1. ยุคบุกเบิก (ค.ศ. 1815 – 1907)การ

1. ยุคบุกเบิก (ค.ศ. 1815 – 1907)
การทดลองของเอดิสันและคณะ
เอดิสันและดิคสันได้มาทำงานทดลองเกี่ยวกับภาพยนตร์ในราวปี ค.ศ. 1888 จนสามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนตร์เครื่องแรกของโลกได้สำเร็จ ในปี ค.ศ.1889 เรียกชื่อว่า Kinetograph นอกจากนี้ ยังได้ประดิษฐ์เครื่องฉายภาพยนตร์ที่เรียกว่า Kinetoscope ขึ้นด้วย แต่เป็นเครื่องฉายในลักษณะ “ถ้ำมอง” (Peep-Show) ที่ดูได้คราวละหนึ่งคน



สิ่งประดิษฐ์ของพี่น้องลูมิแอร์
เนื่องจากว่าเอดิสันได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์เครื่องฉายและกล้องถ่ายภาพยนตร์
ของเขาแต่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาบรรดานักประดิษฐ์ชาวยุโรปชาติต่างๆ ที่สนใจและค้นคว้าในเรื่องนี้อยู่แล้วเมื่อได้มาชมนิทรรศการประดิษฐกรรม
ของเอดิสันจึงสามารถลอกแบบและนำไปปรับปรุงให้ดีกว่าได




นักประดิษฐ์คู่หนึ่งที่นับว่ามีบทบาทสำคัญมากก็คือ พี่น้องลูมิแอร์ อันได้แก่ Auguste และ Louise Lumiere ซึ่งได้ทดลองออกแบบกล้องถ่ายภาพยนตร์ขึ้น โดยให้ชื่อประดิษฐกรรมนี้ว่า Cinematography ซึ่งมีข้อดีกว่ากล้องของเอดิสัน คือ เป็นทั้งเครื่องถ่ายและเครื่องฉายได้ในตัวเดียว และมีน้ำหนักเบากว่า จึงสามารถนำออกไปถ่ายทำหนังนอกสถานที่ได้ภาพยนตร์เรื่องแรกที่
พี่น้องลูมิแอร์ถ่ายทำขึ้นก็คือ La Sortie des ouvriers de
I’ usine Lumiere (คนงานออกจากโรงงานลูมิแอร์) แสดงให้เห็นภาพชีวิตประจำวันของคนงานที่ออกจากโรงงาน การจัดฉายภาพยนตร์ของลูมิแอร์ให้สาธารณชนชมเป็นครั้งแรกทำกันที่ห้อง
ใต้ถุนของร้าน Grand Cafe ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1895 (และถือว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของภาพยนตร์ในเชิงธุรกิจ) ซึ่งก็ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นพอสมควรเนื่องจากเมื่อหนังฉายภาพ
รถไฟที่พุ่งตรงเข้ามาหาคนดูทำให้คนดูหลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่
นี้ตกใจและวิ่งหนีเพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. ยุคบุกเบิก (ค.ศ. 1815 – 1907)การทดลองของเอดิสันและคณะเอดิสันและดิคสันได้มาทำงานทดลองเกี่ยวกับภาพยนตร์ในราวปีค.ศ. 1888 จนสามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนตร์เครื่องแรกของโลกได้สำเร็จในปี ค.ศ.1889 เรียกชื่อว่า Kinetograph นอกจากนี้ยังได้ประดิษฐ์เครื่องฉายภาพยนตร์ที่เรียกว่า Kinetoscope ขึ้นด้วยแต่เป็นเครื่องฉายในลักษณะ "ถ้ำมอง" (แสดง Peep) ที่ดูได้คราวละหนึ่งคน สิ่งประดิษฐ์ของพี่น้องลูมิแอร์เนื่องจากว่าเอดิสันได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์เครื่องฉายและกล้องถ่ายภาพยนตร์ของเขาแต่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาบรรดานักประดิษฐ์ชาวยุโรปชาติต่าง ๆ ที่สนใจและค้นคว้าในเรื่องนี้อยู่แล้วเมื่อได้มาชมนิทรรศการประดิษฐกรรมของเอดิสันจึงสามารถลอกแบบและนำไปปรับปรุงให้ดีกว่าไดนักประดิษฐ์คู่หนึ่งที่นับว่ามีบทบาทสำคัญมากก็คือพี่น้องลูมิแอร์อันได้แก่โอกุสต์และหลุยส์ลูซึ่งได้ทดลองออกแบบกล้องถ่ายภาพยนตร์ขึ้นโดยให้ชื่อประดิษฐกรรมนี้ว่าเล่าซึ่งมีข้อดีกว่ากล้องของเอดิสันคือเป็นทั้งเครื่องถ่ายและเครื่องฉายได้ในตัวเดียวและมีน้ำหนักเบากว่าจึงสามารถนำออกไปถ่ายทำหนังนอกสถานที่ได้ภาพยนตร์เรื่องแรกที่พี่น้องลูมิแอร์ถ่ายทำขึ้นก็คือลา Sortie des ouvriers de ฉัน ' usine ลู (คนงานออกจากโรงงานลูมิแอร์) แสดงให้เห็นภาพชีวิตประจำวันของคนงานที่ออกจากโรงงานการจัดฉายภาพยนตร์ของลูมิแอร์ให้สาธารณชนชมเป็นครั้งแรกทำกันที่ห้องใต้ถุนของร้าน Grand Cafe ในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1895 (และถือว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของภาพยนตร์ในเชิงธุรกิจ) ซึ่งก็ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นพอสมควรเนื่องจากเมื่อหนังฉายภาพรถไฟที่พุ่งตรงเข้ามาหาคนดูทำให้คนดูหลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่นี้ตกใจและวิ่งหนีเพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. ยุคบุกเบิก ( ค.ศ. 1815-1907)
หัวเรื่อง: การทดลองของคุณเอดิสันและคณะ
คุณเอดิสันและดิคสันได้มาทำงานทดลองเกี่ยวกับภาพยนตร์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดราวปี ค.ศ. 1888 จนสามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนตร์เครื่องแรกของ โลกได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1889 เรียกชื่อว่า Kinetograph นอกจากนี้ยังได้ประดิษฐ์เครื่องฉายภาพยนตร์ ที่เรียกว่า Kinetoscope ขึ้นด้วย แต่เป็นเครื่องฉายในลักษณะ "ถ้ำมอง" (Peep-แสดง) ที่ดูได้คราวคุณละคุณหนึ่งของคุณคน



สิ่งประดิษฐ์ของพี่น้องลูมิแอร์
เนื่องจากว่าได้คุณเอดิสันได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยเครื่องฉายและกล้องถ่ายภาพยนตร์
ของเขา แต่เฉพาะในห้างหุ้นส่วนจำกัดออกประเทศสหรัฐอเมริกาบรรดานักประดิษฐ์ชาวยุโรปคุณชาติต่างๆที่สนใจและค้นคว้าในห้างหุ้นส่วนจำกัดเรื่องนี้ขณะนี้แล้ว เมื่อได้มาชมนิทรรศการประดิษฐกรรม
ของคุณเอดิสันจึงด้านลอกแบบและนำไปปรับปรุงให้ดีกว่าได




นักประดิษฐ์คู่คุณหนึ่งที่นับว่าได้มีบทบาทสำคัญมากก็คือพี่น้องลูมิแอร์อัน ได้แก่ ออกุสและหลุยส์ Lumiere ซึ่งได้ทดลองออกแบบกล้อง ถ่ายภาพยนตร์ขึ้นโดยให้ชื่อประดิษฐกรรมนี้ว่าภาพยนตร์ซึ่งมีข้อดีกว่ากล้องของเอดิ สันคือเป็นทั้งเครื่องถ่ายและเครื่องฉายได้ในตัวเดียวและมีน้ำหนักเบากว่าจึงสามารถนำออกไปถ่ายทำหนังนอกสถานที่ได้ภาพยนตร์เรื่องแรก ที่
พี่น้องลูมิแอร์ถ่ายทำขึ้นก็คือ La เที่ยว des ouvriers เดอ
ฉัน Usine Lumiere (คนงานออกจากโรงงานลูมิแอร์) แสดงให้เห็นภาพชีวิตประจำวันของ คนงานที่ออกจากโรงงานการจัดฉายภาพยนตร์ของลูมิ แอร์ให้สาธารณชนชมเป็นครั้งแรกทำกันที่ห้อง
ใต้ถุนของร้านแกรนด์คาเฟ่ในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1895 (และถือว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้น ของภาพยนตร์ในเชิงธุรกิจ ) ซึ่งก็ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้น พอสมควร เมื่อหนังเนื่องจากฉายภาพ
รถไฟที่พุ่งตรงเข้ามาหาของคุณคนดูทำให้ของคุณคนดูหลายของคุณคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่
นี้ตกใจและวิ่งหนีเพราะคิดว่าได้เป็นเรื่องจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ยุคบุกเบิก ( ค . ศ . ค.ศ. 1815 – 1907 )การทดลองของเอดิสันและคณะเอดิสันและดิคสันได้มาทำงานทดลองเกี่ยวกับภาพยนตร์ในราวปีค . ศ . 1 จนสามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนตร์เครื่องแรกของโลกได้สำเร็จสามารถค . ศ . 1889 เรียกชื่อว่าคิเนโตกราฟนอกจากนี้ยังได้ประดิษฐ์เครื่องฉายภาพยนตร์ที่เรียกว่าคิเนโตสโคปขึ้นด้วยแต่เป็นเครื่องฉายในลักษณะ " ถ้ำมอง " ( แอบดู ) ที่ดูได้คราวละหนึ่งคนสิ่งประดิษฐ์ของพี่น้องลูมิแอร์เนื่องจากว่าเอดิสันได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์เครื่องฉายและกล้องถ่ายภาพยนตร์ของเขาแต่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาบรรดานักประดิษฐ์ชาวยุโรปชาติต่างๆที่สนใจและค้นคว้าในเรื่องนี้อยู่แล้วเมื่อได้มาชมนิทรรศการประดิษฐกรรมของเอดิสันจึงสามารถลอกแบบและนำไปปรับปรุงให้ดีกว่าไดนักประดิษฐ์คู่หนึ่งที่นับว่ามีบทบาทสำคัญมากก็คือพี่น้องลูมิแอร์อันได้แก่และหลุยส์ออกุสต์ ลูเมียซึ่งได้ทดลองออกแบบกล้องถ่ายภาพยนตร์ขึ้นโดยให้ชื่อประดิษฐกรรมนี้ว่าภาพยนตร์ซึ่งมีข้อดีกว่ากล้องของเอดิสันความเป็นทั้งเครื่องถ่ายและเครื่องฉายได้ในตัวเดียวและมีน้ำหนักเบา กว่าจึงสามารถนำออกไปถ่ายทำหนังนอกสถานที่ได้ภาพยนตร์เรื่องแรกที่พี่น้องลูมิแอร์ถ่ายทำขึ้นก็คือลาออก ouvriers เดอเดผม usine ลูมีแยร์ ( คนงานออกจากโรงงานลูมิแอร์ ) แสดงให้เห็นภาพชีวิตประจำวันของคนงานที่ออกจากโรงงานการจัดฉายภาพยนตร์ของลูมิแอร์ให้สาธารณชนชมเป็นครั้งแรกทำกันที่ห้องใต้ถุนของร้านแกรนด์ คาเฟ่ในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1895 ( และถือว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของภาพยนตร์ในเชิงธุรกิจ ) ซึ่งก็ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นพอสมควรเนื่องจากเมื่อหนังฉายภาพรถไฟที่พุ่งตรงเข้ามาหาคนดูทำให้คนดูหลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่นี้ตกใจและวิ่งหนีเพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริง