Paraguay overthrew the local Spanis

Paraguay overthrew the local Spanish administration on 14 May 1811. Paraguay’s first ruler was the dictator José Gaspar Rodríguez de Francia. He ruled Paraguay from 1814 until his death in 1840, with very little outside contact or influence. He intended to create a utopian society based on the French theorist Jean-Jacques Rousseau's Social Contract.[9] Rodríguez de Francia established new laws that reduced the powers of the church (Catholicism was then an established state religion) and the cabinet, forbade colonial citizens from marrying one another and allowed them to marry only blacks, mulattoes or natives, to create a mixed-race or mestizo society.[10] He cut off relations between Paraguay and the rest of South America. Because of De Francia’s restrictions on personal freedom, Fulgencio Yegros and several other military leaders and former politicians, planned a coup d’état against him. De Francia discovered the plot and had its leaders either executed or imprisoned for life.

After De Francia's death in 1840, Paraguay was ruled by various military officers under a new junta, until the secretary Carlos Antonio López, De Francia’s nephew, declared himself dictator. López modernized Paraguay and opened it up to foreign commerce. He developed a non-aggression pact with Argentina and declared independence from the state[clarification needed] in 1842. After López’s death in 1862, power was transferred to his eldest son, Francisco Solano López.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปารากวัยรุ่นสเปนองค์การบริหารบน 14 1811 may ไม้บรรทัดแรกของปารากวัยเป็นเผด็จการเพียง José Gaspar Rodríguez เดอ เขาปกครองประเทศปารากวัยจาก 1814 จนตายใน 1840 กับผู้ติดต่อภายนอกหรือมีอิทธิพลน้อยมาก เขาตั้งใจสร้างสังคมกล่าวตามฝรั่งเศส theorist Jean Jacques Rousseau ของสัญญาประชาคม [9] Rodríguez เดเพียงก่อตั้งกฎหมายใหม่ที่ลดอำนาจของคริสตจักร (คาทอลิกถูกแล้วศาสนาเป็นรัฐที่ก่อตั้ง) และคณะรัฐมนตรี ข้อประชาชนโคโลเนียลจากแต่งกัน และได้รับอนุญาตให้แต่งงานกับดำเท่านั้น mulattoes หรือชาวพื้น เมือง การสร้างสังคม mestizo หรือแข่งขันผสม [10] เขาตัดความสัมพันธ์ระหว่างส่วนเหลือของอเมริกาใต้และปารากวัย เนื่องจากเดเพียงข้อจำกัดเสรีภาพส่วนบุคคล Fulgencio Yegros และหลายอื่น ๆ ทหาร และนักการเมืองอดีต แผนการประหารเขา เดอเพียงค้นพบพล็อต และมีผู้นำการดำเนินการ หรือจำคุกเป็นเวลาชีวิตหลังความตายของเดอเพียงใน 1840 ปารากวัยถูกปกครอง โดยเจ้าหน้าที่ทหารต่าง ๆ ภายใต้ยึดใหม่ จนกระทั่งเลขานุการ Carlos Antonio López เดเพียงหลาน ประกาศเองเผด็จการ López ปารากวัยที่ทันสมัย และเปิดขึ้นเพื่อการค้าต่างประเทศ เขาพัฒนาเป็นสนธิสัญญาไม่รุกรานกับประเทศอาร์เจนตินา และประกาศเป็นอิสระจากรัฐ [ชี้แจงที่จำเป็น] 1842 หลังความตายของ López ใน 1862 พลังงานถูกถ่ายโอนไปเขาอ้าย Francisco López โซลาโน่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปารากวัยล้มล้างการปกครองส่วนท้องถิ่นสเปนวันที่ 14 พฤษภาคม 1811 ผู้ปกครองปารากวัยครั้งแรกของเผด็จการJosé Gaspar Rodríguezเดอแฟรง เขาปกครองปารากวัยจาก 1814 จนตายในปี 1840 ที่มีการติดต่อภายนอกน้อยมากหรือมีอิทธิพล เขาตั้งใจจะสร้างสังคมยูโทเปียอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีฝรั่งเศส Jean-Jacques Rousseau ของสัญญาทางสังคม. [9] Rodríguezเดอแฟรงที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายใหม่ที่ลดอำนาจของคริสตจักร (ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นแล้วศาสนาประจำชาติที่จัดตั้งขึ้น) และคณะรัฐมนตรีที่ห้ามไม่ให้โคโลเนียล ประชาชนจากการแต่งงานกับอีกคนหนึ่งและได้รับอนุญาตให้แต่งงานกับคนผิวดำเท่านั้นมูแลตโตหรือชาวบ้านเพื่อสร้างการแข่งขันผสมหรือสังคมลูกครึ่ง. [10] เขาตัดความสัมพันธ์ระหว่างปารากวัยและส่วนที่เหลือของทวีปอเมริกาใต้ เนื่องจากข้อ จำกัด ของ De Francia ของเสรีภาพส่วนบุคคล Fulgencio Yegros และผู้นำทางทหารอื่น ๆ อีกหลายและนักการเมืองอดีตวางแผนรัฐประหารกับเขา De Francia ค้นพบพล็อตและมีผู้นำดำเนินการหรือทั้งจำคุกสำหรับชีวิต. หลังจากการตายของเดอแฟรงใน 1840 ปารากวัยถูกปกครองโดยทหารต่าง ๆ ภายใต้รัฐบาลใหม่จนกว่าเลขานุการคาร์ลออันโตนิโอโลเปซ, หลานชายของเดอแฟรงของตัวเองประกาศเผด็จการ Lópezทันสมัยปารากวัยและเปิดมันขึ้นอยู่กับการค้าต่างประเทศ เขาพัฒนาข้อตกลงไม่รุกรานกับอาร์เจนตินาและประกาศเอกราชจากรัฐ [ชี้แจงจำเป็น] ใน 1842 หลังจากการตายของโลเปซในปี 1862 พลังงานถูกย้ายไปที่ลูกชายคนโตของเขาฟรานซิสโซลาโนLópez

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปารากวัยสเปนคว่ำการบริหารท้องถิ่น เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1811 . ไม้บรรทัดแรก ปารากวัย เป็นเผด็จการโฮเซลุยส์โรดรีเกซแกสเปอร์ มาร์ติน เดอ ฟรานเซีย เขาปกครองจากปารากวัย 1814 จนกว่าจะตายของเขาใน 1 , 840 , น้อยมากนอกจากติดต่อหรืออิทธิพล เขาตั้งใจที่จะสร้างสังคมในอุดมคติ ตามทฤษฎีของ Jean Jacques Rousseau สังคมฝรั่งเศส สัญญา[ 9 ] ลุยส์โรดรีเกซ มาร์ตินเดอฝรั่งเศสก่อตั้งกฎหมายใหม่ที่ลดอำนาจของโบสถ์คาทอลิกเป็นศาสนาก่อตั้งรัฐ ) และคณะรัฐมนตรี ห้ามประชาชนในอาณานิคมจากแต่งงานกับอีกคนหนึ่งและอนุญาตให้พวกเขาที่จะแต่งงานกับคนดำ mulattoes หรือชาวพื้นเมืองที่จะสร้างการแข่งขันผสม หรือ เลือดผสมสังคม [ 10 ] เขาตัด ตัดความสัมพันธ์ระหว่างปารากวัย และส่วนที่เหลือของอเมริกาใต้เนื่องจากข้อ จำกัด เดอ ฟรานเซีย ในเสรีภาพส่วนบุคคล fulgencio yegros และผู้นำทหารหลายอื่น ๆ และอดีตนักการเมือง วางแผนรัฐประหารต่อต้านเขา เดอ ฟรานเซียค้นพบพล็อต และมีผู้นำให้ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

หลังจากเดอ ฟรานเซีย ตายใน 1840 , ปารากวัยถูกปกครองโดยเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ทหารภายใต้รัฐบาลใหม่จนเลขาคาร์ลอสอันโตนิโอ โลเปซ เดอ ฟรานเซีย เป็นหลาน และประกาศตนเป็นเผด็จการ โลเปซที่ทันสมัยและปารากวัยได้เปิดขึ้นเพื่อการค้าต่างประเทศ เขาพัฒนาไม่ก้าวร้าวกับข้อตกลงและอาร์เจนตินาประกาศเอกราชจากรัฐ [ ชี้แจงจำเป็น ] ใน 1842 . หลังจาก โลเปซ ตายใน 1862 , พลังงานถูกย้ายไปที่ลูกชายคนโตของเขาที่ซานฟรานซิสโกโซลาโน โลเปซ .