Cabbage (Brassica olearaceae var. c

Cabbage (Brassica olearaceae var. capitata) and cauliflower (Brassica oleracea var. botrytis) are two major
vegetables produced and consumed in India. Over the years, they have been cultivated more intensively. This
has resulted in higher rates of pest infestation, especially by the diamondback moth (Plutella xylostella) and
higher pesticide use. This, in turn, has contributed to insecticide resistance, environmental degradation, and
human health impacts, which have triggered a growing interest in alternative management techniques.
There is a dearth of knowledge on current pest management practices in cabbage and crucifer. Knowledge
about pest management practices is necessary to develop appropriate strategies such as Integrated Pest
Management. The main purpose of this study was to obtain comprehensive information on pest
management practices among farmers growing cabbage and cauliflower in India.
A survey was conducted in the states of Gujarat, West Bengal, and Karnataka from October 2006 through
January 2007. Three hundred farmers were interviewed to obtain information on pesticide use in cabbage
and cauliflower production, the cost of pesticide use, and socioeconomic characters that influence cabbage
and cauliflower production.
Farmers relied on pesticides as the major and often exclusive crop protection strategy. Ten of the active
ingredients (16.4% of all pesticides reported by all farmers in this survey) were listed as extremely or highly
hazardous (classes Ia and Ib) by the World Health Organization. The results confirmed that pesticide use
differs between states of India, but that location alone does not determine pesticide spraying pattern. A
regression model was used to identify determinants of pesticide application frequency and pesticide cost per
hectare. After controlling for location, individual level variables, such as age, education and experience, had
significant effects on how often farmers sprayed. Farmers also spent more for pesticides, and sprayed more
frequently on cauliflower than on cabbage and on open-pollinated varieties than on hybrid varieties.
Our findings highlight the excessive use of pesticides in cabbage and cauliflower, and the reliance on
pesticides as the only pest management strategy. The results confirm the need for alternative management
strategies. Bt vegetables may be one of these alternative strategies. However, it is questionable whether
cultivation of Bt vegetables will reduce the strong reliance on pesticides. Small-scale farmers will need
training in the identification of pests, natural enemies, basic ecology, and integrated pest management
strategies to ensure sustainable and safe vegetable production.
© Korean Society of Applied Entomology, Taiwan Entomological Society and Malaysian Plant Protection
Society, 2009 Published by Elsevier Inc. All rights reserved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กะหล่ำปลี (Brassica olearaceae var. capitata) และกะหล่ำดอกผัก
สองหลัก (Brassica oleracea var Botrytis.) ที่ผลิตและบริโภคในประเทศอินเดีย ปีที่ผ่านมาพวกเขาได้รับการปลูกฝังอย่างเข้มงวดมากขึ้น
นี้มีผลในอัตราที่สูงขึ้นจากการรบกวนของศัตรูพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งหนอนใยผัก (หนอนใยผัก) และการใช้สารกำจัดศัตรูพืช
สูงขึ้น นี้ในการเปิดได้มีส่วนร่วมในการต้านทานต่อยาฆ่าแมลงทำลายสิ่งแวดล้อมและผลกระทบ
สุขภาพของมนุษย์ซึ่งจะมีการหารือเติบโตที่น่าสนใจในเทคนิคการจัดการทางเลือก.
มีความขาดแคลนของความรู้ในการจัดการศัตรูพืชในปัจจุบันกะหล่ำปลีและ crucifer
ความรู้เกี่ยวกับการจัดการศัตรูพืชเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมเช่นการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน
วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาครั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับศัตรูพืช
การจัดการในหมู่เกษตรกรผู้ปลูกกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกในอินเดีย.
การสำรวจได้ดำเนินการในรัฐคุชราตรัฐเบงกอลตะวันตกและในกรรณาฏักจากตุลาคม 2006 ผ่าน
มกราคม 2007 สามร้อยเกษตรกรถูกสัมภาษณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สารกำจัดศัตรูพืชใน
กะหล่ำปลีกะหล่ำดอกและการผลิต,ค่าใช้จ่ายของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและอักขระทางสังคมและเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อ
กะหล่ำปลีและการผลิตกะหล่ำ.
เกษตรกรพึ่งพาสารกำจัดศัตรูพืชเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญและพิเศษมักจะปลูกพืชคุ้มครอง หนึ่งในสิบของส่วนผสม
ใช้งาน (16.4% ของสารกำจัดศัตรูพืชทั้งหมดรายงานจากเกษตรกรทั้งหมดในการสำรวจครั้งนี้) ถูกระบุว่าเป็นมากหรือสูง
อันตราย (คลาส IA และ IB) โดยองค์การอนามัยโลกผลยืนยันว่าการใช้สารกำจัดศัตรูพืช
แตกต่างระหว่างรัฐของอินเดีย แต่สถานที่เพียงอย่างเดียวที่ไ​​ม่ได้กำหนดรูปแบบการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง ตัวแบบการถดถอย
ถูกนำมาใช้เพื่อระบุปัจจัยที่กำหนดความถี่ในการประยุกต์ใช้สารกำจัดศัตรูพืชและสารกำจัดศัตรูพืชต่อค่าใช้จ่าย
เฮกตาร์ หลังจากที่การควบคุมสำหรับสถานที่ตั้งตัวแปรระดับบุคคลเช่นอายุการศึกษาและประสบการณ์ที่มี
ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับวิธีที่เกษตรกรมักจะพ่น เกษตรกรยังใช้มากขึ้นสำหรับสารกำจัดศัตรูพืชและพ่นขึ้น
บ่อยกว่ากะหล่ำปลีและพันธุ์ผสมเปิดกว่าพันธุ์ลูกผสม.
ค้นพบของเราเน้นการใช้งานที่มากเกินไปของสารกำจัดศัตรูพืชในกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกและการพึ่งพาสารกำจัดศัตรูพืชเป็น
กลยุทธ์การจัดการศัตรูพืชเพียงผลยืนยันความจำเป็นในการเลือกกลยุทธ์การจัดการ
ผัก BT อาจจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางเลือกเหล่านี้ แต่ก็เป็นที่น่าสงสัยว่าการเพาะปลูกพืชผัก
BT จะลดความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในสารกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรรายย่อยจะต้องฝึกอบรม
ในตัวของแมลงศัตรูธรรมชาตินิเวศวิทยาพื้นฐานและการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน
กลยุทธ์เพื่อให้การผลิตพืชอย่างยั่งยืนและปลอดภัย.
©สังคมเกาหลีประยุกต์กีฏวิทยาไต้หวันกีฏวิทยาสังคมและการป้องกันโรงกลั่นในมาเลเซีย
สังคม 2009 เผยแพร่โดยเอลส์อิงค์ สงวนลิขสิทธิ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กะหล่ำปลี (ผัก olearaceae เพียง capitata) และกะหล่ำ (ผักตื่นสายเพียง botrytis) เป็นวิชาที่สอง
ผักผลิต และใช้ในประเทศอินเดีย ปี พวกเขาได้ปลูกมาก นี้
มีผลในอัตราสูงของแมลงรบกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง diamondback moth (Plutella xylostella) และ
แมลงสูงใช้ นี้ เปิด มีส่วนการต้านทานยาฆ่าแมลง ย่อยสลายสิ่งแวดล้อม และ
กระทบต่อสุขภาพมนุษย์ ซึ่งมีการเติบโตสนใจในเทคนิคการการจัดการอื่น
มีขาดแคลนความรู้เกี่ยวกับวิธีบริหารจัดการศัตรูพืชปัจจุบันในกะหล่ำปลีและ crucifer ความรู้
เกี่ยวกับการจัดการศัตรูพืช ปฏิบัติจำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมเช่นพืชรวม
จัดการ วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้เป็นการ ขอรับข้อมูลที่ครอบคลุมบนพืช
วิธีบริหารจัดการระหว่างเกษตรกรที่ปลูกกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอกในอินเดีย
การสำรวจได้ดำเนินการในรัฐคุชราต เบงก อลตะวันตก และรัฐกรณาฏกะจาก 2549 ตุลาคมผ่าน
2550 มกราคม เกษตรกรสามร้อยได้สัมภาษณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลในการใช้ยาฆ่าแมลงในกะหล่ำปลี
และ ผลิตกะหล่ำดอก ต้นทุนของการใช้สารกำจัดศัตรูพืช และอักขระประชากรที่มีอิทธิพลต่อกะหล่ำปลี
ผลิตกะหล่ำได้
เกษตรกรอาศัยในยาฆ่าแมลงเป็นกลยุทธ์ป้องกันพืชหลัก และมักจะร่วมด้วย สิบของการใช้งาน
ส่วนผสม (16.4% สารกำจัดศัตรูพืชทั้งหมดที่รายงาน โดยเกษตรกรทั้งหมดในแบบสำรวจนี้ได้แสดงว่ามาก หรือสูง
อันตราย (เรียน Ia และ Ib) โดยองค์การอนามัยโลก ผลยืนยันที่แมลงใช้
แตกต่างระหว่างอเมริกา อินเดียแต่ที่ตำแหน่งเดียวกำหนดแมลงพ่นลวดลาย A
แบบจำลองถดถอยที่ใช้ในการระบุดีเทอร์มิแนนต์ของความถี่การใช้แมลงและต้นทุนสารกำจัดศัตรูพืชต่อ
hectare หลังจากการควบคุมในตำแหน่งที่ตั้ง มีแต่ละตัวแปรระดับ อายุ การศึกษา และ ประสบการณ์
ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญว่าเกษตรกรมักจะฉีดพ่น เกษตรกรยังใช้เวลามากขึ้นสำหรับสารกำจัดศัตรูพืช และพ่นเพิ่มเติม
บ่อยบนกะหล่ำกว่ากะหล่ำปลี และพันธุ์ pollinated เปิดมากกว่าในลูกผสมพันธุ์ต่าง ๆ
ผลการวิจัยของเราเน้นการใช้ยาฆ่าแมลงในกะหล่ำปลี และกะหล่ำดอก และความเชื่อมั่นมากเกินไปใน
ยาฆ่าแมลงเป็นกลยุทธ์การบริหารศัตรูพืชเท่านั้น ผลยืนยันต้องการการจัดการอื่น
กลยุทธ์ ผักบีทีอาจมีกลยุทธ์ทางเลือกเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็อาจว่า
ปลูกผักบาทจะลดการพึ่งยาฆ่าแมลงที่แข็งแรง ระบุเกษตรกรจะต้อง
ฝึกอบรมในรหัสของศัตรูพืช ศัตรูธรรมชาติ นิเวศวิทยาพื้นฐาน และการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
กลยุทธ์ให้ยั่งยืน และปลอดภัยผักผลิต
© เกาหลีสังคมของใช้กีฏวิทยา สังคม Entomological ไต้หวัน และมาเลเซียพืชป้องกัน
สังคม 2009 เผยแพร่ โดย Elsevier อิงค์ สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กะหล่ำปลี( capitata var. olearaceae กะหล่ำปลี)และกะหล่ำดอก(กะหล่ำปลี botrytis var. oleracea )มีสองหลัก
ผักผลิตและ บริโภค ในประเทศอินเดีย ในช่วงหลายปีที่เขาได้รับการอบรมบ่มนิสัยอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โรงแรมแห่งนี้
ซึ่งจะช่วยทำให้ได้ในอัตราสูงกว่าของการติดแมลงโดยเฉพาะโดยแมลงเม่า diamondback ( xylostella plutella )และการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่าง
ซึ่งจะช่วยเพิ่มสูงขึ้น โรงแรมแห่งนี้ในทางกลับกันมีส่วนในการต่อต้านการเสื่อม สภาพ ยาฆ่าแมลง
ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและ สุขภาพ ของมนุษย์ซึ่งจะมีส่วนทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในเทคนิคการจัดการทางเลือก.
มีการขาดแคลนของความรู้ในการจัดการศัตรูพืชในปัจจุบันใน crucifer และกะหล่ำปลี ความรู้
เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านการกำจัดแมลงมีความจำเป็นจะต้องพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมเช่นการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน
วัตถุประสงค์หลักของการศึกษานี้เป็นการขอรับข้อมูลที่ครอบคลุมในการปฏิบัติด้านการกำจัดแมลง
ซึ่งจะช่วยเกษตรกรเพิ่มขึ้นและกะหล่ำดอกกะหล่ำปลีในอินเดีย.
การสำรวจที่ได้รับการศึกษาในรัฐของรัฐคุชราตเบงกอลตะวันตกและกรณาฏกะตั้งแต่เดือนตุลาคม 2006 ถึงเดือนมกราคม 2007
สามร้อยคนเกษตรกรได้ให้ สัมภาษณ์ ในการขอรับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในกะหล่ำปลีกะหล่ำดอก
และการผลิตราคาของตัวทางเศรษฐกิจสังคมและการใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่มีอิทธิพลต่อการผลิตและกะหล่ำปลีกะหล่ำดอก
ซึ่งจะช่วย.
เกษตรกรเน้นการใช้สารกำจัดศัตรูพืชเป็นกลยุทธ์การป้องกันผลผลิตพืชผลหลักและบ่อยครั้งที่ดีเยี่ยม สิบของ Active Directory
ส่วนผสม( 16.4% ของสารกำจัดศัตรูพืชทั้งหมดรายงานโดยเกษตรกรทั้งหมดในการสำรวจความคิดเห็นนี้)มีอยู่ในรายการเป็นหรือสูง
เป็นอันตราย( IA ชั้นเรียนและวาณิชธนกิจ)โดยองค์กรอนามัยโลกได้ผลที่ได้รับการยืนยันว่าการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่าง
ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างรัฐของอินเดียแต่ว่าที่ตั้งที่อยู่คนเดียวจะไม่กำหนดรูปแบบการฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืช รุ่น
( Log ที่ถูกใช้ในการระบุตัวกำหนดความถี่ของแอปพลิเคชันจากสารเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชต่อ
ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเฮกเตอร์ หลังจากการควบคุมสำหรับที่ตั้งที่เป็นตัวแปรสำคัญระดับรายเดียวเช่นการศึกษาอายุและประสบการณ์
ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่เกษตรกรมักฉีดพ่นได้อย่างไร. เกษตรกรยังใช้เวลามากขึ้นสำหรับสารกำจัดศัตรูพืชและฉีดพ่นสารเคมีมากขึ้น
บ่อยในกะหล่ำดอกมากกว่าที่กะหล่ำปลีและในแบบเปิดโล่งปลูกพืชหลากหลายชนิดมากกว่าที่ระบบไฮบริด.
ของเราจากการสำรวจพบให้ไฮไลต์ที่มากเกินไปการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก,และการพึ่งพา
สารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นเพียงการจัดการศัตรูพืชกลยุทธ์.ผลการยืนยันความต้องการสำหรับทางเลือกการจัดการ
กลยุทธ์ ผัก - ผลไม้ไทยอาจเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางเลือกเหล่านี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังเป็นที่กังขาว่า
การปลูกผักไทยจะลดการพึ่งพาการคาดเดาในสารกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรรายย่อยขนาดเล็กจะต้องใช้
ซึ่งจะช่วยในการระบุตัวตนการฝึกอบรมของศัตรูธรรมชาติศัตรูพืชนิเวศวิทยาแบบเรียบง่ายและการจัดการศัตรูพืชแบบอินทิเกรต
ปรับกลยุทธ์ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าการผลิตพืชอย่างยั่งยืนและตู้นิร ภัย สังคม
©เกาหลีของใช้กีฏวิทยา,ไต้หวัน,มาเลเซียเกี่ยวกับวิชากีฏวิทยาและสังคมพืช
สังคม 2009 เผยแพร่โดย elsevier , Inc .สงวนลิขสิทธิ์