My experience is limited to waterfa

My experience is limited to waterfall, but I have certainly heard of agile. I have not given the SLDC much thought. Do you have any suggestions?”
BA: “I recommend that you schedule a vision and scope meeting3 after the kick-off. I can help you facilitate4 that meeting. The purpose of the meeting is to describe what the software product will look like via brainstorming5 and set a boundary for the project,essentially, what we will do and not do on the project. Our deliverable will be an initial list of prioritized software features. I suggest we use a technique called “user stories6” to document these features. From this information, characteristics of the project team and what we learn about the stakeholders, we can determine the appropriate SDLC.”
PM: “Aren’t user stories an agile technique? Doesn’t this mean we will use the agile approach?”
BA: “Not necessarily. Regardless of the SDLC, we need to define the vision and scope and user stories are just a good way of writing the software features.”
PM: “OK, I follow you. I was going to have a planning meeting with the team members after the kick-off. But, perhaps the vision and scope meeting should go first.”
BA: “I agree. After the vision and scope meeting, I suggest two planning meetings: one for the entire project and one for the analysis. The result of the analysis meeting is the Requirements Work Plan (RWP)7.”
PM: “What goes into the RWP?”
BA: “Well, it depends on the SDLC. Let’s say this project uses a waterfall SDLC. Together with my analysis team, we will build a Work Breakdown Structure (WBS)8 of all the analysis tasks from identifying and interviewing stakeholders to modeling the AS-IS and TO-BE9 business environment. The deliverable is a Business Requirement Document (BRD)10 signed by the project sponsor. From the approved BRD, the IT system experts translate the business requirements into technical specifications, which programmers later transform into software code and finally test.

If this project uses an agile approach, we still need to plan, but it takes a form of releases and iterations. There is no BRD; in fact, there is minimal documentation. In this case, I will work with the stakeholders and project team together to elicit the software requirements using the user stories as the basis. As we elicit the requirements, the project team writes and tests the software code directly.”
PM: “Which is the better SDLC approach?”
BA: “Actually the question is, which SDLC is best for this project? As I said, the SDLC is determined after the vision and scope meeting.”
The best SDLC is the one that matches the characteristics of the project, the stakeholders, and the project team.
PM: “OK, I get it. The SDLC depends on the characteristics of the project, the stakeholders, and the project team. By the way, I am very familiar with the WBS tool; I can help you with your planning effort assuming the waterfall approach.”
BA: ”That would be great.”
PM: “Are there other tools and/or techniques that you will use?”
BA: “There are several techniques and best practices. Besides expanding the user stories into detailed use cases11, I will be developing various models12 to represent business data, rules, and processes. The important thing is that we produce documents that the team members can use throughout the project. Our goal, of course, is to realize the benefits of a working product.”

Documentation is not the end goal, the benefits of a working product is.
“For instance, use cases will be our basis for writing test cases and, in fact, will facilitate developing our test plan prior to coding the software. This is an extreme programming technique called test driven development13.”
PM: “This conversation has really helped me understand what to expect during the analysis phase. I definitely want to participate in your WBS and integrate your RWP into the project plan.

Let’s look over our schedules and set dates for the kick-off and the vision and scope meeting. After these meetings, we can decide on the appropriate SDLC together.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสบการณ์ของฉันถูกจำกัดไปน้ำตก แต่ผมเคยได้ยินของเปรียวแน่นอน นอกจากนี้ผมไม่ได้ให้ SLDC คิดมาก คุณมีคำแนะนำใด ๆ " BA: "ผมแนะนำให้ คุณตั้งเวลา meeting3 มีขอบเขตและวิสัยทัศน์หลังจากเตะปิด ฉันสามารถช่วยให้คุณ facilitate4 ที่ประชุม วัตถุประสงค์ของการประชุมคือการ อธิบายอะไรดูเหมือนผ่าน brainstorming5 ของผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ และตั้งค่าขอบสำหรับโครงการ หลัก สิ่งที่เราจะทำ และไม่ทำในโครงการ ของเราผลที่ได้จะเป็นรายการเริ่มต้นของคุณสมบัติของซอฟต์แวร์ที่สำคัญ ผมแนะนำเราใช้เทคนิคที่เรียกว่า "ผู้ใช้ stories6" เอกสารคุณลักษณะเหล่านี้ จากข้อมูลนี้ ลักษณะของทีมโครงการและเรียนรู้เกี่ยวกับผู้ถือหุ้น เราสามารถกำหนด SDLC ที่เหมาะสม" น.: "ไม่ได้ผู้ใช้เรื่องราวเทคนิคการคล่องตัว ไม่ได้หมายความว่านี้เราจะใช้วิธีการ agile ? " BA: "ไม่จำเป็น โดยไม่คำนึงถึง SDLC เราจำเป็นต้องกำหนดขอบเขตและวิสัยทัศน์ และเรื่องเล่าดีของการเขียนโปรแกรม" PM: OK ฉันทำตามที่คุณ ผมกำลังจะมีการประชุมวางแผนกับสมาชิกในทีมหลังจากเตะออก แต่ บางทีวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุมควรไปก่อน" BA: "ฉันยอมรับ หลังจากวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุม แนะนำการประชุมวางแผนสอง: หนึ่งสำหรับโครงการทั้งหมดและหนึ่งสำหรับการวิเคราะห์ ผลการประชุมวิเคราะห์จะต้องทำแผน 7 (RWP)" น.: "อะไรไป RWP" BA: "ดี SDLC อยู่ สมมติว่า โครงการนี้ใช้ SDLC เป็นน้ำตก ร่วมกับทีมงานวิเคราะห์ของฉัน เราจะสร้างการทำงานแบ่งโครงสร้าง (WBS) 8 งานวิเคราะห์ทั้งหมดจากการระบุ และเสียการสร้างแบบจำลองตามการสัมภาษณ์-เป็น BE9 ถึงธุรกิจสิ่งแวดล้อม ผลธุรกิจการกำหนดเอกสาร (BRD) 10 ลงนาม โดยผู้สนับสนุนโครงการได้ จาก BRD อนุมัติ ผู้เชี่ยวชาญระบบ IT แปลความต้องการของธุรกิจในด้านเทคนิค ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็นรหัสซอฟต์แวร์โปรแกรมเมอร์ และทดสอบในที่สุดถ้าโครงการนี้ใช้วิธีการ agile เราต้องมีการวางแผน แต่จะใช้รูปแบบของการประชาสัมพันธ์และการวนซ้ำ มี BRD ไม่ ในความเป็นจริง มีเอกสารน้อย ในกรณีนี้ ผมจะทำงานกับเสียและทีมโครงการร่วมกันสร้างความข้อกำหนดของซอฟต์แวร์ที่ใช้เรื่องราวที่ผู้ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน ขณะที่เราล้วงเอาความต้องการ ทีมโครงการเขียน และทดสอบซอฟต์แวร์รหัสโดยตรง" PM: "ซึ่งเป็นวิธีการ SDLC ดี" BA: "จริง ๆ แล้วคำถามคือ ซึ่ง SDLC เป็นที่ดีที่สุดสำหรับโครงการนี้ กล่าว SDLC จะระบุหลังจากวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุมSDLC ที่ดีที่สุดคือตรงกับลักษณะของโครงการ บริหาร และทีมงานโครงการ PM: OK ฉันได้รับมัน SDLC ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ บริหาร และทีมงานโครงการ โดยวิธีการที่ ที่ผมคุ้นเคยกับเครื่องมือ WBS ฉันสามารถช่วยคุณ ด้วยความพยายามของคุณวางสมมติแนวน้ำตก" BA: "ที่จะดี" PM: มีเครื่องมือหรือเทคนิคที่คุณจะใช้อื่น ๆ " BA: "มีหลายเทคนิคและแนวทางปฏิบัติ นอกจากขยายเรื่องราวผู้ใช้ลงในรายละเอียดการใช้ cases11 ฉันจะพัฒนา models12 ต่าง ๆ ในการแสดงข้อมูลธุรกิจ กฎ และกระบวนการ สิ่งที่สำคัญคือ ว่า เราผลิตเอกสารที่สมาชิกทีมงานสามารถใช้ทั่วทั้งโครงการ เป้าหมายของเรา แน่นอน ได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการทำงานของผลิตภัณฑ์"เอกสารไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย ประโยชน์ของการทำงานของผลิตภัณฑ์"เช่น กรณีการใช้จะเป็นพื้นฐานสำหรับการเขียนกรณีทดสอบเรา และ ในความเป็นจริง จะอำนวยความสะดวกพัฒนาแผนของเราทดสอบก่อนเข้ารหัสซอฟต์แวร์ นี่คือเทคนิคการเขียนโปรแกรมมากที่เรียกว่าการทดสอบขับ development13" น.: "บทสนทนานี้ได้จริง ๆ ช่วยฉันเข้าใจสิ่งที่คาดหวังในระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์ แน่นอนอยากจะเข้าร่วมใน WBS ของคุณ และรวม RWP ของคุณลงในแผนโครงการลองดูตารางเวลาของเรา และตั้งค่าวันที่สำหรับการเขี่ย และวิสัยทัศน์ และขอบเขตการประชุม หลังการประชุมเหล่านี้ เราสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับ SDLC ที่เหมาะสมร่วมกัน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสบการณ์ของฉันถูก จำกัด ไว้ที่น้ำตก แต่ผมเคยได้ยินแน่นอนของเปรียว ฉันยังไม่ได้ให้ความคิดที่มาก SLDC คุณมีข้อเสนอแนะใด ๆ "?
BA:" ผมขอแนะนำให้คุณจัดตารางเวลาวิสัยทัศน์และขอบเขต meeting3 หลังจากที่เตะออก ผมสามารถช่วยคุณ facilitate4 การประชุมที่ วัตถุประสงค์ของการประชุมคือการอธิบายสิ่งที่ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์จะมีลักษณะเช่นผ่าน brainstorming5 และกำหนดขอบเขตของโครงการเป็นหลักสิ่งที่เราจะทำและไม่ทำในโครงการ ส่งมอบของเราจะเป็นรายการแรกของคุณสมบัติของซอฟต์แวร์จัดลำดับความสำคัญ ผมขอแนะนำให้เราใช้เทคนิคที่เรียกว่า "stories6 ผู้ใช้" เพื่อจัดทำเอกสารคุณสมบัติเหล่านี้ จากข้อมูลนี้ลักษณะของทีมงานโครงการและสิ่งที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับผู้มีส่วนได้เสียที่เราสามารถตรวจสอบที่เหมาะสม SDLC ".
AM:" ไม่ได้เรื่องที่ผู้ใช้เทคนิคเปรียว? ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้วิธีการเปรียว "?
BA:" ไม่จำเป็นต้อง โดยไม่คำนึงถึง SDLC เราจำเป็นต้องกำหนดวิสัยทัศน์และขอบเขตและผู้ใช้เรื่องนี้เป็นเพียงวิธีที่ดีของการเขียนคุณลักษณะซอฟต์แวร์ ".
AM:" ตกลงฉันทำตามที่คุณ ฉันกำลังจะมีการประชุมวางแผนกับสมาชิกในทีมหลังจากที่เตะออก แต่บางทีอาจจะเป็นวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุมควรจะไปครั้งแรก ".
บริติชแอร์เวย์:" ผมเห็นด้วย หลังจากที่มีวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุมผมขอแนะนำให้ทั้งสองวางแผนการประชุมหนึ่งสำหรับโครงการทั้งหมดและเป็นหนึ่งในการวิเคราะห์ ผลการประชุมการวิเคราะห์ที่เป็นความต้องการของการทำงานแผน (RWP) 7 ".
AM:" สิ่งที่จะเข้าสู่ RWP "?
BA:" ดีก็ขึ้นอยู่กับ SDLC สมมติว่าโครงการนี้ใช้ SDLC น้ำตก ร่วมกับทีมวิเคราะห์ของเราจะสร้าง Work Breakdown โครงสร้าง (WBS) 8 ของทุกงานการวิเคราะห์จากการระบุและการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้เสียในการสร้างแบบจำลอง AS-IS และสิ่งที่ต้อง BE9 สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ส่งมอบเป็นเอกสารทางธุรกิจที่ต้องการ (BRD) 10 ลงนามโดยสปอนเซอร์โครงการ จาก BRD ได้รับการอนุมัติ, ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไอทีแปลความต้องการทางธุรกิจในข้อกำหนดทางเทคนิคซึ่งโปรแกรมเมอร์ต่อมาเปลี่ยนเป็นรหัสซอฟแวร์และสุดท้ายการทดสอบ.

หากโครงการนี้จะใช้วิธีการเปรียวเรายังคงต้องวางแผน แต่มันจะใช้รูปแบบของการเผยแพร่และ ซ้ำ ไม่มี BRD คือ; ในความเป็นจริงมีเอกสารน้อยที่สุด ในกรณีนี้ผมจะทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียและทีมงานโครงการร่วมกันเพื่อล้วงเอาความต้องการซอฟต์แวร์โดยใช้เรื่องราวของผู้ใช้เป็นพื้นฐาน ในฐานะที่เราล้วงเอาความต้องการของทีมงานโครงการเขียนและการทดสอบซอฟต์แวร์รหัสโดยตรง. "
AM:" ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีกว่า SDLC "?
BA:" จริงๆแล้วคำถามคือซึ่ง SDLC ที่ดีที่สุดสำหรับโครงการนี้หรือไม่ ขณะที่ผมกล่าวว่า SDLC จะถูกกำหนดหลังจากวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุม ".
SDLC ดีที่สุดคือคนที่ตรงกับลักษณะของโครงการที่มีส่วนได้เสียและทีมงานโครงการ.
AM:" ตกลงฉันได้รับมัน SDLC ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการที่ผู้มีส่วนได้เสียและทีมงานโครงการ โดยวิธีการที่ผมคุ้นเคยกับเครื่องมือ WBS; ฉันสามารถช่วยให้คุณมีความพยายามการวางแผนของคุณสมมติว่าวิธีน้ำตก ".
บริติชแอร์เวย์:" ว่าจะดี ".
AM:" มีเครื่องมืออื่น ๆ และ / หรือเทคนิคที่คุณจะใช้ "
บริติชแอร์เวย์:" มีหลายเทคนิคและวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดคือ . นอกจากนี้การขยายเข้าไปในเรื่องที่ผู้ใช้รายละเอียดการใช้งาน cases11 ผมจะพัฒนา models12 ต่างๆเพื่อเป็นตัวแทนของข้อมูลทางธุรกิจกฎและกระบวนการ สิ่งที่สำคัญคือการที่เราผลิตเอกสารที่สมาชิกในทีมสามารถใช้ตลอดทั้งโครงการ เป้าหมายของเราของหลักสูตรคือการตระหนักถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์การทำงาน. "

เอกสารไม่ได้เป็นเป้าหมายท้ายที่สุดผลประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่ทำงานคือ.
" ยกตัวอย่างเช่นกรณีการใช้งานจะเป็นพื้นฐานของเราสำหรับการเขียนกรณีทดสอบและในความเป็นจริง จะอำนวยความสะดวกในการพัฒนาแผนทดสอบของเราก่อนที่จะมีการเข้ารหัสซอฟแวร์ นี่เป็นเทคนิคการเขียนโปรแกรมมากเรียกว่าการทดสอบขับเคลื่อน development13 ".
AM:" การสนทนานี้ได้ช่วยจริงๆฉันเข้าใจสิ่งที่คาดหวังในระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์ แน่นอนผมต้องการที่จะมีส่วนร่วมใน WBS ของคุณและบูรณาการ RWP ของคุณลงในแผนโครงการ.

ลองดูตารางเวลาของเราและกำหนดวันสำหรับเตะออกและวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุม หลังจากการประชุมเหล่านี้เราสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการที่เหมาะสม SDLC กัน. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสบการณ์ของฉันจะถูก จำกัด ไปยังน้ำตก แต่ผมมีแน่นอนได้ยินว่องไว ผมยังไม่ได้รับ sldc เลยครับ คุณมีข้อเสนอแนะใด ๆ ? "บา : " ผมขอแนะนำให้คุณกำหนดวิสัยทัศน์และขอบเขต meeting3 หลังเตะ . ฉันสามารถช่วยให้คุณ facilitate4 ที่ประชุม วัตถุประสงค์ของการประชุมคือการอธิบายว่าผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์จะเหมือนผ่าน brainstorming5 และกำหนดขอบเขตของโครงการเป็นหลัก สิ่งที่เราทำ และไม่ทำในโครงการ ผลผลิตของเราจะรายการเริ่มต้นของการจัดลำดับความสำคัญคุณลักษณะซอฟต์แวร์ ผมแนะนำให้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า " stories6 " ผู้ใช้เอกสารคุณลักษณะเหล่านี้ จากข้อมูลนี้ ลักษณะของทีมงานโครงการและสิ่งที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับผู้มีส่วนได้เสีย เราสามารถหาวิธีที่เหมาะสม .PM : " ไม่ใช้เรื่องเทคนิคเปรียว ? นี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้วิธีเปรียว ? "บา : " ไม่จำเป็น โดยไม่คำนึงถึงวิธีที่เราต้องกำหนดวิสัยทัศน์และขอบเขต และเรื่องที่ผู้ใช้เป็นวิธีที่ดีของการเขียนซอฟต์แวร์คุณลักษณะ .PM : " โอเค ฉันตามคุณไป ฉันกำลังมีประชุมวางแผนร่วมกับสมาชิกในทีม หลังเตะ . แต่บางทีวิสัยทัศน์และขอบเขตการประชุมไปก่อนเถอะ "บา : " ผมเห็นด้วย ตามวิสัยทัศน์และขอบเขตของการประชุม ผมแนะนำสองการวางแผนการประชุมหนึ่งสำหรับโครงการทั้งหมดและหนึ่งสำหรับการวิเคราะห์ ผลของการประชุมในการวิเคราะห์ความต้องการแผนงาน ( rwp ) 7 .PM : " สิ่งที่เข้าไปใน rwp ? "บา : " มันขึ้นอยู่กับงาน สมมติว่าโครงการนี้ใช้ตกงาน ร่วมกับทีมวิเคราะห์ของผม เราจะสร้างโครงสร้างการจัดแบ่งงาน ( WBS ) 8 ของทุกงาน และสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้เสียจากการระบุการวิเคราะห์การสร้างแบบจำลองและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจตามที่เป็น to-be9 . ผลผลิตคือ ความต้องการทางธุรกิจ เอกสาร ( ทิศใต้ ) 10 ลงนามโดยโครงการสนับสนุน จากการอนุมัติพ , ระบบผู้เชี่ยวชาญแปลความต้องการทางธุรกิจเป็นข้อมูลทางเทคนิค ซึ่งโปรแกรมเมอร์ในภายหลังแปลงรหัสซอฟแวร์ และสุดท้าย ทดสอบถ้าโครงการนี้ใช้วิธีการคล่องตัว เราก็ต้องวางแผน แต่จะใช้รูปแบบของการทำซ้ำและเผยแพร่ . ไม่มีพ ในความเป็นจริง มีเอกสารที่น้อยที่สุด ในกรณีนี้ ผมจะทำงานกับผู้มีส่วนได้เสีย และทีมงานโครงการร่วมกันเพื่อกระตุ้นความต้องการใช้ซอฟต์แวร์ผู้ใช้เรื่องราวเป็นหลัก เมื่อเรากระตุ้นความต้องการ ทีมงานโครงการเขียนและทดสอบซอฟต์แวร์รหัสโดยตรง "PM : " ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีของ ? "บา : " ที่จริงแล้ว คำถามคือ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดสำหรับโครงการนี้ อย่างที่ผมบอก หลังจากงานกำหนดวิสัยทัศน์และขอบเขตของการประชุม "โดยวิธีที่ดีที่สุดคือหนึ่งที่ตรงกับลักษณะของโครงการ ผู้มีส่วนได้เสีย และทีมงานโครงการPM : " โอเค ผมเข้าใจแล้ว ส่วนวิธีขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ ผู้มีส่วนได้เสีย และทีมงานโครงการ โดยวิธีการที่ฉันสนิทกับ WBS เครื่องมือที่ฉันสามารถช่วยให้คุณมีความพยายามของคุณวางแผนว่า " น้ำตก )บา : " น่าจะดี " .PM : " มีเทคนิคและ / หรือเครื่องมืออื่น ๆที่คุณจะใช้ ? "บา : " มีหลายเทคนิค และวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด นอกจากการขยายผู้ใช้ cases11 ใช้เรื่องราวในรายละเอียด ผมจะพัฒนาต่าง ๆ models12 เพื่อแสดงข้อมูลธุรกิจ , กฎระเบียบและกระบวนการ สิ่งที่สำคัญคือเราผลิตเอกสารที่สมาชิกในทีมสามารถใช้ตลอดทั้งโครงการ เป้าหมายของเราก็คือ การตระหนักถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์การทำงาน . "เอกสารที่ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย คือ ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์การทำงานเป็น" ยกตัวอย่าง กรณีใช้จะมีพื้นฐานสำหรับการเขียนกรณีทดสอบและในความเป็นจริงจะช่วยพัฒนาแผนการทดสอบของเราก่อนซอฟต์แวร์การเข้ารหัส นี้เป็นสุดยอดเทคนิคการเขียนโปรแกรมที่เรียกว่าการทดสอบขับเคลื่อน development13 ”PM : " การสนทนานี้ได้ช่วยจริงๆฉันได้เข้าใจสิ่งที่คาดหวังในระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์ . แน่นอนฉันต้องการที่จะเข้าร่วมในการตอบกลับของคุณและรวม rwp ของคุณลงในแผนโครงการเรามาดูตารางเวลาของเราและการตั้งค่าวันที่เตะกับวิสัยทัศน์และขอบเขตของการประชุม หลังจากการประชุมเหล่านี้เราสามารถตัดสินใจในงานที่เหมาะสมด้วยกัน "