was a wave of demonstrations and ci

was a wave of demonstrations and civil unrest in Ukraine, which began on the night of 21 November 2013 with public protests in Maidan Nezalezhnosti ("Independence Square") in Kiev, demanding closer European integration. The scope of the protests expanded, with many calls for the resignation of President Viktor Yanukovych and his government.[75] The protests ultimately led to the 2014 Ukrainian revolution. Many protesters joined because of the violent dispersal of protesters on 30 November and "a will to change life in Ukraine".[5] By 25 January 2014, the protests had been fuelled by the perception of "widespread government corruption", "abuse of power", and "violation of human rights in Ukraine".[76]

The protests reached a climax during mid-February. On 18 February, the worst clashes of Euromaidan broke out after the parliament did not accede to demands that the Constitution of Ukraine be rolled back to its pre-2004 form, which would lessen presidential power. Police and protesters fired guns, with both live and rubber ammunition, in multiple locations in Kiev. The riot police advanced towards Maidan later in the day and clashed with the protesters but did not fully occupy it. The fights continued through the following days, in which the vast majority of casualties took place. On the night of 21 February, Maidan vowed to go into armed conflict if Yanukovych did not resign by 10:00 AM. Subsequently, the riot police retreated and Yanukovych and many other high government officials fled the country. Protesters gained control of the presidential administration and Yanukovych's private estate. The next day, the parliament impeached Yanukovych, replaced the government with a pro-European one, and ordered that Yulia Tymoshenko be released from prison. In the aftermath, the Crimean crisis began amid pro-Russian unrest.

Despite the impeachment of Yanukovych, the installation of a new government, and the signature of the political provisions of the Ukraine-EU Association Agreement, the protests have been ongoing to sustain pressure on the government, counter pro-Russian protests, and reject Russian occupation of Ukraine. The general area of the pro-Ukraine and pro-Europe protests has shifted from Kiev and western Ukraine to include the eastern and southern areas of the country as well.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีคลื่นของการสาธิตและความไม่สงบแพ่งในยูเครน ซึ่งเริ่มต้นในคืน 21 2013 พฤศจิกายน ด้วยประท้วงสาธารณะในนิวเดลี Nezalezhnosti ("เอกราชสแควร์") ในเคียฟ เรียกร้องรวมยุโรปใกล้ชิด ขอบเขตของการประท้วงขยาย มีการเรียกในการลาออกของประธานาธิบดี Viktor Yanukovych และรัฐบาลของเขา[75] ประท้วงสุดนำไปสู่การปฏิวัติยูเครน 2014 ผู้ประท้วงจำนวนมากเข้าร่วมเนื่องจาก dispersal รุนแรงประท้วงที่ 30 พฤศจิกายนและ "จะเปลี่ยนแปลงชีวิตในยูเครน"[5] โดย 25 2014 มกราคม ประท้วงที่มีการเติมพลัง ด้วยการรับรู้ของ "อย่างกว้างขวางรัฐบาลทุจริต" "ขึ้น" และ "การละเมิดสิทธิมนุษยชนในยูเครน"[76]ประท้วงการถึงจุดสุดยอดเป็นช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ กุมภาพันธ์ 18 การปะทะกันที่เลวร้ายที่สุดของ Euromaidan ร้องไห้หลังจากที่รัฐสภาได้รับปากกับรัฐธรรมนูญยูเครนถูกย้อนกลับไปรูปแบบก่อนปี 2004 ซึ่งจะลดอำนาจประธานาธิบดีไม่ ตำรวจและผู้ชุมนุมยิงปืน มีทั้งสด และ กระสุนยาง ในเคียฟซุลฮานี่ จลาจลตำรวจขั้นสูงไปยังนิวเดลีในวัน และกระทบกับการชุมนุมประท้วง แต่ได้ไม่ครบครอง ต่อสู้อย่างต่อเนื่องผ่านวันต่อไปนี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่เกิดขึ้น ในคืน 21 กุมภาพันธ์ นิวเดลี vowed เข้าสู้ถ้า Yanukovych ได้ไม่เลิกเล่น โดย 10:00 น. ต่อมา ถอยกรูดอย่างตำรวจปราบ และ Yanukovych และหลายอื่น ๆ สูงราชการหนีประเทศ ผู้ประท้วงได้รับการควบคุมดูแลประธานาธิบดีและทรัพย์ส่วนตัวของ Yanukovych ในวันถัดไป รัฐสภา impeached Yanukovych แทนรัฐบาลด้วยยุโรปสนับสนุน และสั่งว่า Tymoshenko ยูเลียออกจากคุก ควัน วิกฤตไครเมียเริ่มต้นท่ามกลางความไม่สงบรัสเซียสนับสนุนแม้ มีการ impeachment Yanukovych การติดตั้งของรัฐบาล และลายเซ็นของบทบัญญัติของข้อตกลงความสัมพันธ์ EU ยูเครน เมืองชุมนุมได้อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความดันในรัฐบาล เคาน์เตอร์รัสเซียสนับสนุนประท้วง และปฏิเสธการยึดครองรัสเซียยูเครน พื้นที่ทั่วไปของการประท้วงสนับสนุนยูเครน และยุโรปสนับสนุนได้เปลี่ยนจากเคียฟยูเครนตะวันตกรวมพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ของประเทศเช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นคลื่นของการประท้วงและความไม่สงบในยูเครนซึ่งเริ่มในคืนวันที่ 21 พฤศจิกายน 2013 ที่มีการประท้วงของประชาชนในเด็ Nezalezhnosti ("อิสรภาพสแควร์") ในเคียฟ, ความต้องการใกล้ชิดบูรณาการยุโรป ขอบเขตของการประท้วงขยายกับสายจำนวนมากสำหรับการลาออกของประธานาธิบดีวิคเตอร์ Yanukovych และรัฐบาลของเขา. [75] การประท้วงในที่สุดนำไปสู่การปฏิวัติ 2014 ยูเครน ผู้ประท้วงหลายคนได้เข้าร่วมเพราะการกระจายความรุนแรงของการชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายนและ "ประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตในยูเครน". [5] เมื่อ 25 มกราคม 2014 การประท้วงที่ได้รับการผลักดันจากการรับรู้ของ "การทุจริตของรัฐบาลอย่างกว้างขวาง", "การละเมิด อำนาจ "และ" การละเมิดสิทธิมนุษยชนในยูเครน ". [76] การประท้วงถึงจุดสุดยอดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์การปะทะกันที่เลวร้ายที่สุดของยูโรไมดานโพล่งออกมาหลังจากที่รัฐสภาไม่ยอมทำตามความต้องการว่ารัฐธรรมนูญของยูเครนจะย้อนกลับไปสู่รูปแบบก่อน 2004 ซึ่งจะช่วยลดอำนาจของประธานาธิบดี ตำรวจและผู้ประท้วงยิงปืนที่มีทั้งสดและกระสุนยางในหลายสถานที่ในเคียฟ ตำรวจปราบจลาจลก้าวไปสู่เด็นต่อไปในวันและปะทะกับผู้ประท้วง แต่ไม่ได้อย่างเต็มที่ครอบครองมัน การต่อสู้อย่างต่อเนื่องผ่านวันต่อไปนี้ซึ่งในส่วนใหญ่ของการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้น ในคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์, เด็นสาบานว่าจะไปสู่ความขัดแย้งถ้า Yanukovych ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งโดย 10:00 ต่อมาตำรวจปราบจลาจลถอยและ Yanukovych และเจ้าหน้าที่หลายรัฐบาลสูงอื่น ๆ หนีออกนอกประเทศ ผู้ประท้วงได้รับการควบคุมของการบริหารของประธานาธิบดีและที่ดินส่วนตัวของ Yanukovych วันรุ่งรัฐสภา impeached Yanukovych แทนที่รัฐบาลกับหนึ่งโปรยุโรปและสั่งว่า Yulia Tymoshenko และได้รับการปล่อยตัวจากคุก ในผลพวงวิกฤตไครเมียเริ่มท่ามกลางความไม่สงบโปรรัสเซีย. แม้จะมีการฟ้องร้องของ Yanukovych ติดตั้งรัฐบาลใหม่และลายเซ็นของบทบัญญัติทางการเมืองของสมาคมสหภาพยุโรปยูเครนข้อตกลงการประท้วงที่ได้รับการอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความดัน ในรัฐบาลตอบโต้การประท้วงโปรรัสเซียและปฏิเสธการยึดครองของรัสเซียยูเครน พื้นที่โดยทั่วไปของโปรยูเครนและการประท้วงโปรยุโรปได้เปลี่ยนจากเคียฟและทางตะวันตกของยูเครนที่จะรวมพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศได้เป็นอย่างดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นคลื่นของการประท้วงสงครามกลางเมืองและความไม่สงบในยูเครน ซึ่งเริ่มขึ้นในคืนวันที่ 21 พฤศจิกายน 2013 ข่าวประท้วงในเด็น nezalezhnosti ( " Independence Square ) ในเคียฟ , ความต้องการของการบูรณาการยุโรปใกล้ชิด ขอบเขตของการขยายตัว กับโทรศัพท์มากมาย สำหรับการลาออกของประธานาธิบดี Viktor Yanukovych และรัฐบาลของเขา[ 75 ] การประท้วงในที่สุดนำไปสู่ 2014 ยูเครนการปฏิวัติ กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงได้ เพราะการแพร่กระจายความรุนแรงของผู้ประท้วงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน และ " จะเปลี่ยนชีวิตในยูเครน " [ 5 ] โดย 25 มกราคม 2014 ประท้วงได้รับเชื้อเพลิงโดยการรับรู้ " ฉาวการทุจริตของรัฐบาล " , " การใช้อำนาจในทางที่ผิด " และ " การละเมิดสิทธิมนุษยชนในยูเครน " . 76 ]

การประท้วงถึงจุดสุดยอดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ แต่ที่เลวร้ายที่สุดของ euromaidan โพล่งออกมาหลังจากที่รัฐสภาไม่ได้ทำตามความต้องการที่รัฐธรรมนูญของยูเครนถูกรีดกลับไปที่รูปแบบ pre-2004 ของมันซึ่งจะลดทอนอำนาจของประธานาธิบดี ตำรวจและผู้ประท้วงยิงปืน มีทั้งสด และกระสุนยาง หลายๆแห่งในเคียฟตำรวจปราบจลาจลขั้นสูงต่อเด็นในภายหลังในวัน และปะทะกับผู้ประท้วง แต่ทำไม่เต็มที่ครอบครองมัน การต่อสู้อย่างต่อเนื่องผ่านวันต่อไปซึ่งในส่วนใหญ่ของความเสียหายที่เกิดขึ้น ในคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เด็นสาบานที่จะเข้าไปในความขัดแย้งถ้า Yanukovych ไม่ได้ลาออกตอน 10 โมงเช้า ต่อมาตำรวจปราบจลาจลและ retreated Yanukovych และสูงมาก ข้าราชการอื่น ๆ หนีออกนอกประเทศ ผู้ประท้วงได้ควบคุมการบริหารของประธานาธิบดี Yanukovych ของเอกชน และอสังหาริมทรัพย์ วันต่อมารัฐสภา impeached Yanukovych , แทนที่รัฐบาลกับโปรยุโรปหนึ่งและสั่งให้ Yulia Tymoshenko ได้รับการปล่อยตัวจากคุก ในผลที่ตามมาวิกฤตไครเมียเริ่มโปรรัสเซียท่ามกลางความไม่สงบ

แม้จะถอดถอน Yanukovych , การติดตั้งของรัฐบาลใหม่ และลายเซ็นของบทบัญญัติทางการเมืองของยูเครนสหภาพยุโรปสมาคมข้อตกลง การประท้วงที่ได้รับอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความดันในรัฐบาล ที่เคาน์เตอร์โปรรัสเซียประท้วงและปฏิเสธการยึดครองของรัสเซียยูเครนพื้นที่ทั่วไปของโปรยูเครนและโปรยุโรปประท้วงได้เปลี่ยนจากเคียฟและยูเครนตะวันออกและตะวันตก รวมถึงพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศได้เป็นอย่างดี