ecent research indicates that the g

ecent research indicates that the green pigment known as atacamite, which was found in samples dating as far back as the end of the 12th dynasty, is likely a degradation product of artificial copper pigments. It appears that green pigments were not commonly used before the New Kingdom. The discolouration of pigments, including red, is attributed to the interaction of salts with the pigment components, catalyzing deterioration. The red pigment has suffered significant fragility and stability issues, with cracks and loss of cohesion, some of which can be attributed to cracks in the underlying limestone support.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่าเม็ดสีเขียวที่เรียกว่าอะตาคาไมต์ ซึ่งพบในตัวอย่างย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายราชวงศ์ที่ 12 น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายของเม็ดสีทองแดงเทียม ปรากฏว่าเม็ดสีเขียวไม่ได้ใช้กันทั่วไปก่อนอาณาจักรใหม่ การเปลี่ยนสีของเม็ดสี รวมถึงสีแดง มีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาของเกลือกับส่วนประกอบของเม็ดสี ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเสื่อมสภาพ เม็ดสีแดงประสบปัญหาความเปราะบางและความเสถียรอย่างมาก โดยมีรอยแตกร้าวและสูญเสียการยึดเกาะกัน ซึ่งบางส่วนอาจเกิดจากการแตกร้าวในส่วนรองรับหินปูนที่อยู่เบื้องล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเม็ดสีเขียวที่เรียกว่า atacamite ถูกค้นพบในตัวอย่างตั้งแต่ปลายราชวงศ์ 12 ซึ่งน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายของเม็ดทองแดงเทียม ดูเหมือนว่าเม็ดสีเขียวจะไม่นิยมใช้กันมาก่อนอาณาจักรใหม่ การเปลี่ยนสีของเม็ดสีรวมถึงสีแดงเป็นผลมาจากการปฏิสัมพันธ์ของเกลือกับส่วนประกอบของเม็ดสีตัวเร่งปฏิกิริยาการเสื่อมสภาพ เม็ดสีแดงประสบปัญหาความเปราะบางและความมั่นคงอย่างรุนแรงมีรอยแตกและการสูญเสียแรงยึดเกาะซึ่งบางส่วนสามารถนำมาประกอบกับรอยแตกในการสนับสนุนหินปูนชั้นล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาเมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่าสีเขียวที่เรียกว่าทองแดงสีเขียวที่พบในตัวอย่างในช่วงปลายราชวงศ์ที่12มีแนวโน้มที่จะเป็นผลิตภัณฑ์ย่อยสลายของเม็ดสีทองแดงที่มนุษย์สร้างขึ้น ดูเหมือนว่าสีเขียวไม่ได้ใช้กันบ่อยก่อนอาณาจักรใหม่ การเปลี่ยนสีของเม็ดสีรวมทั้งสีแดงเป็นผลมาจากการปฏิสัมพันธ์ของเกลือและส่วนประกอบของเม็ดสีและการเสื่อมสภาพของตัวเร่งปฏิกิริยา สีแดงได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาความเปราะบางและเสถียรภาพอย่างรุนแรงมีรอยแตกและการสูญเสียความสามัคคีซึ่งบางส่วนอาจเป็นผลมาจากรอยแตกในการรองรับหินปูนด้านล่าง