Child welfare workers are routinely

Child welfare workers are routinely exposed to multiple traumatic events when working with children and families, and are at an increased risk of experiencing burnout and secondary trauma. Self-care is often recommended as a restorative or protective activity against the negative effects of working with traumatized individuals, although few studies have examined the benefit of self-care empirically. Trauma-informed self-care (TISC) includes being aware of one's own emotional experience in response to exposure to traumatized clients and planning/engaging in positive coping strategies, such as seeking supervision, attending trainings on secondary trauma, working within a team, balancing caseloads, and work–life balance. Compared with generic personal care activities, TISC is likely to be especially relevant for child welfare workers. This study examined the role of TISC on compassion satisfaction, burnout and secondary trauma which was assessed by administering surveys to a sample of 104 child welfare case managers and supervisors. Almost one third of the sample reported high levels of burnout (29.8%) and secondary trauma (28.8%), and low levels of compassion satisfaction (31.7%). Results suggested that workers who engaged in higher levels of TISC experienced higher levels of compassion satisfaction and lower levels of burnout, although there was no relationship with secondary trauma. Findings provide preliminary evidence that TISC may be a beneficial practice to reduce risk of burnout and preserve workers' positive experience of their job, however workers experiencing secondary trauma are likely to need additional specialized intervention to assist them with their recovery.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เด็กสวัสดิการแรงงานประจำกำลังเผชิญกับหลายเหตุการณ์ที่เจ็บปวดเมื่อทำงานกับเด็กและครอบครัว และประสบปัญหาถูกกระทำอย่างรุนแรงและบาดเจ็บรองการเสี่ยง สุขภาพมักจะแนะนำเป็นกิจกรรมฟื้นฟู หรือป้องกันกับกระทบการทำงานกับบุคคลบอบช้ำ ถึงแม้ว่าศึกษาไม่มีการตรวจสอบประโยชน์ของสุขภาพ empirically บาดเจ็บทราบสุขภาพ (TISC) รวมถึงการตระหนักถึงตัวเองอารมณ์ประสบการณ์การสัมผัสกับลูกค้าที่บอบช้ำและการวางแผน/เสน่ห์ในบวกฝรั่ง เช่นกำกับดูแลแสวงหา เข้าร่วมอบรมในบาดเจ็บรอง ทำงานภายในทีม ดุล caseloads และยอดดุลการทำงานชีวิต เมื่อเทียบกับกิจกรรมการดูแลส่วนบุคคลทั่วไป TISC มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ปฏิบัติงานสวัสดิการเด็ก การศึกษานี้ตรวจสอบบทบาทของ TISC ในคุณค่าความพึงพอใจ ถูกกระทำอย่างรุนแรง และบาดเจ็บรองซึ่งถูกประเมิน โดยการจัดการสำรวจตัวอย่าง 104 เด็กสวัสดิการกรณีผู้จัดการและผู้บังคับบัญชา เกือบหนึ่งในสามของตัวอย่างรายงานระดับสูงของการถูกกระทำอย่างรุนแรง (29.8%) และบาดเจ็บรอง (28.8%), และระดับต่ำของคุณค่าความพึงพอใจ (31.7%) ผลแนะนำว่า คนในระดับที่สูงขึ้นของ TISC ประสบการณ์คุณค่าความพึงพอใจในระดับสูงและระดับล่างของถูกกระทำอย่างรุนแรง แม้จะไม่มีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บรอง ผลการวิจัยมีหลักฐานเบื้องต้นว่า TISC อาจปฏิบัติเป็นประโยชน์เพื่อลดความเสี่ยงของการถูกกระทำอย่างรุนแรง และรักษาประสบการณ์บวกแรงงานของพวกเขา แต่คนที่ประสบปัญหาบาดเจ็บรองจะต้องแทรกแซงเฉพาะเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้การกู้คืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนงานสวัสดิภาพเด็กมีการสัมผัสเป็นประจำกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจหลายเมื่อทำงานกับเด็กและครอบครัวและมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการประสบความเหนื่อยหน่ายและการบาดเจ็บรอง การดูแลตนเองมักจะแนะนำเป็นกิจกรรมบูรณะหรือป้องกันผลกระทบเชิงลบของการทำงานกับบุคคลที่บาดเจ็บทางกายแม้ว่าการศึกษาน้อยมีการตรวจสอบได้รับประโยชน์จากการดูแลตนเองสังเกตุ บาดเจ็บทราบการดูแลตนเอง (TISC) รวมถึงการตระหนักถึงประสบการณ์ทางอารมณ์ของตัวเองในการตอบสนองต่อการสัมผัสกับลูกค้าบอบช้ำและการวางแผน / การมีส่วนร่วมในกลวิธีการเผชิญปัญหาในเชิงบวกเช่นที่กำลังมองหาการกำกับดูแลที่เข้าร่วมการฝึกอบรมเกี่ยวกับการบาดเจ็บรองการทำงานภายในทีมสมดุล caseloads และสมดุลชีวิตการทำงาน เมื่อเทียบกับการจัดกิจกรรมการดูแลส่วนบุคคลทั่วไป TISC มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนงานสวัสดิภาพเด็ก การศึกษาครั้งนี้การตรวจสอบบทบาทของ TISC กับความพึงพอใจความเห็นอกเห็นใจความเหนื่อยหน่ายและการบาดเจ็บที่สองซึ่งได้รับการประเมินโดยการบริหารการสำรวจตัวอย่าง 104 เด็กกรณีผู้จัดการสวัสดิการและหัวหน้างาน เกือบหนึ่งในสามของกลุ่มตัวอย่างที่มีการรายงานระดับสูงของความเหนื่อยหน่าย (29.8%) และการบาดเจ็บรอง (28.8%) และระดับต่ำของความพึงพอใจของความเห็นอกเห็นใจ (31.7%) ผลการชี้ให้เห็นว่าคนงานที่กำลังทำงานอยู่ในระดับที่สูงขึ้นของ TISC ประสบการณ์ระดับที่สูงขึ้นของความพึงพอใจความเมตตาและระดับล่างของความเหนื่อยหน่ายแม้จะมีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บที่สองไม่มี ผลการวิจัยแสดงหลักฐานเบื้องต้นที่ TISC อาจจะมีการปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของความเหนื่อยหน่ายและรักษาประสบการณ์ที่ดีของคนงานของงานของพวกเขา แต่คนงานประสบการบาดเจ็บที่สองมีแนวโน้มที่จะต้องมีการแทรกแซงพิเศษเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้พวกเขากับการกู้คืนของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สวัสดิการแรงงานเด็กตรวจเปิดเผยเหตุการณ์ traumatic หลายเมื่อทำงานกับเด็กและครอบครัว และมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการประสบความเหนื่อยหน่ายและการบาดเจ็บทุติยภูมิ การดูแลตนเอง มักจะเป็น แนะนำเป็นเชิงป้องกัน หรือ กิจกรรม กับ ผลกระทบเชิงลบของการทำงานกับเด็ก บุคคลแม้ว่ามีการศึกษาน้อยได้รับประโยชน์ของการใช้ . บาดเจ็บทราบการดูแลตนเอง ( tisc ) รวมถึงการตระหนักถึงอารมณ์ของตนเอง ประสบการณ์ในการตอบสนองต่อแสงทำร้ายจิตใจลูกค้าและวางแผน / มีส่วนร่วมในเชิงบวกในการเผชิญความเครียด เช่น การนิเทศ เข้าร่วมการฝึกอบรม ความชอกช้ำ มัธยม ทำงานภายในทีม และ caseloads สมดุล , สมดุลชีวิตและงานเมื่อเทียบกับกิจกรรมการดูแลบุคคลทั่วไป tisc มีแนวโน้มที่จะเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการแรงงานเด็ก ศึกษาบทบาทของ tisc ความเมตตา ความเหนื่อยหน่าย และมัธยมแผลที่ถูกประเมินโดยให้สํารวจ จำนวน 104 สวัสดิการเด็ก กรณี ผู้จัดการและหัวหน้างาน เกือบหนึ่งในสามของตัวอย่างรายงานระดับความเหนื่อยหน่าย ( 298 % ) และการบาดเจ็บทุติยภูมิ ( 28.8 % ) และระดับต่ำของความเมตตา ( เฉลี่ย % ) ผลการศึกษาพบว่า คนงานที่ร่วมในระดับที่สูงขึ้นของ tisc ที่มีระดับที่สูงขึ้นของความเมตตาและระดับล่างของความเหนื่อยหน่าย ถึงแม้ว่าไม่มีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บทุติยภูมิหลักฐานที่พบให้เบื้องต้น tisc อาจจะปฏิบัติเป็นประโยชน์เพื่อลดความเสี่ยงของความท้อแท้และรักษาแรงงานบวกประสบการณ์ของงานของพวกเขา อย่างไรก็ตามคนงานได้รับบาดเจ็บมัธยมมีแนวโน้มที่จะต้องแทรกแซงเฉพาะเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้พวกเขากับการกู้คืนของพวกเขา