การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนัก การแปล - การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนัก ไทย วิธีการพูด

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ปีการศึกษา พ.ศ.2556 (2) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทย และ (3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเชิงปริมาณ จากนักเรียนนายร้อย ชั้นปีที่ 1- 4 รวมจำนวน 797 คน สามารถเก็บตัวอย่างได้ 590 คน เครื่องมือวิจัยใช้แบบสอบถามและการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (xˉ) ค่าร้อยละ (%) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 9 คน ได้แก่ รองผู้บัญชาการ รร.จปร. จำนวน 1 คน อาจารย์ประจำกองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์ จำนวน 2 คน นายทหารปกครอง กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ จำนวน 2 คน และผู้แทนนักเรียนนายร้อยแต่ละชั้นปี ชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 4 คน เครื่องมือวิจัยใช้การสัมภาษณ์และวิเคราะห์เชิงพรรณนา
ผลการวิจัย (1) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย จากการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่ามีการแสดงออกพฤติกรรมทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลาง (xˉ=3.29) โดยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุด (xˉ=3.99) และการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่านักเรียนนายร้อยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนรวมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุด เป็นผลมาจากการสนับสนุนของ รร.จปร. เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และป้องกันการเสียสิทธิทางการเมือง (2) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทย จากการวิจัยเชิงปริมาณ เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน พบว่าพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยมีความสัมพันธ์ทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 กับพัฒนาการทางการเมืองไทย ไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งด้านความเสมอภาค ด้านการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผล และด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาล ตามลำดับ และการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่าพฤติกรรมทางการเมืองจะมีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยในทุกๆ ด้าน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งจะมีผลต่อการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุด เพราะต้องใช้เหตุผลในการตัดสินใจ และผู้ที่ได้รับเลือกก็ต้องใช้เหตุผลในการทำงาน การปลูกฝังอุดมการณ์ทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความเสมอภาคและการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุด เพราะความเสมอภาคและหลักการใช้เหตุผลคือพื้นฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลมากที่สุด เพราะการรับรู้ข่าวสารนำไปสู่ความตื่นตัวทางการเมือง มีการติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล จากผลการวิจัยทั้งสองแบบพบว่ามีความสอดคล้องกัน โดยพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยจะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพัฒนาการทางการเมืองไทย และ (3) ปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย ได้แก่ ด้านตัวนักเรียนนายร้อยที่บางส่วนยังขาดความเข้าใจและมีทัศนคติเชิงลบต่อการเมืองแบบประชาธิปไตย ข้อจำกัดด้านเวลา เพราะต้องฝึกศึกษาตามหลักสูตรที่เน้นการสร้างนายทหารอาชีพในบทบาทผู้พิทักษ์ ประกอบกับสภาพสังคมนักเรียนนายร้อยที่มีแบบแผนในการดำรงชีวิตและต้องทำตามระเบียบปฏิบัติประจำวัน ด้านระบบและธรรมเนียมทหารที่ต้องยึดถือ และการปฏิบัติตามกรอบนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยเท่าที่ควร
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าปีการศึกษา พ.ศ.2556 (2) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยและ (3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพโดยการวิจัยเชิงปริมาณจากนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1 - 4 รวมจำนวน 797 คนสามารถเก็บตัวอย่างได้ 590 คนเครื่องมือวิจัยใช้แบบสอบถามและการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนาได้แก่ค่าเฉลี่ย (xˉ) ค่าร้อยละ (%) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันการวิจัยเชิงคุณภาพใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจำนวน 9 คนได้แก่รองผู้บัญชาการรร.จปร จำนวน 1 คนอาจารย์ประจำกองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์จำนวน 2 คนนายทหารปกครองกรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์จำนวน 2 คนและผู้แทนนักเรียนนายร้อยแต่ละชั้นปีชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 4 คนเครื่องมือวิจัยใช้การสัมภาษณ์และวิเคราะห์เชิงพรรณนา ผลการวิจัย (1) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยจากการวิจัยเชิงปริมาณพบว่ามีการแสดงออกพฤติกรรมทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลาง (xˉ = 3.29) โดยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุด (xˉ = 3.99) และการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่านักเรียนนายร้อยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนรวมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุดเป็นผลมาจากการสนับสนุนของรร.จปร เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและป้องกันการเสียสิทธิทางการเมือง (2) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยจากการวิจัยเชิงปริมาณเมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันพบว่าพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยมีความสัมพันธ์ทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 กับพัฒนาการทางการเมืองไทยไปในทิศทางเดียวกันทั้งด้านความเสมอภาคด้านการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลและด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลตามลำดับและการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่าพฤติกรรมทางการเมืองจะมีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยในทุก ๆ ด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งจะมีผลต่อการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุดเพราะต้องใช้เหตุผลในการตัดสินใจและผู้ที่ได้รับเลือกก็ต้องใช้เหตุผลในการทำงานการปลูกฝังอุดมการณ์ทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความเสมอภาคและการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุดเพราะความเสมอภาคและหลักการใช้เหตุผลคือพื้นฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยและการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลมากที่สุดเพราะการรับรู้ข่าวสารนำไปสู่ความตื่นตัวทางการเมืองมีการติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลจากผลการวิจัยทั้งสองแบบพบว่ามีความสอดคล้องกันโดยพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยจะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพัฒนาการทางการเมืองไทยและ (3) ปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยได้แก่ด้านตัวนักเรียนนายร้อยที่บางส่วนยังขาดความเข้าใจและมีทัศนคติเชิงลบต่อการเมืองแบบประชาธิปไตยข้อจำกัดด้านเวลาเพราะต้องฝึกศึกษาตามหลักสูตรที่เน้นการสร้างนายทหารอาชีพในบทบาทผู้พิทักษ์ประกอบกับสภาพสังคมนักเรียนนายร้อยที่มีแบบแผนในการดำรงชีวิตและต้องทำตามระเบียบปฏิบัติประจำวันด้านระบบและธรรมเนียมทหารที่ต้องยึดถือและการปฏิบัติตามกรอบนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยเท่าที่ควร
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ปีการศึกษา พ.ศ.2556 (2) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทย และ (3) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยการวิจัยเชิงปริมาณ จากนักเรียนนายร้อย ชั้นปีที่ 1- 4 รวมจำนวน 797 คน สามารถเก็บตัวอย่างได้ 590 คน เครื่องมือวิจัยใช้แบบสอบถามและการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (xˉ) ค่าร้อยละ (%) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD.) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 9 คน ได้แก่ รองผู้บัญชาการ รร.จปร. จำนวน 1 คน อาจารย์ประจำกองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์ จำนวน 2 คน นายทหารปกครอง กรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ จำนวน 2 คน และผู้แทนนักเรียนนายร้อยแต่ละชั้นปี ชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 4 คน เครื่องมือวิจัยใช้การสัมภาษณ์และวิเคราะห์เชิงพรรณนา
ผลการวิจัย (1) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย จากการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่ามีการแสดงออกพฤติกรรมทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลาง (xˉ=3.29) โดยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุด (xˉ=3.99) และการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่านักเรียนนายร้อยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนรวมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุด เป็นผลมาจากการสนับสนุนของ รร.จปร. เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และป้องกันการเสียสิทธิทางการเมือง (2) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทย จากการวิจัยเชิงปริมาณ เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน พบว่าพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยมีความสัมพันธ์ทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 กับพัฒนาการทางการเมืองไทย ไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งด้านความเสมอภาค ด้านการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผล และด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาล ตามลำดับ และการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่าพฤติกรรมทางการเมืองจะมีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยในทุกๆ ด้าน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งจะมีผลต่อการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุด เพราะต้องใช้เหตุผลในการตัดสินใจ และผู้ที่ได้รับเลือกก็ต้องใช้เหตุผลในการทำงาน การปลูกฝังอุดมการณ์ทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความเสมอภาคและการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุด เพราะความเสมอภาคและหลักการใช้เหตุผลคือพื้นฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย และการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลมากที่สุด เพราะการรับรู้ข่าวสารนำไปสู่ความตื่นตัวทางการเมือง มีการติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล จากผลการวิจัยทั้งสองแบบพบว่ามีความสอดคล้องกัน โดยพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยจะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพัฒนาการทางการเมืองไทย และ (3) ปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย ได้แก่ ด้านตัวนักเรียนนายร้อยที่บางส่วนยังขาดความเข้าใจและมีทัศนคติเชิงลบต่อการเมืองแบบประชาธิปไตย ข้อจำกัดด้านเวลา เพราะต้องฝึกศึกษาตามหลักสูตรที่เน้นการสร้างนายทหารอาชีพในบทบาทผู้พิทักษ์ ประกอบกับสภาพสังคมนักเรียนนายร้อยที่มีแบบแผนในการดำรงชีวิตและต้องทำตามระเบียบปฏิบัติประจำวัน ด้านระบบและธรรมเนียมทหารที่ต้องยึดถือ และการปฏิบัติตามกรอบนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยเท่าที่ควร
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ( 1 ) ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าปีการศึกษาพ . ศ .2556 ( 2 ) ( 3 ) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการแสดงพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อย
ศึกษาพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยและการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพโดยการวิจัยเชิงปริมาณจากนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1 - 4 รวมจำนวน 797 คนสามารถเก็บตัวอย่างได้ 590 คนได้แก่ค่าเฉลี่ย ( X ˉ ) ค่าร้อยละ ( % ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( SD) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันการวิจัยเชิงคุณภาพใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจำนวน 9 คนได้แก่รองผู้บัญชาการรร . จปร .จำนวน 1 คนอาจารย์ประจำกองวิชากฎหมายและสังคมศาสตร์จำนวน 2 คนนายทหารปกครองกรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์จำนวน 2 คนและผู้แทนนักเรียนนายร้อยแต่ละชั้นปีชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 4 คน
ผลการวิจัย ( 1 ) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยจากการวิจัยเชิงปริมาณพบว่ามีการแสดงออกพฤติกรรมทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลาง ( X ˉ = 3.29 ) โดยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุดˉ ( X = 399 ) และการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่านักเรียนนายร้อยแสดงพฤติกรรมการมีส่วนรวมในกิจกรรมการเลือกตั้งมากที่สุดเป็นผลมาจากการสนับสนุนของรร . จปร .เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและป้องกันการเสียสิทธิทางการเมือง ( 2 ) พฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยที่มีผลต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยจากการวิจัยเชิงปริมาณพบว่าพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยมีความสัมพันธ์ทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 001 กับพัฒนาการทางการเมืองไทยไปในทิศทางเดียวกันทั้งด้านความเสมอภาคด้านการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลและด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลตามลำดับและการวิจัยเชิงคุณภาพด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเลือกตั้งจะมีผลต่อการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีเหตุผลมากที่สุดเพราะต้องใช้เหตุผลในการตัดสินใจและผู้ที่ได้รับเลือกก็ต้องใช้เหตุผลในการทำงานเพราะความเสมอภาคและหลักการใช้เหตุผลคือพื้นฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตยและการรับรู้ข่าวสารทางการเมืองจะมีผลต่อด้านความสามารถในการปรับตัวของรัฐบาลมากที่สุดมีการติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลจากผลการวิจัยทั้งสองแบบพบว่ามีความสอดคล้องกันโดยพฤติกรรมทางการเมืองของนักเรียนนายร้อยจะมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพัฒนาการทางการเมืองไทยและ ( 3 )ได้แก่ด้านตัวนักเรียนนายร้อยที่บางส่วนยังขาดความเข้าใจและมีทัศนคติเชิงลบต่อการเมืองแบบประชาธิปไตยข้อจำกัดด้านเวลาเพราะต้องฝึกศึกษาตามหลักสูตรที่เน้นการสร้างนายทหารอาชีพในบทบาทผู้พิทักษ์ด้านระบบและธรรมเนียมทหารที่ต้องยึดถือและการปฏิบัติตามกรอบนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการมีส่วนร่วมแบบประชาธิปไตยเท่าที่ควร
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: