ประวัติศาสตร์ชื่อของเมืองนั้น มาจาก

ประวัติศาสตร์
ชื่อของเมืองนั้น มาจากภาษาไอนุ ภาษาของคนพื้นเมืองของฮกไกโดที่ว่า "ฟุระ-นุอิ" ซึ่งมีความหมายว่า "เปลวไฟที่เหม็น" หรือ "แหล่งที่เหม็น" ซึ่งสันนิษฐานว่า อาจเพราะเดิมในหุบเขานี้ มีกลิ่นเหม็นจากกำมะถันจากยอดภูเขาไฟโทะกะชิ

ในปี ค.ศ. 1897 กลุ่มคนจากจังหวัดมิเอะได้มาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณนี้ (ในปัจจุบันคือพื้นที่โอะงิยะมะของเมือง) และหมู่บ้านฟุระโนะก็ถูกจัดตั้งขึ้น ต่อมาในปี 1899 ก็ถูกย้ายจากเดิมสังกัดมณฑลโซะระชิไปสังกัดมณฑลคะมิกะวะ ศาลาว่าการเมืองก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากการที่มีเส้นทางรถไฟไปยังอะซะฮิกะวะ เมืองใหญ่อันดับสองในฮกไกโด ในปี 1900

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติศาสตร์ชื่อของเมืองนั้นมาจากภาษาไอนุภาษาของคนพื้นเมืองของฮกไกโดที่ว่า "ฟุระนุอิ" ซึ่งมีความหมายว่า "เปลวไฟที่เหม็น" หรือ "แหล่งที่เหม็น" ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเพราะเดิมในหุบเขานี้มีกลิ่นเหม็นจากกำมะถันจากยอดภูเขาไฟโทะกะชิในปีค.ศ. 1897 กลุ่มคนจากจังหวัดมิเอะได้มาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณนี้ (ในปัจจุบันคือพื้นที่โอะงิยะมะของเมือง) และหมู่บ้านฟุระโนะก็ถูกจัดตั้งขึ้นต่อมาในปีย่านก็ถูกย้ายจากเดิมสังกัดมณฑลโซะระชิไปสังกัดมณฑลคะมิกะวะศาลาว่าการเมืองก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการภายหลังจากการที่มีเส้นทางรถไฟไปยังอะซะฮิกะวะเมืองใหญ่อันดับสองในฮกไกโดในปี 1900

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์ชื่อของเมืองนั้นมาจากเนชั่ภาษาไอนุภาษาของคนพื้นเมืองของฮกไกโดที่ว่าได้ "ฟุระ - นุอิ" ซึ่งมีความหมายว่า "เปลวไฟที่เหม็น" หรือ "แหล่งที่เหม็น" ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเพราะ เดิมในหุบเขานี้ ค.ศ. 1897 ต่อมาในปี 1899 เมืองใหญ่อันดับสองในฮกไกโดในปี 1900

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติศาสตร์
ชื่อของเมืองนั้นมาจากภาษาไอนุภาษาของคนพื้นเมืองของฮกไกโดที่ว่า " ฟุระ - นุอิ " ซึ่งมีความหมายว่า " เปลวไฟที่เหม็น " ค็อค " แหล่งที่เหม็น " ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเพราะเดิมในหุบเขานี้
สามารถค . ศ .1 กลุ่มคนจากจังหวัดมิเอะได้มาตั้งรกรากอยู่ในบริเวณนี้ ( ในปัจจุบันคือพื้นที่โอะงิยะมะของเมือง ) และหมู่บ้านฟุระโนะก็ถูกจัดตั้งขึ้นก็ถูกย้ายจากเดิมสังกัดมณฑลโซะระชิไปสังกัดมณฑลคะมิกะวะต่อมาในปี 1899ภายหลังจากการที่มีเส้นทางรถไฟไปยังอะซะฮิกะวะเมืองใหญ่อันดับสองในฮกไกโดสามารถ 1900