ชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย(ชสอ.)
ชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย(ชสอ. ) ได้รับการจดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติสหกรณ์สังคม เป็นสถาบันการเงินตามประกาศของกระทรวงการคลัง และเป็นสถาบันแห่งชาติของเงินฝากออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตทั่วประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในการออมทรัพย์ โดยการที่สมาชิกฝากเงินไว้กับสหกรณ์ในลักษณะของการถือหุ้น เป็นประจำสม่ำเสมอ นอกจากนี้สมาชิกสามารถกู้ยืมเงินได้เมื่อเกิดความจำเป็น ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าสถาบันการเงินอื่น
การให้บริการหลักทางด้านการเงินของ ชสอ. ได้แก่ บริการเงินกู้แก่สมาชิก เป็นบริการที่จัดให้มีขึ้นตามวัตถุประสงค์ของชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนทางด้านการเงินแก่สหกรณ์สมาชิกในการรักษาสภาพคล่องและเป็นทุนหมุนเวียนให้กู้ยืมแก่สมาชิกสหกรณ์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและเป็นธรรม บริการต่อมาคือ บริการเงินรับฝากและตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นบริการเพื่อการเก็บออมในรูปของเงินฝากประจำ โดยสามารถเลือกฝากได้ตามประเภทประจำ และจัดบริการลงทุนในรูปตั๋วสัญญาใช้เงินที่มุ่งประโยชน์สูงสุด สำหรับสหกรณ์สมาชิก และผู้ใช้บริการทั่วไปสามารถเลือกลงทุน ได้ทั้งประเภทเผื่อเรียก และประเภทมีกำหนดเวลา
ในที่นี้จะยกตัวอย่างการลงทุนโดยการซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น เป็นบริการสินเชื่อระยะสั้นที่มีระยะเวลาชำระคืนภายใน 1 ปีกับ ชสอ. อัตราดอกเบี้ยจะกำหนดตามระยะเวลาและมูลค่าของตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งตั๋วสัญญาใช้เงินต้องมีมูลค่าขั้นต่ำตั้งแต่ 10000 บาท ขึ้นไป ผู้ลงทุนในตั๋วสัญญาใช้เงินในระยะสั้นสามารถกำหนดช่วงเวลาและระยะเวลาการใช้เงินได้ตรงตามความจุดประสงค์
เหตุผลที่เลือกชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย
สหกรณ์ออมทรัพย์มีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายสหกรณ์ และกระทรวงการคลังได้ประกาศให้สหกรณ์ออมทรัพย์คิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้เช่นเดียวกับสถาบันการเงิน ตามประกาศกระทรวงการคลัง การดำเนินธุรกิจ สหกรณ์มีทุนดำเนินงานมาจากเงินค่าหุ้น และเงินรับฝากจากสมาชิก ซึ่งมีทั้งเงินฝากประจำและเงินฝากออมทรัพย์โดยไม่มีเงินกู้ยืมจากต่างประเทศ ในปัจจุบันมีสหกรณ์ออมทรัพย์ทั้งสิ้น 1,227 สหกรณ์ เงินทุนเหล่านี้จะนำไปให้กู้ยืมแก่สมาชิกที่เดือดร้อนเป็นการให้เงินกู้แก่สมาชิก สำหรับการส่งชำระค่าหุ้น และชำระหนี้เงินกู้ สหกรณ์ใช้ระบบการหักเงิน ณ ที่จ่าย ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนไหลเข้า สหกรณ์อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน
ด้วยวิธีการดังกล่าว ธุรกิจของสหกรณ์จึงมีความมั่นคงอย่างสูง ซึ่งจุดแข็งของสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ช่วยเสริมสร้างมั่นใจ คือ ส่วนมากตั้งอยู่ในกลุ่มคนที่มีเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำ ทั้งในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจเอกชน สมาชิกจึงมีระดับการศึกษาค่อนข้างสูง และนอกจากนี้ ได้รับการสนับสนุนจากต้นสังกัดในการอำนวยความสะดวกในการหักเงินเดือนหรือ ค่าจ้างของสมาชิกส่งให้สหกรณ์เป็นเงินออมและเงินงวดชำระหนี้