MeHg chloride, which was produced a

MeHg chloride, which was produced as a by-product in the acetaldehyde plant of the
chemical factory located there, was detected in the wastewater from the acetaldehyde plant,
but not from its vinyl chloride plant. Initially, this contaminant had been released into
Minamata Bay for more than a decade causing severe acute poisoning cases in the vicinity.
Acetaldehyde is an intermediate by-product in the manufacture of plastics and its production
had expanded steadily to meet the growing demands for plastics at that time. In order to
increase production, the factory had expanded the manufacturing plants and changed the
drainage site from Minamata Bay to the mouth of the Minamata River [3]. This resulted in
further dissemination of the pollution into the surrounding waters of the Shiranui Sea. The
factory continued the production of acetaldehyde and the release of MeHg into the sea waters
until 1968. Because fishing in that part of the Shiranui Sea was never restricted, people living
in coastal areas–many of whom depended on the sea for a large part of their food supply–were
exposed to MeHg by ingestion of polluted fish [4] resulting in chronic MeHg poisoning

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คลอไรด์ MeHg ซึ่งเป็นผลพลอยได้ในโรงงานของ acetaldehyde ที่ผลิต ในโรงงานเคมีที่อยู่ ตรวจพบในน้ำเสียจากโรงงานของ acetaldehydeแต่ไม่ใช่ จากโรงงานของไวนิลคลอไรด์ เริ่มแรก สารปนเปื้อนนี้มีการปล่อยอ่าวมินะมะตะสำหรับกว่าทศวรรษที่ผ่านมาก่อให้เกิดรุนแรงกรณีพิษเฉียบพลันในบริเวณใกล้เคียงAcetaldehyde เป็นผลพลอยได้เป็นกลางในการผลิตพลาสติกและการผลิตมีขยายอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการเติบโตสำหรับพลาสติกที่ เพื่อเพิ่มการผลิต โรงงานขยายการผลิตพืช และการเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ระบายน้ำจากอ่าวมินะมะตะปากแม่น้ำมินะมะตะ [3] ส่งผลให้เพิ่มเติมเผยแพร่มลพิษในน้ำบริเวณทะเล Shiranui ที่โรงงานยังคงผลิตของ acetaldehyde และรุ่น MeHg เป็นน้ำทะเลจนถึงค.ศ. 1968 เนื่องจากปลาที่เป็นส่วนหนึ่งของทะเล Shiranui ไม่ จำกัด คนที่อาศัยอยู่ในชายฝั่งพื้นที่ – กลุ่มของบุคคลขึ้นอยู่กับทะเลส่วนใหญ่อาหารของพวกเขาจัดหา – ถูกสัมผัสกับ MeHg โดยกินของเสียปลา [4] ใน MeHg เป็นพิษเรื้อรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คลอไรด์ MeHg ซึ่งได้รับการผลิตเป็นผลพลอยได้ในโรงงาน acetaldehyde ของ
โรงงานเคมีอยู่ที่นั่นได้รับการตรวจพบในน้ำทิ้งจากโรงงาน acetaldehyde,
แต่ไม่ได้มาจากโรงงานไวนิลคลอไรด์ของ ในขั้นต้นสารปนเปื้อนนี้ได้รับการปล่อยออกสู่
อ่าว Minamata มานานกว่าทศวรรษที่ผ่านมาก่อให้เกิดกรณีพิษเฉียบพลันอย่างรุนแรงในบริเวณใกล้เคียง.
Acetaldehyde เป็นสื่อกลางโดยผลิตภัณฑ์ในการผลิตพลาสติกและการผลิต
มีการขยายอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับพลาสติกที่ เวลานั้น เพื่อที่จะ
เพิ่มการผลิตจากโรงงานได้ขยายโรงงานผลิตและมีการเปลี่ยนแปลง
การระบายน้ำจากเว็บไซต์ Minamata อ่าวปากแม่น้ำ Minamata [3] นี้ส่งผลใน
การเผยแพร่ต่อไปของมลพิษในน้ำโดยรอบของทะเล Shiranui
โรงงานยังคงผลิต acetaldehyde และเป็นอิสระจาก MeHg ในน้ำทะเล
จนถึงปี 1968 เนื่องจากการประมงในส่วนของ Shiranui ทะเลที่ไม่เคย จำกัด คนที่อาศัยอยู่
ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลหลายคนขึ้นอยู่กับทะเลเป็นส่วนใหญ่ของ อาหารของพวกเขาอุปทานถูก
สัมผัสกับ MeHg โดยการกลืนกินของปลาปนเปื้อนได้ [4] ผลใน MeHg เรื้อรังเป็นพิษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

mehg คลอไรด์ซึ่งถูกผลิตเป็นผลพลอยได้ในการจัดจำหน่ายของพืช
เคมีโรงงานตั้งอยู่ที่นั่น ถูกตรวจพบในน้ำเสียจากสารพืช
แต่ไม่ใช่จากไวนิลคลอไรด์ พืช ในตอนแรก การปนเปื้อนนี้ได้รับการปล่อยตัวใน
อ่าวมินามาตะมากกว่าทศวรรษที่ผ่านมาก่อให้เกิดพิษเฉียบพลันรุนแรง กรณีในบริเวณใกล้เคียง .
อะเซทัลดีไฮด์เป็นผลพลอยได้สื่อกลางในการผลิตพลาสติก และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
การผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับพลาสติกที่ เพื่อ
เพิ่มการผลิต โรงงานได้ขยายการผลิตพืชและเปลี่ยนเว็บไซต์จากอ่าวมินามาตะ
ระบายที่ปากของโรคมินามาตะแม่น้ำ [ 3 ] นี้ส่งผลใน
ต่อการเผยแพร่ของมลพิษในน่านน้ำรอบๆของชิรานุยทะเล
โรงงานอย่างต่อเนื่องการผลิตการจัดจำหน่ายและการเปิดตัวของ mehg ลงน้ำทะเล
จนกระทั่ง 1968 เพราะการตกปลาในส่วนของทะเลชิรานูอิ เคยถูกจำกัด ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่ง
–หลายคนขึ้นอยู่กับทะเลสำหรับส่วนใหญ่ของอุปทานของอาหาร–คือ
เปิดรับ mehg โดยการกลืนกินของไม่สะอาดปลา [ 4 ] ส่งผลให้ mehg พิษเรื้อรัง