The study comes at an important tim

The study comes at an important time in the debate over testing in U.S. schools. In recent years, politicians and educators have debated how much testing is necessary.

Historically, local and state governments have been responsible for schooling. In the 1990s, educators and politicians demanded that the federal government step in. They asked that state and local governments agree to education standards. Some schools in some states and cities were not doing well.

In 2002, Congress passed the No Child Left Behind Act. The law's goal was to improve standards at primary and secondary schools. It required states to find the substandard schools by testing them.

But many students performed poorly even though they graduated from high school. Some were not prepared for college or for a career. Politicians debated about using national standards to measure education across the US.

They never reached an agreement.

In 2009, some U.S. states began the Common Core Standards Initiative. Common Core sets milestones students should reach for English, Language Arts and mathematics. States that have adopted Common Core will test to measure student's success in the same subject areas.

However, local and state governments can also give their own tests. And those tests differ, even if they cover the same subject. This partly explains why schools give so many tests in the U.S.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษามาเป็นเวลาที่สำคัญในการอภิปรายมากกว่าการทดสอบในโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา ในปีล่าสุด นักการเมืองและนักการศึกษามีถกเถียงกันมากการทดสอบจำเป็นอดีต รัฐบาลท้องถิ่น และรัฐได้รับผิดชอบการศึกษา ในปี 1990 นักการศึกษาและนักการเมืองเรียกร้องว่า รัฐบาลขั้นตอนใน พวกเขาถามว่า รัฐและรัฐบาลท้องถิ่นยอมรับมาตรฐานการศึกษา บางโรงเรียนในบางรัฐและเมืองทำไม่ดีใน 2002 สภาคองเกรสผ่านไม่เด็กซ้ายหลังพระราชบัญญัติ เป้าหมายของกฎหมายคือการ ปรับปรุงมาตรฐานประถมและโรงเรียนมัธยม มันต้องอเมริกาค้นหาโรงเรียนมาตรฐาน โดยการทดสอบนั้นแต่นักเรียนหลายคนทำไม่ดีแม้ว่าพวกเขาจบศึกษาจากโรงเรียนมัธยม บางอย่างไม่ได้เตรียม สำหรับวิทยาลัย หรืออาชีพ นักการเมืองถกเถียงเกี่ยวกับการใช้มาตรฐานแห่งชาติเพื่อวัดการศึกษาทั่วสหรัฐอเมริกาพวกเขาไม่เคยมาถึงข้อตกลงใน 2009 บางรัฐของสหรัฐเริ่มริเริ่มมาตรฐานหลักทั่วไป หลักของชุดเหตุการณ์สำคัญที่นักเรียนควรเข้าถึงภาษาอังกฤษ ศิลปะการใช้ภาษา และคณิตศาสตร์ อเมริกาที่ได้นำหลักของจะทดสอบเพื่อวัดความสำเร็จของนักเรียนในเรื่องเดียวกันอย่างไรก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่น และรัฐสามารถยังให้ทดสอบตัวเอง และทดสอบเหล่านั้นแตกต่าง กัน แม้ว่าพวกเขาครอบคลุมเรื่องเดียวกัน นี้อธิบายบางส่วนทำไมโรงเรียนให้ทดสอบมากมายในสหรัฐอเมริกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษามาในเวลาที่สำคัญในการอภิปรายมากกว่าการทดสอบในโรงเรียนสหรัฐ ในปีที่ผ่านมานักการเมืองและนักการศึกษามีการถกเถียงกันว่าการทดสอบเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก. ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและรัฐบาลของรัฐได้รับความรับผิดชอบในการเรียนการสอน ในปี 1990 การศึกษาและนักการเมืองถามว่าขั้นตอนในรัฐบาล. พวกเขาถามว่ารัฐและรัฐบาลท้องถิ่นยอมรับมาตรฐานการศึกษา บางโรงเรียนในบางรัฐและเมืองที่ไม่ได้ทำดี. ในปี 2002 สภาคองเกรสผ่านไม่มีลูกหลังจากพระราชบัญญัติ เป้าหมายของกฎหมายคือการปรับปรุงมาตรฐานในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มันจำเป็นที่รัฐจะหาโรงเรียนที่ต่ำกว่ามาตรฐานโดยการทดสอบพวกเขา. แต่นักเรียนหลายคนทำเลวถึงแม้ว่าพวกเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม บางคนไม่ได้เตรียมไว้สำหรับวิทยาลัยหรือสำหรับการประกอบอาชีพ นักการเมืองถกเถียงกันเกี่ยวกับการใช้มาตรฐานระดับชาติในการวัดการศึกษาในสหรัฐอเมริกา. พวกเขาไม่เคยบรรลุข้อตกลง. ในปี 2009 บางรัฐของสหรัฐอเมริกาเริ่มสามัญมาตรฐานหลักความคิดริเริ่ม หลักทั่วไปชุดนักเรียนควรจะถึงเหตุการณ์สำคัญสำหรับภาษาอังกฤษ, ภาษาศิลปะและคณิตศาสตร์ สหรัฐอเมริกาที่ได้นำหลักทั่วไปจะทดสอบเพื่อวัดความสำเร็จของนักเรียนในพื้นที่เรื่องเดียวกัน. อย่างไรก็ตามรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐยังสามารถให้การทดสอบของตัวเอง และการทดสอบเหล่านั้นแตกต่างกันถึงแม้ว่าพวกเขาครอบคลุมเรื่องเดียวกัน ส่วนนี้จะอธิบายว่าทำไมโรงเรียนให้การทดสอบจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา