็นความเป็นจริงของคอมพิวเตอร์ แต่ถ้าฉันดึงออกแว่นขยายเชื่อถือของฉันและมองอย่างใกล้ชิดจริงๆผมเห็นพิกเซลเล็ก ๆ น้อย ๆ และนั่นคือความเป็นจริงของคอมพิวเตอร์ ดีไม่จริง - คุณยังคงอยู่บนเดสก์ทอปและที่จุด อนุภาคเหล่านี้จะยังคงอยู่ในพื้นที่และเวลาที่พวกเขายังคงอยู่ในส่วนติดต่อผู้ใช้ ดังนั้นฉันพูดอะไรบางอย่างที่รุนแรงมากขึ้นกว่าที่นักฟิสิกส์ผู้ที่.
14:45
สุดท้ายคุณอาจคัดค้านมองเราทุกคนเห็นรถไฟจึงไม่มีเราสร้างรถไฟ แต่จำไว้ตัวอย่างนี้ ในตัวอย่างนี้เราทุกคนเห็นก้อน แต่หน้าจอแบนดังนั้นก้อนที่คุณเห็นเป็นก้อนที่คุณสร้าง เราทุกคนเห็นก้อนเพราะเราทุกคนหนึ่งของเราแต่ละสร้างก้อนที่เราเห็น เดียวกันเป็นจริงของรถไฟ เราทุกคนเห็นรถไฟเพราะเราแต่ละคนเห็นรถไฟที่เราสร้างและเดียวกันเป็นจริงของวัตถุทางกายภาพทั้งหมด.
15:23
เรามีแนวโน้มที่จะคิดว่าการรับรู้ที่เป็นเหมือนหน้าต่างบนความเป็นจริงมันเป็น ทฤษฎีวิวัฒนาการจะบอกเราว่านี่คือการตีความที่ไม่ถูกต้องของการรับรู้ของเรา แต่ความเป็นจริงมากขึ้นเช่นเดสก์ทอป 3D ที่ออกแบบมาเพื่อซ่อนความซับซ้อนของโลกแห่งความจริงและให้คำแนะนำพฤติกรรมการปรับตัว พื้นที่ที่คุณรับรู้ว่าเป็นเดสก์ทอปของคุณ วัตถุทางกายภาพเป็นเพียงไอคอนในเดสก์ทอปที่.
15:52
เราเคยคิดว่าโลกแบนเพราะมันดูวิธีการที่ แล้วเราคิดว่าโลกเป็นศูนย์กลางของความเป็นจริง unmoving เพราะมันดูวิธีการที่ เราผิด เราได้ตีความรับรู้ของเรา ตอนนี้เราเชื่อว่ากาลอวกาศและวัตถุที่มีลักษณะของความเป็นจริงมันเป็น ทฤษฎีวิวัฒนาการจะบอกเราว่าอีกครั้งเราผิด เราตีความเนื้อหาของประสบการณ์การรับรู้ของเรา มีบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคุณไม่ได้มองเป็น แต่มันไม่ได้เป็นกาลอวกาศและวัตถุทางกายภาพ มันเป็นเรื่องยากที่เราจะปล่อยให้ไปของกาลอวกาศและวัตถุมันเป็นด้วงอัญมณีที่จะปล่อยให้ไปของขวดของ ทำไม? เพราะเราตาบอดเพื่อ blindnesses ของเราเอง แต่เรามีข้อได้เปรียบกว่าด้วงอัญมณี: วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเรา โดย peering ผ่านเลนส์ของกล้องดูดาวที่เราค้นพบว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์ unmoving ของความเป็นจริงและ peering ผ่านเลนส์ของทฤษฎีวิวัฒนาการที่เราค้นพบว่ากาลอวกาศและวัตถุไม่ได้ธรรมชาติของความเป็นจริง เมื่อฉันมีประสบการณ์การรับรู้ว่าผมอธิบายเป็นมะเขือเทศสีแดงฉันกำลังมีปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงที่ไม่ได้เป็นมะเขือเทศสีแดงและสีอะไรที่ชอบมะเขือเทศสีแดง ในทำนองเดียวกันเมื่อผมมีประสบการณ์ที่ผมอธิบายเป็นสิงโตหรือสเต็กผมมีปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงที่ไม่ได้เป็นสิงโตหรือสเต็ก และนี่คือนักเตะ: เมื่อฉันได้รับประสบการณ์การรับรู้ว่าผมอธิบายเป็นสมองหรือเซลล์ประสาทฉันกำลังมีปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงที่ไม่ได้เป็นสมองหรือเซลล์ประสาทและอะไรที่ชอบหรือเซลล์ประสาทสมอง และความเป็นจริงว่าสิ่งที่เป็นเป็นแหล่งที่แท้จริงของเหตุและผลในโลก - ไม่ได้สมองไม่เซลล์ประสาท สมองและเซลล์ประสาทที่มีอำนาจไม่มีสาเหตุ พวกเขาทำให้เกิดความไม่มีประสบการณ์การรับรู้ของเราและไม่มีพฤติกรรมของเรา สมองและเซลล์ประสาทเป็นชุดชนิดที่เฉพาะเจาะจงของสัญลักษณ์สับ.
18:01
สิ่งนี้หมายความว่าสำหรับความลึกลับของสติ? ดีก็จะเปิดขึ้นเป็นไปได้ใหม่ ยกตัวอย่างเช่นอาจจะเป็นความจริงก็คือบางเครื่องใหญ่ที่ทำให้เกิดประสบการณ์ของเรามีสติ ฉันสงสัยนี้ แต่ก็คุ้มค่าสำรวจ บางทีความเป็นจริงบางอย่างที่กว้างใหญ่มีปฏิสัมพันธ์เครือข่ายของตัวแทนที่มีสติที่ง่ายและซับซ้อนที่ก่อให้เกิดประสบการณ์ที่ใส่ใจในแต่ละอื่น ๆ อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความคิดที่บ้าอย่างที่ดูเหมือนว่าและฉันกำลังสำรวจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

11:47
เรายังต้องการความช่วยเหลือ ด้วยสัญชาตญาณของเรา ทำไมไม่รับรู้ความเป็นจริงมันเป็นประโยชน์ แต่โชคดีที่เรายังมีอุปมาเป็นประโยชน์มาก : เดสก์ทอปอินเตอร์เฟซบนคอมพิวเตอร์ของคุณ พิจารณาไอคอนสีฟ้าสำหรับเท็ดพูดที่คุณกำลังเขียน ตอนนี้ไอคอนสีฟ้าและสี่เหลี่ยม และในมุมขวาล่างของเดสก์ทอปหมายความว่าแฟ้มข้อความตัวเองในคอมพิวเตอร์เป็นสีฟ้าสี่เหลี่ยม และในมุมขวาล่างของคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่แน่นอน ใครที่คิดว่า misinterprets วัตถุประสงค์ของอินเตอร์เฟซ มันไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อแสดงความเป็นจริงของคอมพิวเตอร์ ในความเป็นจริง ก็มีการปกปิดความจริงคุณไม่ต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับไดโอดและตัวต้านทานและทั้งหมดเมกะไบต์ของซอฟต์แวร์ ถ้าคุณต้องจัดการกับมัน คุณไม่สามารถเขียนแฟ้มข้อความของคุณหรือแก้ไขภาพถ่ายของคุณ ดังนั้น ความคิดคือว่าวิวัฒนาการได้ให้อินเตอร์เฟซที่ซ่อนความจริงและคู่มือการปรับพฤติกรรม พื้นที่และเวลาอย่างที่คุณรู้สึกได้ในตอนนี้ เป็นเดสก์ทอปของคุณ วัตถุทางกายภาพเป็นเพียงไอคอนที่เดสก์ทอป .
13:03
มีโจทย์ชัดเจน ฮอฟแมน , ถ้าคุณคิดว่ารถไฟจะมาลงแทร็คที่ 200 mph เป็นไอคอนของเดสก์ทอปของคุณ ทำไมคุณไม่เหยียบหน้ามัน และหลังจากที่คุณจากไป และทฤษฎีของคุณกับคุณ เราจะรู้ว่า มันมีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าแค่รถไฟไอคอน อืมผมจะไม่ขั้นตอนในด้านหน้าของรถไฟสำหรับเหตุผลเดียวกันกับที่ฉันไม่เผลอลากที่ไอคอนถังขยะ : ไม่ได้เพราะผมใช้ไอคอนตัวอักษร -- ไฟล์ไม่ได้เป็นอักษรสีฟ้าหรือสี่เหลี่ยม แต่ผมใช้มันอย่างจริงจัง ฉันอาจสูญเสียสัปดาห์ของการทำงาน ในทำนองเดียวกัน วิวัฒนาการ มีรูปเราด้วยสัญลักษณ์ภาพที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ เราน่าจะพาพวกเขาอย่างจริงจังถ้าคุณเห็นงู อย่าหยิบมันขึ้นมา ถ้าคุณเห็นหน้าผา ไม่กระโดดออก พวกเขาได้รับการออกแบบเพื่อให้เราปลอดภัย และเราต้องใช้พวกเขาอย่างจริงจัง นั่นไม่ได้หมายความว่าเราควรจะใช้พวกเขาอย่างแท้จริง นั่นเป็นข้อผิดพลาดทางตรรกะ 14:02

อีกเรื่องนึง : มีอะไรใหม่จริงๆที่นี่