“I don’t know, but I’m sure it’s so

“I don’t know, but I’m sure it’s something we shouldn’t have disturbed,” said Su Jin as he ran back up the tunnel. He meant what he said: he could sense that whatever was in there was extremely dangerous. If he had a team like Team Wind and Rain, he might stand a chance. Otherwise, he was definitely doomed.The minute he finished saying that, he could hear something chasing after them. Thankfully, they had arrived at the entrance of the tunnel. Once he leaped out, he said to Kevin and Thomas, “Seal this entrance as quickly as you can!”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

“ฉันไม่รู้ แต่ฉันแน่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่ควรรบกวน” ซูจินพูดขณะวิ่งกลับเข้าไปในอุโมงค์ เขาหมายถึงสิ่งที่เขาพูด: เขาสัมผัสได้ว่าสิ่งใดก็ตามที่อยู่ในนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเขามีทีมอย่าง Team Wind และ Rain เขาอาจจะมีโอกาส มิฉะนั้นเขาจะต้องถึงวาระอย่างแน่นอน นาทีที่เขาพูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างไล่ตามพวกเขา โชคดีที่พวกเขามาถึงทางเข้าอุโมงค์แล้ว เมื่อเขากระโดดออกมา เขาก็พูดกับเควินและโธมัสว่า “ปิดทางเข้านี้ให้เร็วที่สุด!”

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ผมไม่รู้ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่เราไม่ควรรบกวน" ซูจินกล่าวขณะวิ่งกลับไปที่อุโมงค์ สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง เขารู้สึกได้ว่าทุกอย่างในนั้นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าเขามีทีมอย่างทีมลมและฝนเขาอาจจะยังมีโอกาส ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกลิขิตให้ล้มเหลว
เขาเพิ่งพูดเสร็จก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างไล่ตาม ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขามาถึงทางเข้าอุโมงค์แล้ว ทันทีที่เขากระโดดออกมา เขาพูดกับเควินและโทมัสว่า "ปิดทางเข้านี้โดยเร็วที่สุด!"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

"ฉันไม่รู้แต่ฉันแน่ใจว่านี่เป็นสิ่งที่เราไม่ควรรบกวน"ซูจินกล่าวขณะที่วิ่งกลับไปที่อุโมงค์ เขาพูดว่า:เขารู้สึกว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นเป็นอันตรายมาก ถ้าเขามีทีมอย่าง the storm, เขาอาจจะมีโอกาส. มิฉะนั้นเขาถึงวาระที่จะล้มเหลว

เขาเสร็จสิ้นการพูดผมได้ยินบางสิ่งบางอย่างไล่ล่าพวกเขา ขอบคุณพระเจ้า พวกเขาได้มาถึงทางเข้าอุโมงค์แล้ว. ทันทีที่เขากระโดดออกมาเขาก็บอกกับเควินและโทมัสว่า"ปิดผนึกทางเข้านี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้"