4. Direct vs. indirect agglutinatio

4. Direct vs. indirect agglutination
a) Direct agglutination
(1) Antibody binds to multiple RBCs and causes agglutination without
additional manipulation
(2) IgM is much better able to do this than IgG
(a) IgM maximum diameter is 30 nm (vs 14 nm for IgG), which is wide
enough to more easily overcome RBC zeta potential
(b) Occasional IgG antibodies can do this, if antigens “stick up” fairly far
from RBC surface (ABO-related & M and N antigens most commonly)
b) Indirect agglutination
(1) Antibody binds to, but does not form bridges with, RBCs
(a) Requires additional step to see agglutination (AHG phase described
above; enzyme treatment of RBCs may also make an IgG capable of
direct agglutination)
(2) Classically IgG rather than IgM, for reasons mentioned above
(3) Most significant antibodies cause this type of agglutination

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. ตรงเทียบกับ agglutination ทางอ้อม) agglutination โดยตรง(1) แอนติบอดี binds ไปหลาย RBCs และ agglutination โดยไม่ทำให้จัดการเพิ่มเติม(2) การระบาดของโรคเป็นมากดีกว่าสามารถทำมากกว่า IgG(ก) การระบาดของโรคเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดคือ 30 nm (เทียบกับ 14 nm สำหรับ IgG), ซึ่งกว้างพอที่จะเอาชนะได้ง่ายขึ้น RBC แคเธอรีนซีตาอาจเกิดขึ้น(b) แอนตี้ IgG เป็นครั้งคราวสามารถทำได้ ถ้า antigens "ติดค่า" ค่อนข้างไกลจากพื้นผิว RBC (ABO ที่เกี่ยวข้องและ M และ N antigens บ่อย)ข agglutination ทางอ้อม(1) แอนติบอดี binds ไป แต่แบบสะพานกับ RBCs(ก) ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อดู agglutination (AHG ขั้นตอนอธิบายไว้ข้างบน เอนไซม์บำบัด RBCs อาจทำให้มี IgG สามารถagglutination โดยตรง)(2) มีระดับ IgG มากกว่าระบาดของโรค สาเหตุดังกล่าวข้างต้น(3) agglutination ชนิดนี้ทำให้แอนตี้ที่สำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.
ตรงกับการเกาะติดกันทางอ้อม) ที่เกาะติดกันโดยตรง
(1)
แอนติบอดีจับกับเม็ดเลือดแดงหลายและทำให้เกิดการเกาะติดกันโดยไม่มีการจัดการที่เพิ่มขึ้น
(2) IgM จะดีมากสามารถทำเช่นนี้กว่า IgG
(ก) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุด IgM คือ 30 นาโนเมตร (เทียบกับ 14 นาโนเมตรสำหรับ IgG)
ซึ่งกว้างพอที่จะได้ง่ายขึ้นเอาชนะศักยภาพซีตาRBC
(ข) แอนติบอดี IgG เป็นครั้งคราวสามารถทำเช่นนี้ถ้าแอนติเจน "ติดขึ้น"
ค่อนข้างห่างไกลจากพื้นผิวRBC (ABO ที่เกี่ยวข้อง & M และไม่มีแอนติเจนมากที่สุด)
ข ) อ้อมเกาะติดกัน
(1) แอนติบอดีผูก แต่ไม่ได้รูปแบบสะพานที่มีเม็ดเลือดแดง
(ก) ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อดูการเกาะติดกัน (ระยะ AHG
อธิบายไว้ข้างต้นการรักษาเอนไซม์ของเม็ดเลือดแดงนอกจากนี้ยังอาจทำให้IgG
ความสามารถในการเกาะติดกันโดยตรง)
(2) IgG คลาสสิกมากกว่า IgM ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
(3) แอนติบอดี้ที่สำคัญส่วนใหญ่ก่อให้เกิดรูปแบบของการเกาะติดกันนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . โดยตรงและโดยอ้อมการจับกลุ่ม
)
เกาะติดกันโดยตรง ( 1 ) แอนติบอดีจับกับหลาย rbcs ให้เกิดการจับกลุ่มโดยไม่

จัดการเพิ่มเติม ( 2 ) ชนิด IgM ดีขึ้นสามารถที่จะทำนี้กว่า IgG IgM
( A ) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสูงสุดเป็น 30 nm ( VS 14 nm สำหรับ IgG ) ซึ่งกว้าง
พอที่จะเพิ่มเติม เอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ศักยภาพ RBC ซีตา ( B ) เป็นครั้งคราว IgG สามารถทำ ถ้าแอนติเจน " ติด " ค่อนข้างไกล
จากผิว RBC ( ABO ที่เกี่ยวข้อง& M และ N แอนติเจนมากที่สุด ) :
b )
การจับกลุ่มทางอ้อม ( 1 ) แอนติบอดีจับกับ แต่ไม่ได้สร้างสะพานด้วย rbcs
( ) ต้องใช้ขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อดู agglutination ( ahg เฟสอธิบาย
ข้างบน การใช้เอนไซม์ของ rbcs อาจทำให้ IgG สามารถ
เกาะติดกันโดยตรง )
( 2 ) คลาสสิก IgG IgM มากกว่าด้วยเหตุผลที่กล่าวข้างต้น
,( 3 ) ที่สำคัญที่สุดของแอนติบอดีชนิดนี้ก่อให้เกิดการจับกลุ่ม