Results showed that the queue chara

Results showed that the queue characteristics of the studied pharmacy during the situation analysis were very undesirable in both morning and evening shifts. The average numbers of patients in the pharmacy were 19.21 and 14.66 in the morning and evening, respectively. The average times spent in the system by clients were 39 minutes in the morning and 35 minutes in the evening. The system utilization in the morning and evening were, respectively, 25% and 21%. The simulation results showed that reducing the staff in the morning from 2 to 1 in the receiving prescriptions stage didn't change the queue performance indicators. Increasing one staff in filling prescription drugs could cause a decrease of 10 persons in the average queue length and 18 minutes and 14 seconds in the average waiting time. On the other hand, simulation results showed that in the evening, decreasing the staff from 2 to 1 in the delivery of prescription drugs, changed the queue performance indicators very little. Increasing a staff to fill prescription drugs could cause a decrease of 5 persons in the average queue length and 8 minutes and 44 seconds in the average waiting time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์แสดงให้เห็นลักษณะคิวของเภสัชศาสตร์ studied ในระหว่างการวิเคราะห์สถานการณ์ที่มีผลมากทั้งตอนเช้าและตอนเย็นกะ ตัวเลขเฉลี่ยของผู้ป่วยในได้ 19.21 และ 14.66 ในช่วงเช้าและเย็น ตามลำดับ เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในระบบ โดยลูกค้าได้ 39 นาที ในตอนเช้า และตอนเย็น 35 นาที ใช้ระบบในช่วงเช้าและช่วงเย็นได้ ตามลำดับ 25% และ 21% ผลการทดลองพบว่า ลดพนักงานในช่วงเช้าจาก 2 เป็น 1 ในระยะแผนรับเปลี่ยนตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพของคิว เพิ่มพนักงานหนึ่งในการบรรจุยาอาจทำให้เกิดการลดลงของ 10 ท่านคิวเฉลี่ย และ ความ ยาว 18 นาที 14 วินาทีในค่าเฉลี่ยที่รอเวลา บนมืออื่น ๆ ผลการทดลองพบว่า ในช่วงเย็น ลดพนักงานจาก 2 เป็น 1 ในการจัดส่งยา เปลี่ยนแปลงตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพคิวน้อยมาก เพิ่มพนักงานเพื่อเติมยาอาจทำให้เกิดการลดลงของ 5 คนความยาวเฉลี่ยคิว และ 8 นาที 44 วินาทีในค่าเฉลี่ยที่รอเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษาพบว่าลักษณะคิวของร้านขายยาที่ศึกษาระหว่างการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้มากทั้งในตอนเช้าและตอนเย็นกะ ตัวเลขเฉลี่ยของผู้ป่วยในร้านขายยาเป็น 19.21 และ 14.66 ในช่วงเช้าและเย็นตามลำดับ เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในระบบโดยลูกค้าเป็น 39 นาทีในตอนเช้าและ 35 นาทีในตอนเย็น การใช้ประโยชน์ของระบบในช่วงเช้าและเย็นมีตามลำดับ 25% และ 21% ผลการจำลองแสดงให้เห็นว่าการลดพนักงานในช่วงเช้าจาก 2 เป็น 1 ในขั้นตอนที่ได้รับใบสั่งยาที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดประสิทธิภาพคิว การเพิ่มขึ้นของพนักงานคนหนึ่งในการกรอกยาตามใบสั่งแพทย์อาจก่อให้เกิดการลดลง 10 คนในความยาวคิวเฉลี่ยและ 18 นาทีและ 14 วินาทีในเวลาที่รอคอยเฉลี่ย ในทางกลับกันผลการจำลองแสดงให้เห็นว่าในช่วงเย็นลดพนักงาน 2-1 ในการส่งมอบยาตามใบสั่งแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดประสิทธิภาพคิวน้อยมาก การเพิ่มขึ้นของพนักงานที่จะกรอกยาอาจทำให้เกิดการลดลง 5 คนในความยาวคิวเฉลี่ยและ 8 นาทีและ 44 วินาทีในเวลาที่รอคอยเฉลี่ย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาพบว่า ลักษณะของคิวเรียนเภสัชศาสตร์ ในการวิเคราะห์สถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์มากทั้งเช้ากะเย็น ค่าเฉลี่ยของจำนวนผู้ป่วย ในร้านขายยาและมี 14.66 19.21 ในตอนเช้าและเย็น ตามลำดับ เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในระบบ โดยลูกค้าจำนวน 39 นาที ในตอนเช้า และ 35 นาทีในตอนเย็นระบบการใช้ในตอนเช้าและตอนเย็นได้ตามลำดับ ร้อยละ 25 และ 21 เปอร์เซ็นต์ ผลการจำลองแบบพบว่า การลดพนักงานในตอนเช้า จาก 2 เป็น 1 ในได้รับใบสั่งยาเวทีไม่ได้เปลี่ยนคิวประสิทธิภาพตัวชี้วัดเพิ่มเจ้าหน้าที่หนึ่งในการกรอกใบสั่งยาอาจก่อให้เกิดการลดลงของ 10 คน ในความยาวคิวเฉลี่ย 18 นาที 14 วินาทีในเวลารอคอยเฉลี่ย . บนมืออื่น ๆ , ผลการจำลองพบว่า ในช่วงเย็น ลดพนักงานจาก 2 เป็น 1 ในการส่งมอบยา เปลี่ยนคิวตัวชี้วัดการปฏิบัติงานน้อยมากการเพิ่มพนักงานเพื่อเติมยาอาจก่อให้เกิดการลดลงของ 5 คน ในความยาวคิวเฉลี่ย 8 นาที 44 วินาทีในเวลารอคอยเฉลี่ย
.