In the past few decades backpacker

In the past few decades backpacker tourism has become a popular form of tourism, as is evident
with the development of backpacker specific establishments across the globe. As backpacker
tourism has grown it has become a topic of research at industry, government and academic levels.
Initially much of this research focused on the economic benefit of backpacker tourism, but more
recent research has acknowledged that little is currently known about the impacts backpacker
tourism has on the environment and the host society. It is this latter issue that is of interest in this
thesis.
The basis of this thesis is the claim in the literature that backpacker tourism is moving from a noninstitutionalised
activity to an institutionalised activity, and that backpacker impacts are changing
accordingly. However, this has not been tested empirically and it is not in keeping with the
literature regarding the backpacker’s desire to immerse themselves in the host society. It is this
inconsistency in the literature that is explored in this thesis.
The research was conducted in three steps. Firstly, an extensive literature review was undertaken to
determine what is known about backpackers, particularly in relation to their motivations for travel
and how this may impact on their behaviour in the host destination. The literature on the sociocultural
impacts of mass tourism was also reviewed to determine the potential positive and negative
impacts that backpacker tourism may have on a host society or culture. Secondly, in-depth
interviews were undertaken with 30 international backpackers staying in Pai, Thailand and 30
residents of Pai. This destination was considered appropriate for a case study because of its
relatively new inclusion on the backpacker trail. Thirdly, the data collected was analysed using
content analysis and discussed in relation to the literature.It was found that there is a discrepancy between backpackers’ ideology and their actions. While
backpackers claim that they want to immerse in the host society, although this is a less important
motivation for travel than it used to be, their actions do not reflect this ideology. In reality most
backpackers’ actions are ‘self-focused’ rather than ‘host-focused’. Backpackers admitted that this
was the case but both locals and backpackers identified a number of barriers to backpackers being
able to immerse in the host society. An analysis of backpackers’ actions within the host society also
identified both positive and negative impacts that backpackers have on the host society. When
compared with those of mass tourists it was evident that there are similarities, although the impacts
of backpackers are often less pronounced and the host society finds the extent of these acceptable at
present. The discussion culminates in the development of a conceptual framework that explains the
relationships between backpackers’ ideologies and their actions, and the subsequent impacts on the
host society.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอดีต ไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาแบท่องเที่ยวได้กลายเป็น แบบที่นิยมการท่องเที่ยว เป็นเห็นได้ชัดกับการพัฒนาของสถานประกอบการเฉพาะแบ็คแพ็คทั่วโลก เป็นแบ็คแพ็คเกอร์ท่องเที่ยวได้เติบโตขึ้นเป็นหัวข้อวิจัยที่อุตสาหกรรม รัฐบาล และระดับการศึกษาเริ่มต้นของงานวิจัยนี้เน้นประโยชน์เศรษฐกิจท่องเที่ยวแบคแพ็คเกอร์ แต่เพิ่มเติมการวิจัยล่าสุดได้รับทราบเพียงเล็กน้อยที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับแบผลกระทบท่องเที่ยวสิ่งแวดล้อมและสังคมโฮสต์ได้ มันเป็นปัญหาหลังที่น่าสนใจในนี้วิทยานิพนธ์พื้นฐานของวิทยานิพนธ์นี้คือ ร้องในวรรณคดีที่ท่องเที่ยวแบคแพ็คเกอร์จากการ noninstitutionalisedกิจกรรมกิจกรรม institutionalised และผลกระทบของแบ็คแพ็คเกอร์กำลังเปลี่ยนตาม อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ได้ทดสอบ empirically และไม่ keeping ด้วยการวรรณกรรมเกี่ยวกับแบของความปรารถนาในสังคมโฮสต์ มันนี่ไม่สอดคล้องในวรรณคดีที่อุดมในวิทยานิพนธ์นี้การวิจัยได้ดำเนินการในขั้นตอนที่สาม ประการแรก ดำเนินการทบทวนวรรณกรรมอย่างละเอียดเพื่อกำหนดสิ่งที่เรียกว่าเกี่ยวกับแบ็คแพ็คเกอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับโต่งของพวกเขาสำหรับการเดินทางและวิธีนี้อาจมีผลกับพฤติกรรมของพวกเขาในโฮสต์ปลายทาง วรรณคดีบน socioculturalผลกระทบของการท่องเที่ยวโดยรวมยังถูกทบทวนเพื่อกำหนดเป็นค่าบวก และค่าลบผลกระทบที่อาจมีท่องเที่ยวแบคแพ็คเกอร์บนโฮสต์สังคมหรือวัฒนธรรม ประการที่สอง ชมการสัมภาษณ์ได้ดำเนินการแบ็คแพ็ค 30 ที่พักในปาย ไทยและ 30 ประเทศชาวปาย ปลายทางนี้ถือเป็นกรณีศึกษาเนื่องจากความเหมาะสมของรวมค่อนข้างใหม่บนเส้นทางของแบ็คแพ็คเกอร์ ประการ ข้อมูลที่รวบรวมได้ analysed การใช้วิเคราะห์เนื้อหาและในความสัมพันธ์กับวรรณคดี พบว่า มีความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์ของแบ็คแพ็คเกอร์และการกระทำของพวกเขา ในขณะที่แบ็คแพ็คเกอร์อ้างว่า พวกเขาต้องการในสังคมโฮสต์ แม้ว่าจะสำคัญน้อยกว่าแรงจูงใจสำหรับการเดินทางกว่าจะใช้ได้ การกระทำของพวกเขาสะท้อนอุดมการณ์นี้ ในความเป็นจริงมากที่สุดดำเนินการแบ็ค 'ตนเองเน้น' แทน 'เน้นโฮสต์' แบ็คแพ็คเกอร์ยอมรับที่นี้คน แต่ชาวบ้านและแบ็คระบุจำนวนอุปสรรคการแบ็คแพ็คเกอร์ถูกสามารถในสังคมโฮสต์ การวิเคราะห์การแบ็คภายในสังคมโฮสต์ยังระบุผลกระทบทั้งบวก และลบที่แบคแพคเกอร์สมีสังคมโฮสต์ เมื่อเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวโดยรวม ก็เห็นได้ชัดว่า มีความคล้ายคลึง แม้ว่าผลกระทบต่อของแบ็คแพ็คเกอร์ มีน้อยมักจะออกเสียงและโฮสต์สังคมพบขอบเขตเหล่านี้ยอมรับได้ที่ปัจจุบัน ผสมการสนทนาในการพัฒนาของกรอบแนวคิดที่อธิบายการความสัมพันธ์ระหว่างแบ็คเพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ และการกระทำของพวกเขา และผลกระทบตามมาในสังคมโฮสต์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาการท่องเที่ยวแบ็คแพ็คได้กลายเป็นรูปแบบที่นิยมของการท่องเที่ยวอย่างเห็นได้ชัด
กับการพัฒนาของสถานประกอบการที่เฉพาะเจาะจงแบ็คแพคเกอร์ทั่วโลก ในฐานะที่เป็นแบ็คแพคเกอร์
ท่องเที่ยวได้เติบโตขึ้นมันได้กลายเป็นหัวข้อของการวิจัยที่ภาคอุตสาหกรรมภาครัฐและระดับวิชาการ.
ในขั้นต้นมากของการวิจัยนี้มุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวแบ็คแพคเกอร์ แต่
การวิจัยที่ผ่านมาได้รับการยอมรับว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขณะนี้เป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับผลกระทบแบ็คแพคเกอร์
ท่องเที่ยว ที่มีต่อสภาพแวดล้อมและสังคมที่เป็นเจ้าภาพ มันเป็นปัญหานี้หลังที่เป็นที่สนใจในเรื่องนี้
วิทยานิพนธ์.
พื้นฐานของงานวิจัยนี้คือการเรียกร้องในวรรณคดีที่ท่องเที่ยวแบ็คแพ็คจะย้ายจาก noninstitutionalised
กิจกรรมกิจกรรมสถาบันและผลกระทบแบ็คแพ็คที่มีการเปลี่ยนแปลง
ตามความเหมาะสม แต่นี้ยังไม่ได้รับการทดสอบสังเกตุและมันไม่ได้อยู่ในการรักษาด้วย
วรรณกรรมเกี่ยวกับความปรารถนาแบ็คแพคเกอร์ที่จะสัมผัสและเรียนรู้ในสังคมเป็นเจ้าภาพ มันคือ
ความไม่สอดคล้องกันในวรรณคดีที่มีการสำรวจในวิทยานิพนธ์ฉบับนี้.
การวิจัยได้ดำเนินการในขั้นตอนที่สาม ประการแรกการทบทวนวรรณกรรมที่กว้างขวางได้รับการดำเนินการเพื่อ
ตรวจสอบสิ่งที่เป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับการแบ็คแพ็คโดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับแรงจูงใจของพวกเขาสำหรับการเดินทาง
และวิธีการนี้อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของพวกเขาในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเจ้าภาพ หนังสือที่เกี่ยวกับสังคมวัฒนธรรม
ผลกระทบจากการท่องเที่ยวมวลยังได้รับการตรวจเพื่อตรวจสอบในเชิงบวกและเชิงลบที่อาจเกิดขึ้น
ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่แบ็คแพ็คอาจมีต่อสังคมหรือวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพ ประการที่สองในเชิงลึก
สัมภาษณ์กำลังดำเนินการกับ 30 แบ็คแพ็คระหว่างประเทศที่อยู่ในท้องที่อำเภอปายประเทศไทยและ 30
ที่อาศัยอยู่ในปาย ปลายทางนี้ได้รับการพิจารณาความเหมาะสมสำหรับกรณีศึกษาเพราะมัน
รวมที่ค่อนข้างใหม่บนเส้นทางแบ็คแพ็ค ประการที่สามข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์โดยใช้
การวิเคราะห์เนื้อหาและพูดคุยกันในความสัมพันธ์กับ literature.It พบว่ามีความแตกต่างระหว่างอุดมการณ์แบ็คแพ็คและการกระทำของตน ขณะที่
แบ็คแพ็คอ้างว่าพวกเขาต้องการที่จะแช่ในสังคมเจ้าภาพแม้นี่จะเป็นความสำคัญน้อยกว่า
แรงจูงใจสำหรับการเดินทางกว่าที่เคยเป็นการกระทำของพวกเขาไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงอุดมการณ์นี้ ในความเป็นจริงมากที่สุด
แบ็คแพ็ค 'การกระทำ' ตัวเองมุ่งเน้น 'มากกว่า' เจ้าภาพที่มุ่งเน้น ' แบ็คแพ็คนี้ยอมรับว่า
กรณีที่เกิดขึ้น แต่ทั้งสองคนในท้องถิ่นและแบ็คแพ็คระบุจำนวนของปัญหาและอุปสรรคในการแบ็คแพ็คเป็น
สามารถที่จะแช่ในสังคมเป็นเจ้าภาพ การวิเคราะห์การกระทำของแบ็คแพ็ค 'ในสังคมเจ้าภาพยัง
ระบุผลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบที่แบ็คแพ็คที่มีอยู่ในสังคมเป็นเจ้าภาพ เมื่อ
เทียบกับบรรดานักท่องเที่ยวมวลมันเห็นได้ชัดว่ามีความคล้ายคลึงกันแม้ว่าผลกระทบ
ของการแบ็คแพ็คมักจะเด่นชัดน้อยลงและสังคมเจ้าภาพพบขอบเขตของการยอมรับเหล่านี้ใน
ปัจจุบัน อภิปราย culminates ในการพัฒนากรอบความคิดที่อธิบาย
ความสัมพันธ์ระหว่างอุดมการณ์แบ็คแพ็คและการกระทำของพวกเขาและผลกระทบที่ตามมาใน
สังคมเป็นเจ้าภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาแบบ Backpacker การท่องเที่ยวได้กลายเป็นรูปแบบที่นิยมของการท่องเที่ยว เป็นประจักษ์
กับการพัฒนาของแบ็คแพ็คเกอร์เฉพาะสถานประกอบการทั่วโลก ท่องเที่ยวแบคแพคเกอร์
โตขึ้นมันได้กลายเป็นหัวข้อของการวิจัยในอุตสาหกรรม รัฐบาล และนักวิชาการระดับ
เริ่มต้นมากของการวิจัยนี้มุ่งเน้นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวแบบแบกเป้ แต่เพิ่มเติม
การวิจัยล่าสุดได้ยอมรับว่าน้อยอยู่ที่รู้จักเกี่ยวกับผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแบบแบกเป้
ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและโฮสต์สังคม มันเป็นประเด็นหลังนี้เป็นที่สนใจในวิทยานิพนธ์นี้
.
พื้นฐานของวิทยานิพนธ์ฉบับนี้คือ การเรียกร้องในวรรณคดีว่า การท่องเที่ยวแบบ Backpacker จะย้ายจาก noninstitutionalised
กิจกรรมการ institutionalized กิจกรรมและผลกระทบที่แบ็คแพคเกอร์จะเปลี่ยน
ตามนั้น อย่างไรก็ตาม , นี้ไม่ได้ถูกทดสอบและใช้เป็นในการรักษาด้วย
วรรณกรรมเกี่ยวกับความปรารถนาชอบใช้แช่ในโฮสต์สังคม มันไม่
ในวรรณคดีที่ศึกษาในวิทยานิพนธ์นี้
ดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ประการแรกทบทวนวรรณกรรมคือการตรวจสอบอย่างละเอียด

สิ่งที่เป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับการแบ็คแพ็ค , โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์กับแรงจูงใจของพวกเขาสำหรับการเดินทาง
และวิธีนี้อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของพวกเขาในโฮสต์ปลายทาง วรรณคดีเกี่ยวกับผลกระทบด้านสังคมและวัฒนธรรม
ของการท่องเที่ยวก็ตรวจสอบหา
บวกและลบที่มีศักยภาพผลกระทบการท่องเที่ยวแบ็คแพคเกอร์จะโฮสต์สังคม หรือวัฒนธรรม ประการที่สอง การสัมภาษณ์
เคยดัง 30 ระหว่างประเทศแบ็คแพ็คอยู่ที่ปาย , ไทย - 30
ผู้อยู่อาศัยของปาย ปลายทางนี้มีความเหมาะสมสำหรับเป็นกรณีศึกษา เพราะของค่อนข้างใหม่ในกระเป๋าสะพายหลัง
รวมเส้นทาง ประการที่สาม เก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์โดยใช้
การวิเคราะห์และเนื้อหาที่กล่าวถึงในความสัมพันธ์กับวรรณกรรม พบว่ามีความแตกต่างระหว่างแบ็คแพ็ค ' อุดมการณ์และการกระทำของตนเอง ในขณะที่
แบ็คแพ็คอ้างว่าพวกเขาต้องการที่จะแช่ในโฮสต์สังคม แต่นี้เป็นสิ่งสำคัญในการเดินทาง
น้อยลงกว่าที่เคยเป็น การกระทำของพวกเขาไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงอุดมการณ์นี้ ในความเป็นจริงมากที่สุด
การกระทำของแบ็คแพ็ค ' ' ตัวเอง ' มากกว่า ' เจ้าภาพเน้นเน้น ' แบ็คแพ็คเกอร์ ยอมรับว่า เป็นกรณีนี้
แต่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ระบุจำนวนของอุปสรรคในการแบ็คแพ็คถูก
สามารถแช่ในโฮสต์สังคม การวิเคราะห์ของแบ็คแพ็ค ' การกระทำภายในโฮสต์สังคมยัง
ระบุผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบที่แบ็คแพ็คได้บนโฮสต์สังคม เมื่อ