In ornithology, most efforts to und

In ornithology, most efforts to understand rainforest bird community
succession have focused on chronosequences in natural
forest (Terborgh, 1985), logged or burned forests of different ages
(e.g., Lambert, 1992; Johns, 1996; Barlow and Peres, 2004; Styring
and Zakaria, 2004a), or forest recovering from slash-and-burn agriculture
(e.g., Bowman et al., 1990; Blankespoor, 1991; Raman
et al., 1998; Borges, 2007). The potential for insight from these
approaches is substantial because each examines change or recovery
of native forest, and native forest is richer than exotic forest in
compositional and structural information. This is particularly true
of studies of natural forest and slash-and-burn succession because
chronosequences may span hundreds of years. However, working
with native systems is difficult. There may be uncertainty about
the age and sequence of seral stages, or a lack of replicate plots
of the same age, or unclear borders between age groups. Research
in natural forest is particularly difficult because it requires a huge
investment of time to understand the terrain and birds (Terborgh,
1985; Terborgh et al., 1990). Forest recovering from human perturbation
has the additional problem that plots may have experienced
different forms and intensity of disturbance (Johns, 1997; Raman
et al., 1998). Although studies of bird community succession in
plantations are limited in scope and reality relative to those in
native forest, they still provide information on habitat differences
that influence the occurrence and distribution of birds.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปักษี ส่วนใหญ่พยายามเข้าใจชุมชนนกป่าต่อเนื่องเน้น chronosequences ในธรรมชาติป่า (Terborgh, 1985), บันทึก หรือเขียนป่าอายุต่าง(เช่น Lambert, 1992 จอห์น 1996 Barlow และ Peres, 2004 Styringและ Zakaria, 2004a), หรือป่าฟื้นตัวจากเกษตรทับ และเขียน(เช่น Bowman et al. 1990 Blankespoor, 1991 รามันet al. 1998 Borges, 2007) ศักยภาพในการเข้าใจจากเหล่านี้แนวทางที่เป็นรูปธรรมเนื่องจากแต่ละตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงหรือการกู้คืนเจ้า ป่า เจ้าป่าเป็นยิ่งกว่าป่าที่แปลกใหม่ในcompositional และโครงสร้างข้อมูล นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกษาธรรมชาติป่าและทับ และเขียนสืบเนื่องจากchronosequences อาจขยายหลายร้อยปี อย่างไรก็ตาม ทำงานด้วยระบบดั้งเดิมได้ยาก อาจมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอายุและลำดับของขั้น seral หรือการขาดของที่ดิน replicateอายุ หรือขอบไม่ชัดเจนระหว่างกลุ่มอายุ งานวิจัยในป่าธรรมชาติจะยากเนื่องจากต้องการขนาดใหญ่ลงทุนเวลาเข้าใจภูมิประเทศและนก (Terborghปี 1985 Terborgh et al. 1990) ป่าจากมนุษย์ perturbationมีปัญหาเพิ่มเติมที่อาจพบผืนรูปแบบต่าง ๆ และความรุนแรงของการรบกวน (จอห์น 1997 รามันet al. 1998) แม้ว่าการศึกษาของนกอย่างต่อเนื่องของชุมชนในสวนจะถูกจำกัดขอบเขตและความเป็นจริงเมื่อเทียบกับในเจ้าป่า พวกเขายังคงให้ข้อมูลความแตกต่างของที่อยู่อาศัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดและการกระจายของนก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในวิทยาพยายามที่สุดที่จะเข้าใจป่าดงดิบชุมชนนก
สืบทอดได้มุ่งเน้น chronosequences ธรรมชาติ
ป่าไม้ (Terborgh, 1985) เข้าสู่ระบบหรือป่าทุกเพศทุกวัยที่แตกต่างกันเผา
(เช่นแลมเบิร์ 1992; จอห์นส์ 1996 บาร์โลว์และเปเรส 2004; Styring
และ เรีย, 2004a) หรือป่าฟื้นตัวจากการเฉือนและการเผาไหม้การเกษตร
(เช่นโบว์แมน, et al, 1990;. Blankespoor 1991; รามัน
. et al, 1998; Borges, 2007) ที่มีศักยภาพสำหรับข้อมูลเชิงลึกจากเหล่านี้
วิธีการที่เป็นรูปธรรมเพราะแต่ละตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงหรือการกู้คืน
ของป่าพื้นเมืองและป่าไม้พื้นเมืองยิ่งขึ้นกว่าป่าที่แปลกใหม่ใน
ข้อมูล compositional และโครงสร้าง นี่คือความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ของการศึกษาของป่าธรรมชาติและเฉือนและการเผาไหม้สืบทอดเพราะ
chronosequences span อาจหลายร้อยปี อย่างไรก็ตามการทำงานร่วม
กับระบบพื้นเมืองเป็นเรื่องยาก อาจจะมีความไม่แน่นอนเกี่ยว
กับอายุและลำดับขั้นตอน Seral หรือการขาดที่ดินทำซ้ำ
ในวัยเดียวกันหรือเส้นขอบชัดเจนระหว่างกลุ่มอายุ การวิจัย
ในป่าธรรมชาติเป็นเรื่องยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมันต้องมีขนาดใหญ่
ลงทุนของเวลาที่จะเข้าใจภูมิประเทศและนก (Terborgh,
1985. Terborgh, et ​​al, 1990) ป่าที่ฟื้นตัวจากการรบกวนของมนุษย์
มีปัญหาเพิ่มเติมที่แปลงอาจมีประสบการณ์
ในรูปแบบที่แตกต่างกันและความรุนแรงของการรบกวน (จอห์นส์ 1997; รามัน
et al, 1998). ถึงแม้ว่าการศึกษาของนกสืบทอดของชุมชนใน
พื้นที่เพาะปลูกจะถูก จำกัด อยู่ในขอบเขตและความเป็นจริงเมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ใน
ป่าพื้นเมืองของพวกเขายังคงให้ข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างที่อยู่อาศัย
ที่มีอิทธิพลต่อการเกิดและการกระจายของนก