The use of Panagrellus redivivus as

The use of Panagrellus redivivus as live feed for bighead carp and Asian catfish larvae was tested. In experiment 1, carp larvae were given Artemia nauplii (control) or Panagrellus twice daily for 21 days. A third treatment consisted of unfed larvae. The same three treatments were used in experiment 2 plus another with a commercial entomopathogenic nematode (EPN). Bighead carp larvae given Panagrellus in experiment 1 had much lower growth and survival than those fed Artemia nauplii. This could be due to low nematode density (5–30 mL−1 water) during feeding. The unfed larvae had 100% mortality by days 11–13. In experiment 2, growth and survival of carp larvae given Artemia nauplii (5–10 mL−1) and Panagrellus (50 mL−1) did not differ significantly (P > 0.05). All unfed larvae had died by day 13, while larvae fed EPN were all dead by day 8. Two experiments on Asian catfish were likewise conducted. In experiment 1, the catfish larvae were fed Tubifex (ad libitum), Panagrellus (50–100 mL−1 per feeding) orArtemia (5 nauplii mL−1 per feeding) three times daily for 14 days. In experiment 2, larvae were fed Artemia alone (10 nauplii mL−1 per feeding), Panagrellus alone (100 mL−1 per feeding), or their combination with a 38% protein dry diet twice daily. For both experiments, catfish larvae fed Panagrellus had significantly lower growth and survival than those fed Tubifex or Artemia. The combination of Panagrellus and dry diet created little improvement in the growth and survival of catfish larvae.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้ Panagrellus redivivus เป็นอาหารสดปลาซ่งและปลาดุกเอเชียตัวอ่อนได้รับการทดสอบ ในการทดลองที่ 1 ตัวอ่อนปลาคาร์ฟได้รับ Artemia nauplii (ควบคุม) หรือ Panagrellus เบา 21 วัน รักษาสามประกอบด้วยตัวอ่อน unfed รักษาสามเดียวกันถูกใช้ในการทดลอง 2 บวกด้วยการค้า entomopathogenic นีมาโทดา (EPN) ตัวอ่อนปลาคาร์ฟ bighead ให้ Panagrellus ทดลอง 1 มีมากล่างเจริญเติบโตและอยู่รอดมากกว่าผู้เลี้ยง Artemia nauplii นี้อาจเป็น เพราะความหนาแน่นนีมาโทดาต่ำ (5–30 mL−1 น้ำ) ระหว่างการให้อาหาร ตัวอ่อน unfed มีการตาย 100% โดย 11–13 วัน ในการทดลอง 2 เจริญเติบโตและอยู่รอดของตัวอ่อนปลาคาร์ฟให้ Artemia nauplii (5–10 mL−1) และ Panagrellus (50 mL−1) ได้ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P > 0.05) ตัวอ่อน unfed ทั้งหมดได้เสียชีวิตวัน 13 ในขณะที่ตัวอ่อนที่เลี้ยง EPN ตายทุกวัน 8 ในทำนองเดียวกันได้ดำเนินทดลองบนปลาเอเชีย ในการทดลองที่ 1 ตัวอ่อนของปลาดุกที่เลี้ยง Tubifex (ad libitum), OrArtemia (50–100 mL−1 ต่ออาหาร) Panagrellus (mL−1 5 nauplii ต่ออาหาร) สามครั้งต่อวัน 14 วัน ในการทดลองที่ 2 ตัวอ่อนถูกเลี้ยง Artemia เพียงอย่างเดียว (10 nauplii mL−1 ต่ออาหาร), Panagrellus เพียงอย่างเดียว (100 mL−1 ต่ออาหาร), หรือรวมตัวกับโปรตีน 38% แห้งอาหารสองครั้งต่อวัน สำหรับการทดลองทั้งสอง ตัวอ่อนของปลาดุกเลี้ยง Panagrellus ได้เจริญเติบโตและอยู่รอดมากกว่าเลี้ยงดู Tubifex หรือ Artemia ผู้ต่ำ Panagrellus และอาหารแห้งสร้างปรับปรุงเล็กน้อยในการเจริญเติบโตและอยู่รอดของตัวอ่อนปลาดุก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใช้ Panagrellus redivivus เป็นอาหารสดสำหรับปลาคาร์พ bighead และตัวอ่อนปลาดุกเอเชียได้รับการทดสอบ ในการทดลองที่ 1, ปลาคาร์พตัวอ่อนได้รับอาร์ทีเมียนอเพลียส (ควบคุม) หรือ Panagrellus วันละสองครั้ง 21 วัน การรักษาที่สามประกอบไปด้วยตัวอ่อนไม่ได้กินอาหาร สามการรักษาถูกนำมาใช้ในการทดลอง 2 บวกอื่นที่มีพยาธิตัวกลมในเชิงพาณิชย์แมลง (EPN) ตัวอ่อนของปลาคาร์พ bighead ให้ Panagrellus ในการทดลองที่ 1 มีการเจริญเติบโตที่ต่ำกว่ามากและความอยู่รอดกว่าที่นอเพลียสอาร์ทีเมียที่เลี้ยง ซึ่งอาจเป็นเพราะความหนาแน่นของไส้เดือนฝอยต่ำ (5-30 มิลลิลิตร-1 น้ำ) ในระหว่างการเลี้ยงลูกด้วยนม ตัวอ่อนไม่ได้กินอาหารที่มีอัตราการตาย 100% โดยวันที่ 11-13 ในการทดลองที่ 2 การเจริญเติบโตและการอยู่รอดของปลาคาร์พตัวอ่อนให้นอเพลียสอาร์ทีเมีย (5-10 มิลลิลิตร-1) และ Panagrellus (50 มล. -1) ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P> 0.05) ทั้งหมดไม่ได้กินอาหารตัวอ่อนเสียชีวิตโดยวัน 13 ในขณะที่ตัวอ่อนที่เลี้ยง EPN ทุกคนตายโดยวันที่ 8 สองการทดลองในปลาดุกเอเชียได้ดำเนินการเช่นเดียวกัน ในการทดลองที่ 1, ตัวอ่อนปลาดุกได้รับการเลี้ยงดู tubifex (โฆษณา libitum) Panagrellus (50-100 มิลลิลิตร-1 ต่อการให้อาหาร) orArtemia (5 นอเพลียส mL-1 ต่อการให้อาหาร) สามครั้งทุกวันเป็นเวลา 14 วัน ในการทดลองที่ 2 ได้รับการเลี้ยงดูตัวอ่อนอาร์ทีเมียคนเดียว (10 นอเพลียส mL-1 ต่อการให้อาหาร) Panagrellus คนเดียว (100 มล. -1 ต่อการให้อาหาร) หรือการรวมกันของพวกเขาด้วยอาหารแห้งโปรตีน 38% วันละสองครั้ง สำหรับการทดลองทั้งสองตัวอ่อนปลาดุกที่เลี้ยงมีการเจริญเติบโต Panagrellus อย่างมีนัยสำคัญลดลงและความอยู่รอดมากกว่าผู้เลี้ยง tubifex หรืออาร์ทีเมีย การรวมกันของ Panagrellus และอาหารแห้งสร้างการปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเจริญเติบโตและการอยู่รอดของปลาดุกตัวอ่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้ panagrellus redivivus เป็นอาหารมีชีวิตสำหรับความถือดีปลาคาร์พและปลาดุกเป็นหนอนในการทดสอบ ในการทดลองที่ 1 ตัวอ่อนอาร์ทีเมีย ปลาคาร์พที่ได้รับ nauplii ( ควบคุม ) หรือ panagrellus วันละครั้งเป็นเวลา 21 วัน การรักษาที่สามประกอบด้วย unfed ตัวอ่อน เดียวกันสามการทดลองที่ใช้ในการทดลองที่ 2 อีกบวกกับเชิงพาณิชย์ โดยแมลงที่ตาย ( epn )สามเณรอ่อนให้ panagrellus ในการทดลองที่ 1 มีการเจริญเติบโตที่ต่ำกว่ามากและการอยู่รอดมากกว่าผู้เลี้ยงอาร์ทีเมีย nauplii . นี้อาจจะเนื่องจากความหนาแน่นของไส้เดือนฝอยต่ำ ( − 5 – 30 ml 1 น้ำ ) ในอาหาร หนอน unfed มีอัตราการตาย 100% โดยวันที่ 11 – 13 ในการทดลองที่ 2การเจริญเติบโตและอัตรารอดของตัวอ่อนอาร์ทีเมียปลาคาร์พให้ nauplii ( 5 – 10 ml − 1 ) และ panagrellus ( 50 ml − 1 ) ไม่แตกต่างกันทางสถิติ ( P > 0.05 ) ตัวอ่อน unfed ทั้งหมดเสียชีวิตโดย 13 วัน ในขณะที่ตัวอ่อนเลี้ยง epn ตายแล้ว โดยวันที่ 8 สองการทดลองในเอเชียปลาดุกเป็นเช่นเดียวกันในการ ในการทดลองที่ 1 พบตัวอ่อนได้รับทูบิเฟกซ์ ( อย่างเต็มที่ )panagrellus ( 50 – 100 มล. − 1 ต่อการให้อาหาร ) orartemia ( 5 nauplii − 1 มิลลิลิตรต่อการให้อาหาร ) สามครั้งทุกวัน เป็นเวลา 14 วัน ในการทดลองที่ 2 ตัวอ่อนเลี้ยงอาร์ทีเมียคนเดียว ( 10 nauplii − 1 มิลลิลิตรต่อการให้อาหาร ) , panagrellus อยู่คนเดียว ( − 1 ต่อ 100 มิลลิลิตรของอาหาร ) หรือรวมกันกับโปรตีน 38 % บริการอาหารวันละสองครั้ง สำหรับการทดลองปลาดุกที่เลี้ยง panagrellus ตัวอ่อนมีการเจริญเติบโตลดลงและอัตรารอดสูงกว่า Fed ทูบิเฟกซ์ หรือ อาร์ทีเมีย . การรวมกันของ panagrellus แห้งอาหารและสร้างการปรับปรุงเล็ก ๆน้อย ๆในการอยู่รอดและการเจริญเติบโตของปลาดุกตัวอ่อน