Jesperson (1910) stated that pronun

Jesperson (1910) stated that pronunciation can be systematically taught as one whole course. This kind of teaching and learning pronunciation class is called a phonetics course. Phonetics is the science of speech sound, their production by means of lips, tongue, palate, and vocal cords, their acoustic qualities, their combination into syllables and other sound groups, and finally quantity, stress and intonation. Students will understand pronunciation process and will be able to correct their own pronunciation.
Thai students, studying English as a foreign language is not easy. Speaking and communication with native speaker will be difficult if there is lack of pronunciation in speaking. Winddowson (1962) has pointed that English is now learn and spoken most frequently to serve international function among second language speakers in international contests. The first language speakers have forfeited the right to dictate standards of pronunciation for using second language. Dalton and Seidhofer (1994) defined that the importance of pronunciation in general terms as the production of significant sound in two senses as follows. First, sound is significant because it is used as part of a code of a particular language. Second, sound is significant because it is used to achieve meaning in context of use the misunderstandings in conversation might happen as a result of wrong pronunciation in English.
One of the most important problems in learning English involves students’ ability to read aloud, which is essential in learning English for communication. Reading aloud or oral reading requires good pronunciation and spelling skills. While reading aloud, students have to use both spelling and pronunciation skills; therefore, spelling and pronunciation are so closely related that they cannot be separated clearly. Students who cannot link spelling and pronunciation are nervous when speaking English in class. If they cannot read out loud, they are also afraid of learning English. There are many reasons in learning English pronunciation. Firstly the students are afraid of making mistakes in front of their instructors and friends. Secondly, some instructors often make instant corrections of grammar and pronunciation, paying less attention to the amount of language a student is attempting to produce. Thirdly, they think, they do not have sufficient vocabulary to express their ideas. Fourthly they think they do not have enough response to real English. Finally, a very important factor has to study with the students’ English pronunciation problems. English pronunciation in class has not always been as successful as other aspects of English.
One of the main important problems in learning English is English pronunciation, which is essential in using communicative English.The researcher would like to earn English pronunciation abilities of EIC students and explore the problems encountered by the EIC students at Faculty of Social Technology, Rajamagala University of Technology IsanKalasin Campus, has found that numerous students use English to communicate with others and they encounter many pronunciation problems. Most of them do not like to read aloud as they are afraid of making mistaken and are not confident enough to do that, and they lack this ability when they are outside the classroom. From what has been discussed. The results of the study will be beneficial to develop teaching strategies for English instructors, which will in turn contribute to students’ improvement of their overall pronunciation

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Jesperson (1910) ระบุว่า การออกเสียงสามารถเป็นระบบสอนเป็นหนึ่งทั้งหมด เรียนการออกเสียงในการเรียน การสอนชนิดนี้เรียกว่าหลักสูตรสัทศาสตร์ สัทศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์พูดเสียง ผลิตของพวกเขาโดยการใช้ริมฝีปาก ลิ้น โหว่ สายเสียง คุณภาพของอะคูสติก ของพวกเขารวมกันเป็นพยางค์ และอื่น ๆ กลุ่มเสียง และในที่สุดปริมาณ ความเครียด และเน้น นักเรียนจะเข้าใจกระบวนการออกเสียง และจะสามารถแก้ไขการออกเสียงของตนเอง นักศึกษาไทย เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศได้ง่าย พูดและสื่อสารกับเจ้าของภาษาจะเป็นเรื่องยากถ้ามีการขาดการออกเสียงในการพูด Winddowson (1962) ได้ชี้ว่า ขณะนี้มีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และพูดส่วนใหญ่มักให้บริการฟังก์ชันสากลระหว่างสองภาษาลำโพงในการแข่งขันนานาชาติ ลำโพงภาษาแรกได้ forfeited ขวาบอกมาตรฐานของการใช้ภาษาที่สอง ดาลตันและ Seidhofer (1994) กำหนดไว้ว่า ความสำคัญของการออกเสียงโดยทั่วไปเงื่อนไขเป็นการผลิตที่สำคัญเสียงในสองความรู้สึกดังนี้ ครั้งแรก เสียงเป็นอย่างมากเนื่องจากใช้เป็นรหัสของภาษาใดภาษาหนึ่ง เสียงที่สอง เป็นสำคัญเนื่องจากเป็นใช้เพื่อให้เกิดความหมายในบริบทของการเกิดความเข้าใจผิดในการสนทนาอาจเกิดขึ้นจากการออกเสียงไม่ถูกต้องในภาษาอังกฤษใช้ ปัญหาสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวข้องกับนักเรียนความสามารถในการอ่านออกเสียง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสาร อ่านออกเสียงหรืออ่านปากต้องทักษะการสะกดและออกเสียงดี ในขณะที่อ่านออกเสียง นักเรียนได้ใช้ทักษะการสะกดและออกเสียง ดังนั้น การสะกดและออกเสียงมีดังนั้นความสัมพันธ์ที่ พวกเขาไม่สามารถแยกออกอย่างชัดเจน นักเรียนที่ไม่สามารถเชื่อมโยงการสะกดและออกเสียงเป็นประสาทเมื่อพูดภาษาอังกฤษในชั้นเรียน ถ้าพวกเขาไม่สามารถอ่านออกเสียงดัง พวกเขาจะยังกลัวการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีสาเหตุหลายประการในการเรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษ ประการแรก นักเรียนจะกลัวทำผิดพลาดหน้าผู้สอนและเพื่อนของพวกเขา ประการที่สอง ผู้สอนบางมักจะทำการแก้ไขทันทีของไวยากรณ์ และการออกเสียง จ่ายความสนใจน้อยในจำนวนภาษานักเรียนพยายามผลิต ประการ คิดว่า พวกเขาไม่มีคำศัพท์เพียงพอในการแสดงความคิด Fourthly พวกเขาคิดว่า พวกเขาไม่ได้ตอบพออังกฤษจริง สุดท้าย ปัจจัยที่สำคัญมากมีการศึกษา มีปัญหาการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียน การออกเสียงภาษาอังกฤษในระดับไม่เสมอแล้วความสำเร็จที่ด้านอื่น ๆ ของภาษาอังกฤษ หนึ่งในปัญหาหลักที่สำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษจะออกเสียงภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ English.The เพื่อนักวิจัยจะต้อง ได้รับความสามารถออกเสียงภาษาอังกฤษของนักศึกษา EIC และสำรวจปัญหาที่พบนักศึกษา EIC ที่คณะเทคโนโลยีสังคม วิทยาเขตมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี Rajamagala IsanKalasin พบว่า นักเรียนจำนวนมากใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารกับผู้อื่น และพวกเขาพบปัญหาการออกเสียงในการ ส่วนใหญ่จะไม่ชอบการอ่านออกเสียงเป็นพวกเขาทำผิดกลัว และไม่มั่นใจพอที่จะทำ และพวกเขาขาดความสามารถนี้เมื่ออยู่นอกห้องเรียน จากที่ได้มีการหารือกัน ผลของการศึกษาจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากลยุทธ์การเรียนการสอนสำหรับผู้สอนภาษาอังกฤษ ซึ่งจะมีส่วนในการพัฒนานักเรียนการออกเสียงโดยรวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Jesperson (1910) ระบุว่าการออกเสียงสามารถสอนอย่างเป็นระบบเป็นหนึ่งในหลักสูตรทั้ง ชนิดของการเรียนการสอนและการเรียนรู้การออกเสียงชั้นนี้เรียกว่าหลักสูตรการออกเสียง สัทศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ของเสียงพูด, การผลิตของพวกเขาด้วยวิธีการของริมฝีปากลิ้นเพดานปากและสายเสียงคุณภาพอะคูสติกของพวกเขารวมกันของพวกเขาในพยางค์และกลุ่มเสียงอื่น ๆ และในที่สุดปริมาณความเครียดและน้ำเสียง นักเรียนจะเข้าใจขั้นตอนการออกเสียงและจะสามารถที่จะออกเสียงที่ถูกต้องของตัวเอง.
นักศึกษาไทยที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย การพูดและการสื่อสารกับเจ้าของภาษาจะเป็นเรื่องยากหากมีการขาดการออกเสียงในการพูด Winddowson (1962) ได้ชี้ให้เห็นว่าภาษาอังกฤษอยู่ในขณะนี้การเรียนรู้และพูดบ่อยที่สุดที่จะให้บริการฟังก์ชั่นต่างประเทศในหมู่ลำโพงภาษาที่สองในการแข่งขันระหว่างประเทศ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรกได้ริบสิทธิที่จะกำหนดมาตรฐานของการออกเสียงในการใช้ภาษาที่สอง ดาลตันและ Seidhofer (1994) ที่กำหนดไว้ว่าความสำคัญของการออกเสียงในข้อตกลงการผลิตของเสียงอย่างมีนัยสำคัญในสองความรู้สึกดังต่อไปนี้ ครั้งแรกที่เสียงเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของรหัสของภาษาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประการที่สองเสียงเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันถูกนำมาใช้เพื่อให้บรรลุความหมายในบริบทของการใช้ความเข้าใจผิดในการสนทนาอาจจะเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการออกเสียงที่ไม่ถูกต้องในภาษาอังกฤษ.
หนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของนักเรียนในการอ่านออกเสียงซึ่งเป็น ที่จำเป็นในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร อ่านออกเสียงหรือการอ่านในช่องปากต้องออกเสียงที่ดีและทักษะการสะกดคำ ในขณะที่อ่านออกเสียงแล้วนักศึกษาจะต้องใช้ทั้งทักษะการสะกดและออกเสียง; ดังนั้นการสะกดคำและการออกเสียงที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อที่พวกเขาไม่สามารถแยกออกจากกันอย่างชัดเจน นักศึกษาที่ไม่สามารถเชื่อมโยงการสะกดและออกเสียงมีประสาทเมื่อพูดภาษาอังกฤษในชั้นเรียน หากพวกเขาไม่สามารถอ่านออกมาดัง ๆ พวกเขายังกลัวของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีหลายเหตุผลในการเรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษ ประการแรกนักเรียนจะกลัวการทำผิดพลาดในด้านหน้าของอาจารย์ของพวกเขาและเพื่อน ๆ ประการที่สองอาจารย์บางคนมักจะทำให้การแก้ไขทันทีของไวยากรณ์และการออกเสียงให้ความสนใจน้อยกับปริมาณของภาษาที่นักเรียนจะพยายามที่จะผลิต ประการที่สามพวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่ได้มีคำศัพท์ที่เพียงพอที่จะแสดงความคิดของพวกเขา ประการที่สี่พวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่ได้มีการตอบสนองมากพอที่จะเป็นภาษาอังกฤษจริง สุดท้ายปัจจัยที่สำคัญมากที่จะศึกษากับนักเรียน 'ปัญหาการออกเสียงภาษาอังกฤษ การออกเสียงภาษาอังกฤษในชั้นเรียนไม่ได้เสมอที่ประสบความสำเร็จเท่าที่ด้านอื่น ๆ ของอังกฤษ.
หนึ่งในปัญหาที่สำคัญหลักในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาการออกเสียงภาษาอังกฤษซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้นักวิจัย English.The สื่อสารต้องการที่จะได้รับความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียน EIC และ สำรวจปัญหาที่พบโดยนักเรียน EIC ณ คณะเทคโนโลยีสังคมราชมงคลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี IsanKalasin วิทยาเขตได้พบว่านักเรียนจำนวนมากที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับคนอื่น ๆ และพวกเขาพบปัญหาการออกเสียงจำนวนมาก ส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่ชอบที่จะอ่านออกเสียงตามที่พวกเขามีความกลัวของการเข้าใจผิดและไม่มั่นใจพอที่จะทำเช่นนั้นและพวกเขาขาดความสามารถนี้เมื่อพวกเขาอยู่นอกห้องเรียน จากสิ่งที่ได้รับการกล่าวถึง ผลการศึกษาจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากลยุทธ์การเรียนการสอนสำหรับผู้สอนภาษาอังกฤษซึ่งจะเปิดในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาของนักเรียนออกเสียงโดยรวมของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

jesperson ( 1910 ) ระบุไว้ว่า การออกเสียง จะรับสอนเป็นคอร์สเลย ชนิดนี้ของการสอนและการเรียนรู้การออกเสียงเรียนเรียกว่าสัทศาสตร์ . สัทศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ของการพูดเสียง , การผลิตของพวกเขาโดยวิธีการของริมฝีปาก ลิ้น เพดานปาก และสายเสียง , คุณภาพเสียงของพวกเขารวมเป็นพยางค์ และกลุ่มอื่น ๆ เสียง และสุดท้าย ปริมาณความเครียดและการออกเสียง นักเรียนจะเข้าใจกระบวนการและการออกเสียงจะออกเสียงที่ถูกต้องของตนเอง นักศึกษา
ภาษาไทย เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย พูดและสื่อสารกับเจ้าของภาษาจะยากหากมีการขาดของการออกเสียงพูดwinddowson ( 1962 ) ได้ชี้ว่าภาษาอังกฤษเรียนรู้และพูดบ่อยที่สุดเพื่อใช้ฟังก์ชันในภาษาสองภาษานานาชาติในการแข่งขันระหว่างประเทศ ผู้พูดภาษาแรกรับสิทธิในการกำหนดมาตรฐานของการออกเสียง การใช้ภาษา 2ดาลตัน และ seidhofer ( 1994 ) นิยามว่า ความสำคัญของการออกเสียงในเรื่องทั่วไป เช่น การผลิตเสียงที่สำคัญสองความรู้สึก ดังนี้ ก่อนเสียงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมันถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของรหัสของภาษาโดยเฉพาะ ประการที่สองเสียง เพราะ มันถูกใช้เพื่อให้บรรลุความหมายในบริบทของการใช้ความเข้าใจในการสนทนาที่อาจเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการออกเสียงผิดในภาษาอังกฤษ .
หนึ่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษกับนักเรียนสามารถอ่านออกเสียงได้ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารการอ่านออกเสียงหรือการอ่านออกเสียงและการสะกดคำที่ดีต้องมีทักษะ ในขณะที่อ่านออกเสียง นักเรียนต้องใช้ทักษะทั้งการสะกดและการออกเสียง ดังนั้น การสะกดคำและการออกเสียงจะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดที่พวกเขาไม่สามารถแยกออกจากกันได้ชัดเจน นักเรียนที่ไม่สามารถเชื่อมโยง การสะกดคำและการออกเสียงจะประหม่าเมื่อพูดภาษาอังกฤษในชั้นเรียน ถ้าพวกเขาไม่สามารถอ่านออกมาดัง ๆพวกเขาจะกลัวของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีสาเหตุหลายประการในการเรียนรู้การออกเสียงภาษาอังกฤษ ก่อนอื่นนักเรียนจะกลัวการผิดพลาดในหน้าของอาจารย์และเพื่อนๆ ประการที่สอง บางอาจารย์มักจะให้ทันทีการแก้ไขไวยากรณ์และการออกเสียง การจ่ายความสนใจน้อยลงปริมาณของภาษา นักเรียนพยายามที่จะผลิต ประการที่สาม พวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่ได้มีคำศัพท์เพียงพอที่จะแสดงความคิดของพวกเขา และพวกเขาคิดว่า พวกเขาไม่ได้มีคำตอบเพียงพอภาษาอังกฤษที่แท้จริง ในที่สุด ปัจจัยที่สำคัญมาก ได้ศึกษากับปัญหาการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียน . การออกเสียงภาษาอังกฤษในชั้นเรียนไม่ได้เสมอที่ประสบความสำเร็จเป็นด้านอื่น ๆของภาษาอังกฤษ
หนึ่งในปัญหาสำคัญหลักในการเรียนภาษาอังกฤษคือการออกเสียงภาษาอังกฤษ ซึ่งจำเป็นในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ผู้วิจัยต้องการที่จะได้รับความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักเรียนโดยและสำรวจปัญหาโดย EIC นักศึกษา คณะเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัย วิทยาเขต isankalasin เทคเทคโนโลยีพบว่ามีนักเรียนมากมายที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับคนอื่น ๆและพวกเขาพบปัญหาในการออกเสียงมาก ส่วนใหญ่ของพวกเขาไม่ชอบอ่านออกเสียงตามที่พวกเขาจะกลัวการเข้าใจผิด และไม่มั่นใจพอที่จะทำอย่างนั้น พวกเขาไม่มีความสามารถนี้เมื่อพวกเขาอยู่นอกห้องเรียน จากที่ได้กล่าวถึงผลการศึกษาจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากลยุทธ์การสอนสำหรับอาจารย์ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนพัฒนา
การออกเสียงของพวกเขาโดยรวม