Japan’s reliance on thermal energy

Japan’s reliance on thermal energy sources increased sharply following the Great East Japan Earthquake, as all nuclear power plants were closed until mid-2015. The government envisages that nuclear power will supply around 20% of electricity in 2030, compared to around 30% before the earthquake, which would reduce energy costs and greenhouse gas emissions. The plan to enhance competition in the electricity sector will facilitate the use of renewable energy from its current low level and promote green growth. Japan's relatively low taxation of CO2-emitting fuels, especially in heating and industrial processing, could be increased.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พึ่งแหล่งพลังงานความร้อนที่เพิ่มขึ้นที่อย่างรวดเร็วต่อดีตะวันออกญี่ปุ่นแผ่นดินไหว เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดถูกปิดจนมิด 2015 ของญี่ปุ่น รัฐบาล envisages นิวเคลียร์นั้นจะใส่ประมาณ 20% ของไฟฟ้าในปี 2030 เปรียบเทียบกับประมาณ 30% ก่อนแผ่นดินไหว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนพลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการเพิ่มการแข่งขันในภาคไฟฟ้าจะอำนวยความสะดวกในการใช้พลังงานทดแทนจากระดับต่ำสุดที่เป็นปัจจุบัน และส่งเสริมการเจริญเติบโตสีเขียว อาจมีเพิ่มภาษีค่อนข้างต่ำของญี่ปุ่นของ CO2 เปล่งเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำความร้อนและกระบวนการอุตสาหกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ญี่ปุ่นพึ่งพาแหล่งพลังงานความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อไปนี้แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ทั้งหมดถูกปิดจนกว่า mid-2015 . รัฐบาลให้ว่า พลังงานนิวเคลียร์จะจัดหาประมาณ 20% ของไฟฟ้าในปี 2573 เมื่อเทียบกับรอบ 30 % ก่อนการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกการส่งเสริมการแข่งขันในภาคไฟฟ้าจะสะดวกในการใช้พลังงานทดแทนจากระดับต่ำของปัจจุบัน และส่งเสริมการเจริญเติบโตสีเขียว ของญี่ปุ่นที่ค่อนข้างต่ำของ CO2 โดยภาษีเชื้อเพลิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความร้อนและการประมวลผลอุตสาหกรรม
สูงขึ้นได้