constant, Kahanec and Zimmermann (2

constant, Kahanec and Zimmermann (2009) study opinions and attitudes towards immigrants and minorities and their interactions with other barriers to minorities economic integration. they use a unique dataset the gauge the perspectives of expert stakeholders and of ethnics minorities on their integration situation and the main barriers that hinder it. in this survey about themselves. they find that ethnics minorities face integration problems and the natives general negative attitude are a key factor of the of the challenging situation of minorities. while discrimination is acknowledged as the single most important integration barriers, low education and self-confidence as well as cultural differences also hinder integration. lastly, minorities do want change and want it to come about by policies based on the principle of equal treatment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าคง Kahanec และ Zimmermann (2009) การศึกษาความคิดเห็น และทัศนคติอพยพ และคมิ และการโต้ตอบกับอุปสรรคอื่น ๆ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจคมิ ใช้ชุดข้อมูลเฉพาะมาตรวัดมุมมอง ของผู้เชี่ยวชาญเสีย และคมิ ethnics ในสถานการณ์ของพวกเขารวมและอุปสรรคหลักที่ขัดขวางนั้น ในแบบสำรวจนี้เกี่ยวกับตัวเอง พวกเขาพบว่า ethnics คมิหน้ารวมปัญหาและทัศนคติลบทั่วไปชาวพื้นเมืองเป็นปัจจัยสำคัญของการของสถานการณ์ที่ท้าทายของคมิ ในขณะที่แบ่งแยกเป็นการยอมรับว่า เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดรวมที่เดียว การศึกษาต่ำ และมีความมั่นใจ ตลอดจนความแตกต่างทางวัฒนธรรมยังขัดขวางรวม สุดท้ายนี้ คมิต้องเปลี่ยน และต้องมาเกี่ยวกับนโยบายที่ยึดหลักการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คง Kahanec และซิมเมอ (2009) การศึกษาความคิดเห็นและทัศนคติต่อผู้อพยพและชนกลุ่มน้อยและการมีปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีอุปสรรคอื่น ๆ ที่จะชนกลุ่มน้อยรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ พวกเขาใช้ชุดข้อมูลที่ไม่ซ้ำกันมาตรวัดมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้เชี่ยวชาญของชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติกับสถานการณ์รวมของพวกเขาและอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางมัน ในการสำรวจเกี่ยวกับตัวเองนี้ พวกเขาพบว่าชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติประสบปัญหาบูรณาการและชาวบ้านทั่วไปทัศนคติเชิงลบเป็นปัจจัยสำคัญของสถ​​านการณ์ที่ท้าทายของชนกลุ่มน้อย ในขณะที่การเลือกปฏิบัติเป็นที่ยอมรับเป็นอุปสรรคในการรวมกลุ่มเดียวที่สำคัญที่สุดการศึกษาต่ำและความเชื่อมั่นในตัวเองเช่นเดียวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการรวมกลุ่ม สุดท้ายชนกลุ่มน้อยไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงและอยากให้มันมาเกี่ยวกับนโยบายตามหลักการของการรักษาที่เท่าเทียมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คงที่ และ kahanec ซิมเมอร์มันน์ ( 2552 ) ศึกษาความคิดเห็นและทัศนคติ และชนกลุ่มน้อย และปฏิสัมพันธ์กับอุปสรรคอื่น ๆเพื่อชนกลุ่มน้อย การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอพยพ พวกเขาใช้ข้อมูลเฉพาะวัดมุมมองของผู้เชี่ยวชาญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยในสถานการณ์บูรณาการและหลักอุปสรรคที่ขัดขวางมัน ในการสำรวจนี้เกี่ยวกับตัวเองพวกเขาพบว่าชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยหน้าการบูรณาการปัญหาและชาวบ้านทั่วไปมีทัศนคติเชิงลบเป็นปัจจัยสําคัญของสถานการณ์ที่ท้าทายของชนกลุ่มน้อย ในขณะที่การเลือกปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการส่งเสริมการศึกษาน้อยและความเชื่อมั่นในตนเอง เช่นเดียวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมยังขัดขวางการรวม ท้ายนี้ชนกลุ่มน้อยต้องการเปลี่ยนแปลง และอยากให้มันมาเกี่ยวกับนโยบายบนพื้นฐานของหลักการของการรักษาเท่าเทียมกัน