Wear scars generated in the plates

Wear scars generated in the plates of the tribological cell and
the corresponding average diameter are shown in Table 3 for
selected lubricating grease samples and conditions. As can be
concluded from the images, wear mechanism is predominantly
abrasive. As expected, the stronger normal load is applied, the
wider wear scar is, as can be seen in the bar diagram in Fig. 8,
which summarizes the evolution of the scar size with the normal
load, at 25 and 125 °C. However, temperature and normal load do
not exert a significant influence when using the lithium grease as
lubricant. Sample CP provide values of the average wear scar
diameter comparable to those found with the commercial greases,
excepting for the highest normal load applied, and generally lower
at high temperature (Fig. 8). In the particular cases of MC and CH,
no wear evidence in the plates was observed, excepting for 20 and
40 N at 125 °C, being especially wide for MC.
Fig. 9 displays the average wear mark diameters obtained from
the steel plates of the tribological cell after performing tests at
0.15, 10 and 400 rpm under 20 N at 25 and 125 °C, respectively. As
can be observed, the increase in wear diameter with the rotational
velocity is the predominant tendency, at both temperatures. Once
again, the samples based on methylcellulose (MC) and chitin (CH)
only provide appreciable wear scars under specific conditions. At
25 °C, steel plates only evidence wear scars at 400 rpm when using
MC sample as lubricant, whereas rather large scar diameters can
be observed at 125 °C under 10 and 400 rpm conditions. In the
case of CH, significant wear evidence can be only detected at
400 rpm and 125 °C.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สวมรอยที่สร้างขึ้นในแผ่นของเซลล์ tribological และเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยที่สอดคล้องกันจะแสดงในตารางที่ 3 สำหรับเลือกตัวอย่างจาระบีหล่อลื่นและเงื่อนไข เป็นสามารถสรุปจากภาพ กลไกสึกหรอจะเป็นขัด ตามที่คาดไว้ มีใช้โหลดปกติแข็งแรง การกว้างสวมรอยแผลเป็น ในแถบไดอะแกรมในรูปที่ 8ซึ่งสรุปวิวัฒนาการของขนาดแผลเป็นโดยปกติโหลด 125 และ 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิและการโหลดปกติอย่างไรก็ตามไม่ออกแรงอิทธิพลสำคัญเมื่อใช้จารบีเป็นน้ำมันหล่อลื่น ตัวอย่าง CP ให้ค่าเฉลี่ยของสวมใส่แผลเส้นผ่าศูนย์กลางเทียบเท่ากับพบกับจาระบีพาณิชย์ยกเว้นสำหรับการโหลดปกติสูงสุดใช้ และโดยทั่วไปต่ำกว่าที่อุณหภูมิสูง (8 รูป) ในกรณีเฉพาะของ MC และ CHถูกสังเกตหลักฐานไม่สึกหรอในแผ่น ยกเว้นสำหรับ 20 และ40 N 125 ° c กว้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ MCรูป 9 แสดงขนาดหมายสึกหรอเฉลี่ยที่ได้จากเหล็กแผ่นของเซลล์ tribological หลังจากดำเนินการทดสอบที่0.15, 10 และ 400 rpm ต่ำ 20 N ที่ 25 และ 125 ° C ตามลำดับ เป็นสามารถตรวจสอบ การเพิ่มเส้นผ่านศูนย์กลางสวมใส่ด้วยการหมุนความเร็วมีแนวโน้มเด่น อุณหภูมิทั้งสอง ครั้งอีกครั้ง ตัวอย่างตาม methylcellulose (MC) และไคทิน (CH)เพียง ให้เห็นสวมรอยภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ที่25 ° C เหล็กแผ่นเพียงหลักฐานสวมรอยที่ 400 rpm เมื่อใช้MC ตัวอย่างเป็นน้ำมันหล่อลื่น ในขณะที่เส้นผ่าศูนย์กลางแผลค่อนข้างใหญ่สามารถจะสังเกตได้ที่ 125 ° C ภายใต้เงื่อนไขที่ 10 และ 400 รอบต่อนาที ในกรณีของ CH หลักฐานสำคัญสึกหรอสามารถตรวจพบเฉพาะที่400 รอบต่อนาทีและ 125 องศาเซลเซียส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สวมรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นในจานของเซลล์ tribological และ
เส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยที่สอดคล้องกันจะแสดงในตารางที่ 3 สำหรับการ
เลือกตัวอย่างจาระบีหล่อลื่นและเงื่อนไข ที่สามารถ
สรุปได้จากภาพกลไกการสวมใส่เป็นส่วนใหญ่
ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นที่คาดหวังโหลดปกติแข็งแกร่งถูกนำไปใช้ที่
แผลเป็นสวมใส่ที่กว้างขึ้นคือสามารถมองเห็นได้ในแผนภาพบาร์ในรูป 8
ซึ่งสรุปวิวัฒนาการของขนาดรอยแผลเป็นที่มีปกติ
โหลดที่ 25 และ 125 ° C อย่างไรก็ตามอุณหภูมิและโหลดปกติจะ
ไม่สำแดงอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้จาระบีลิเธียมเป็น
สารหล่อลื่น ตัวอย่าง CP ให้ค่าของแผลเป็นสึกหรอเฉลี่ย
เส้นผ่าศูนย์กลางเทียบเคียงกับที่พบกับจาระบีพาณิชย์
ยกเว้นสำหรับโหลดปกติสูงสุดนำไปใช้และโดยทั่วไปลดลง
ที่อุณหภูมิสูง (รูปที่. 8) ในกรณีที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งของ MC และ CH,
ไม่มีหลักฐานในการสวมใส่จานได้สังเกตยกเว้น 20 และ
40 ยังไม่มีข้อความที่ 125 ° C เป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกว้างสำหรับ MC.
รูป 9 แสดงค่าเฉลี่ยของการสวมใส่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเครื่องหมายที่ได้รับจาก
แผ่นเหล็กของเซลล์ tribological หลังจากดำเนินการทดสอบที่
0.15, 10 และ 400 รอบต่อนาทีต่ำกว่า 20 N 25 และ 125 ° C ตามลำดับ ในฐานะที่
สามารถสังเกตได้เพิ่มขึ้นในเส้นผ่าศูนย์กลางสวมใส่กับหมุน
ความเร็วเป็นแนวโน้มเด่นที่อุณหภูมิทั้งสอง เมื่อ
อีกครั้งตัวอย่างขึ้นอยู่กับเมทิล (MC) และไคติน (CH)
เพียง แต่ให้รอยแผลเป็นจากการสึกหรอเห็นได้ภายใต้เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง ที่
25 ° C, เหล็กแผ่นเพียงหลักฐานที่สวมใส่รอยแผลเป็นที่ 400 รอบต่อนาทีเมื่อใช้
ตัวอย่าง MC เป็นสารหล่อลื่นขณะเส้นผ่าศูนย์กลางแผลเป็นค่อนข้างใหญ่สามารถ
จะสังเกตเห็นที่ 125 ° C ต่ำกว่า 10 และ 400 รอบต่อนาทีเงื่อนไข ใน
กรณีของ CH, หลักฐานการสวมใส่อย่างมีนัยสำคัญสามารถตรวจพบได้เฉพาะที่
400 รอบต่อนาทีและ 125 ° C

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใส่แผลที่เกิดขึ้นในจานของเซลล์ tribological และเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยที่สอดคล้องกันจะแสดงในตารางที่ 3 สำหรับเลือกตัวอย่างจาระบีหล่อลื่นและเงื่อนไข เท่าที่ควรสรุปจากภาพใส่กลไกเด่นขัด เป็นไปตามคาด แข็งแกร่งปกติ โหลด พบว่าแผลเป็นไว้กว้าง คือ สามารถเห็นได้ในแถบแผนภาพในรูปที่ 8ซึ่งสรุปวิวัฒนาการของแผลเป็นขนาดปกติโหลดที่ 25 และ 125 องศา แต่อุณหภูมิปกติจะโหลดไม่ออกแรงอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้จาระบีลิเธียมเป็นหล่อลื่น ตัวอย่างให้ใส่ค่า CP ของรอยแผลเป็นโดยเฉลี่ยเส้นผ่าศูนย์กลางเทียบเท่ากับที่พบด้วยการพาณิชย์จาระบียกเว้นสูงสุดปกติแรงกว่า และโดยทั่วไปที่อุณหภูมิสูง ( รูปที่ 8 ) ในกรณีเฉพาะของพิธีกร และ ชอนฮีไม่ใส่หลักฐานในจานพบ ยกเว้น 20 และ40 n 125 องศา C โดยเฉพาะกว้างสำหรับ MCรูปที่ 9 แสดงใส่เครื่องหมายเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยที่ได้รับจากเหล็กแผ่นเซลล์ tribological หลังจากดำเนินการทดสอบที่0.15 , 10 และ 400 รอบต่อนาทีภายใต้ 20 ที่ 25 และ 125 ° C ตามลำดับ เป็นสามารถสังเกตได้ , เพิ่มใส่เส้นผ่าศูนย์กลางกับการหมุนความเร็วเป็นแนวโน้มโดด ทั้งอุณหภูมิ เมื่ออีกอย่างขึ้นอยู่กับตัว ( MC ) และไคติน ( CH )เพียงให้ตนเองสวมแผลเป็นภายใต้เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง ที่25 ° C , เหล็กแผ่น หลักฐานเดียวที่ใส่แผลที่ 400 รอบต่อนาที เมื่อใช้MC ตัวอย่างน้ำมันหล่อลื่น ส่วนแผลเป็นขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าจะสังเกตที่ 125 ° C ภายใต้เงื่อนไข 10 400 รอบต่อนาที ในกรณีของชอนฮี หลักฐานสำคัญที่สามารถตรวจพบเพียงสวมใส่400 รอบต่อนาทีและ 125 องศา